“ชัยธวัช” ลั่น “ไชยามพวาน” ไม่สำนึก กลับซ้ำเติมผู้ถูกกระทำทั้ง 3 ราย

“ชัยธวัช” ลั่น “ปูอัด ไชยามพวาน” ไม่สำนึก ไม่ยอมรับพฤติกรรมที่คุกคามทางเพศ กลับก่อความเสียหายซ้ำเติมผู้ถูกกระทำทั้ง 3 ราย หากพบขัดต่อมติ กก.บห. เตรียมประชุม กก.บห. ร่วมกับ สส. ลงมติอีกครั้งขับออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล

เมื่อเวลา 17.41 น. ของวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความภายหลังได้ฟังการแถลงของ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ซึ่งถูกคาดโทษและตัดสิทธิพึงมี จากกรณีคุกคามทางเพศ มีความเห็นส่วนตัว ว่า แม้ นายไชยามพวาน จะแถลงว่าน้อมรับมติของพรรคและขอโทษ หากเห็นว่าการกระทำของตนเองถือเป็นการคุกคามทางเพศ แต่เมื่อพิจารณาสาระสำคัญในการแถลงแล้ว จะเห็นได้ว่า นายไชยามพวาน ไม่ได้สำนึกหรือยอมรับว่าพฤติการณ์ของตนนั้น เข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศแม้แต่น้อย และไม่ได้ขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจ

ขณะเดียวกัน นายไชยามพวาน นำข้อความของผู้เสียหายรายที่หนึ่งมาแสดงต่อสาธารณะ โดยเจตนาจะแสดงให้เห็นว่า ตนเองกับผู้เสียหายมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ดังนั้น การล่วงเกินทางเพศที่มีต่อผู้เสียหายคนดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา จึงเกิดขึ้นโดยความยินยอม หรืออย่างน้อยผู้เสียหายก็ไม่ได้แสดงการต่อต้านหรือความไม่พอใจใดๆ หลังเกิดเหตุ ต่อมา ยังได้แสดงข้อมูลเพื่อแสดงให้เห็นว่า การถ่ายรูปและคลิปของผู้เสียหายรายที่ 2 นั้น ไม่น่าจะถือเป็นการคุกคามทางเพศ และสุดท้าย นายไชยามพวาน ยืนยันว่า ตนเองแตะเนื้อต้องตัวผู้อื่นเป็นประจำ การแตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายรายที่สามนั้นเป็นไปในฐานะเพื่อนร่วมงาน ไม่ได้มีเจตนาหรือเป้าประสงค์ทางเพศ

ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล

...

นายชัยธวัช ระบุต่อไปว่า ในฐานะที่เป็นกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งของพรรคก้าวไกล ขอชี้แจงว่า คณะกรรมการบริหารพรรคทราบข้อเท็จจริงและข้อโต้แย้งข้อกล่าวหาทั้งหมดของ นายไชยามพวาน โดย นายไชยามพวาน พยายามแสดงหลักฐานเพื่อสื่อว่าการล่วงเกินทางเพศต่อผู้เสียหายรายที่ 1 นั้น เกิดขึ้นโดยอีกฝ่ายไม่เคยแสดงอาการไม่ยินยอมใดๆ เลย ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาแล้วเห็นว่า การล่วงเกินทางเพศเกิดขึ้นโดยผู้เสียหายอยู่ในสภาพมึนเมา ย่อมไม่อยู่ในสถานะที่สามารถให้การยินยอมหรือไม่ยินยอมได้ นอกจากนี้ นายไชยามพวาน ยังมีพฤติกรรมที่ส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ โดยการพาผู้เสียหายไปที่คอนโดมีเนียมของตนเอง

ทั้งนี้ แม้ความสัมพันธ์ระหว่าง นายไชยามพวาน กับผู้เสียหายก่อนและหลังเกิดเหตุการณ์ล่วงเกินทางเพศจะดูเป็นปกติหรือดีต่อกัน แต่ผู้เสียหายรายที่ 1 ไม่เคยยินยอมให้ นายไชยามพวาน มีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยอีกเลย เพราะย่อมต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย การมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไม่ได้หมายความว่าฝ่ายชายสามารถจะมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฝ่ายหญิงได้ตามใจชอบ อีกทั้งความสัมพันธ์อันดีอาจเกิดจากความต้องการทำงานร่วมกับพรรคและ สส.ของพรรคในอนาคต เมื่อ นายไชยามพวาน ได้เป็น สส.แล้ว ได้ลดการมอบหมายงานให้ผู้เสียหายรายที่ 1 ภายหลังจากที่ผู้เสียหายรายที่ 2 เข้ามาเป็นทีมงาน

ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล

สำหรับกรณีผู้เสียหายรายที่ 2 คณะกรรมการบริหารพรรคไม่ได้พิจารณาความผิดจากข้อเท็จจริงเรื่องการถ่ายรูปและคลิปตามที่ นายไชยามพวาน กล่าวถึง เนื่องจากเห็นว่ารับฟังไม่ได้ว่าเป็นการคุกคามทางเพศจริง แต่คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า นอกจากจะมีพฤติการณ์แตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายแล้ว ขณะที่ นายไชยามพวาน เป็น สส. ยังได้ชักชวนผู้เสียหายรายที่ 2 ไปต่างจังหวัดสองต่อสอง 2 ครั้ง โดยไม่เกี่ยวข้องกับงานในความรับผิดชอบของผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายปฏิเสธทั้ง 3 ครั้ง ขณะที่กรณีผู้เสียหายรายที่ 3 ผู้เสียหายเห็นว่า นายไชยามพวาน มีพฤติกรรมพยายามเข้าหาและพูดคุยในลักษณะที่ทำให้รู้สึกถูกคุกคามทางเพศ จนทำให้ต้องขอลาออกจากทีมงานหลังเข้ามาทำงานได้ไม่ถึง 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารพรรค พิจารณาพฤติการณ์และข้อเท็จจริงทั้ง 3 รายประกอบกัน ซึ่งมีลักษณะต่อเนื่องและมีรูปแบบทำนองเดียวกัน จึงเห็นว่า นายไชยามพวาน มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศต่อผู้เสียหายทั้ง 3 ราย และล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหาย 1 ราย โดยผู้เสียหายทั้งหมดมีสถานะเป็นอาสาสมัครหรือผู้ช่วยดำเนินงานของ นายไชยามพวาน ซึ่งด้วยความที่ นายไชยามพวาน มีอำนาจหรือสถานะเหนือกว่าผู้เสียหาย สามารถให้คุณให้โทษต่อผู้เสียหายได้ จึงส่งผลให้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง นายไชยามพวาน กับผู้เสียหายในระยะเวลาหนึ่ง อาจเกิดจากเนื่องจากปัจจัยด้านสถานะการจ้างงาน ความมั่นคงทางรายได้ หรือความต้องการทำงานร่วมกับพรรคและ สส.ของพรรค 

อีกทั้ง ข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย เป็นอาสาสมัครและ/หรือผู้ช่วยดำเนินงานของ นายไชยามพวาน ยังส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อระบบอาสาสมัครของพรรค ทำให้การทำงานเป็นอาสาสมัครหรือทีมงานของพรรคไม่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งควรต้องปลอดจากการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศในทุกรูปแบบ

“ผมเห็นว่า การแถลงของคุณไชยามพวานในวันนี้ นอกจากจะไม่สำนึกยอมรับผิดและขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจแล้ว ยังอาจเป็นการก่อความเสียหายซ้ำเติมต่อผู้ถูกกระทำทั้ง 3 รายอีกด้วย ดังนั้น หลังจากวันเสาร์นี้ (4 พฤศจิกายน 2566) ผมในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้พิจารณาว่า นายไชยามพวาน กระทำการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคหรือไม่

หากคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่า คุณไชยามพวาน กระทำการขัดต่อมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ก็จะนำไปสู่กระบวนการทางวินัยจากฐานการฝ่าฝืนมติคณะกรรมการบริหารพรรคดังกล่าว อันเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และหากมีความผิดจริงก็จะนำไปสู่การจัดประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารกับ สส.ของพรรค เพื่อมีมติให้คุณไชยามพวาน พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลหรือไม่ ต่อไป”

(ภาพ : ศรันย์ พงษ์สวัสดิ์)

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...