“เสรี” ชี้ ตอบยากโหวตนายกฯ จบในพรุ่งนี้หรือไม่ “วันชัย” มั่นใจ สว.ไม่ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง หนุนเกิน 190 เสียง ชี้ เมื่อเสียงส่วนใหญ่เสนอเข้ามาก็ควรให้ความเห็นชอบ “ดิเรกฤทธิ์” รับ กังวลคุณสมบัติ “เศรษฐา”
วันที่ 21 สิงหาคม 2566 นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ว่า หลังได้รับยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องที่ดินของ นายเศรษฐา ทางคณะกรรมาธิการได้ขอเอกสารไปยังสำนักงานที่ดิน ซึ่งวันนี้จะมีการพูดคุยกันในห้องประชุม แต่ขออย่ากังวลเพียงเรื่องนี้ เพราะการจะโหวตต้องพิจารณาอีกหลายเรื่อง พร้อมย้ำว่าในหลายเรื่องนี้มีผลต่อการพิจารณาของ สว.แน่นอน เพราะเป็นพฤติกรรมก่อนหน้าที่จะมีการพิจารณาเรื่องของคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติ เกี่ยวกับผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่มีกระแสว่า สว.หลายคน ยังไม่เห็นชอบที่จะให้ นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี นายเสรี บอกว่า ช่วงนี้คงเป็นความเห็นที่หลากหลาย เพราะแต่ละคนก็มีข้อมูลที่ได้รับมา แต่คงต้องรอดูในวันประชุมร่วมกันของรัฐสภาพรุ่งนี้ (22 สิงหาคม 2566) อีกครั้ง เพราะไม่เพียงแค่เรื่องจะโหวตเห็นชอบหรือไม่ แต่ต้องดูว่าสุดท้ายแล้วจะส่งชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีจะจบลงในวันพรุ่งนี้หรือไม่ นายเสรี ระบุว่าตอบยาก เพราะยังไม่รู้ว่าเสนอชื่อใคร และมติในที่ประชุมจะว่าอย่างไร รวมถึงความชัดเจนของพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพราะเป็นการลงคะแนนร่วมกันของ สว.และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ด้วยกัน
...
“สิ่งสำคัญคือมีประเด็นในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่ามีอะไรบ้าง เพราะสิ่งสำคัญที่ สว.ยึดมาตลอด ก็คือการไม่แตะต้อง หมวดที่ 1 และ 2 ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ สว.ไม่โหวตให้กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อย่างไรก็ตาม สว.ก็มีความกังวลด้วยถึงประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เนื่องจากจะเป็นการแก้ไขทั้งฉบับ และอาจมีผลพวงที่อาจแก้ไขบางมาตราหรือบางหมวด เพื่อให้ตรงความต้องการของบางกลุ่ม”
สำหรับการพิจารณาเพิ่มเติมการโหวตนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ นายเสรี กล่าวว่า ก็จะมีเรื่องของคุณสมบัติต้องห้าม รวมถึงจริยธรรมด้วย ก่อนจะยืนยันว่าตัวเองยังไม่มติในใจ และมองว่าผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีควรจะมาแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อที่จะให้ทุกฝ่ายเข้าใจแนวคิด รวมถึงอาจตอบข้อสงสัยได้ แม้รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้ต้องมาแสดงวิสัยทัศน์ก็ตาม แต่เมื่อทุกฝ่ายเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมาแสดงวิสัยทัศน์ ก็ถือว่าเป็นสิทธิของบุคคลนั้นๆ
“วันชัย” มั่นใจ สว.เห็นชอบเกิน 190 เสียง
นายวันชัย สอนศิริ สว. กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ยืนยันว่าเสียงที่พรรคเพื่อไทยต้องการประมาณ 60 เสียง ซึ่งหากตัด 13 คนที่โหวตให้เดิม จะเหลือเพียง 45 เสียง ตอนนี้เกินไปมากแล้ว เชื่อว่าน่าจะได้ถึง 190 เสียง เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ สว.จะไม่ให้ความเห็นชอบ เนื่องจากตอนนี้พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ ก็เข้าร่วมรัฐบาลแล้ว
“หากไม่ให้ความเห็นชอบจะตอบสังคมว่าอย่างไร และเท่าที่พูดคุยกับ สว.ตั้งแต่เช้า ทุกคนอยากให้ประเทศเดินหน้า ไม่มีใครอยากขวางกั้น เป็นจระเข้ขวางคลอง หรือเป็นอุปสรรคในการโหวตครั้งนี้ ดังนั้น ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรี สว.จะโหวตให้”
ขณะเดียวกัน นายวันชัย ยอมรับด้วยว่ายังมี สว.บางคนแสดงความคิดเห็นคัดค้าน แต่ขอพูดแบบเสียงดังฟังชัดเลยว่า เสียงส่วนใหญ่จะโหวตให้นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยแน่นอน เพราะเท่าที่พูดคุยสัญญาณดีมาก ส่วนเรื่องของคุณสมบัติเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป สว.มีเพียงหน้าที่ในการโหวต เมื่อเสียงส่วนใหญ่เสนอใครเข้ามาก็ควรให้ความเห็นชอบ
เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งตอนนี้กำลังถูกตรวจสอบอย่างหนัก และมี สว.บางส่วนไม่ค่อยพอใจนั้น นายวันชัย ระบุว่า เป็นเรื่องปกติ เหมือนกับตอนโหวต นายพิธา ที่มีสมาชิกลุกขึ้นอภิปรายเรื่องคุณสมบัติ และวันพรุ่งนี้ (22 สิงหาคม) ก็จะมีสมาชิกลุกขึ้นเช่นกัน แต่ยังเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่จะโหวตให้ถ้าเป็น นายเศรษฐา ไม่มีอะไรที่ประชาชนจะต้องกังวล วันพรุ่งนี้จะผ่านไปโดยไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับการตรวจสอบคุณสมบัติของ นายเศรษฐา ในคณะกรรมาธิการฯ วุฒิสภา จะมีผลต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวันชัย ให้คำตอบว่า แม้จะมีการตรวจสอบในชั้นกรรมาธิการฯ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และการเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องของสมาชิก 750 คน การแสดงความคิดเห็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่สามารถนำมาตัดสินความคิดเห็นของคนทั้งหมดได้ พร้อมตั้งคำถามว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องการแสดงความเห็นของบุคคลภายนอก หรือเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา 750 คน
“เชื่อว่า หากเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ นายชัยเกษม นิติสิริ ตลอดจน นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็อาจจะมีข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน ดังนั้น สมาชิกได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้จนตกผลึกว่า ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยเกี่ยวกับคุณสมบัติ ก็ให้ถือว่าบุคคลคนนั้นมีคุณสมบัติครบถ้วน และเชื่อว่า สว.ส่วนใหญ่จะสนับสนุนแนวทางนี้ และเชื่อว่าวันพรุ่งนี้จบเร็ว เพราะน่าจะใช้เวลาอภิปรายไม่มาก”
“ดิเรกฤทธิ์” กังวลคุณสมบัติ “เศรษฐา” จับตาเสนอชื่อใครนั่งนายกฯ
ทางด้าน นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว. กล่าวถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ได้แสดงความเห็นไปแล้ว ย้ำว่า หากเสียงของ สส.จะโหวตใคร 95-100% มีโอกาสได้ แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือจะเสนอชื่อใคร ซึ่งคนนั้นต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ และต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต สามารถนำพาประเทศชาติไปสู่ความสำเร็จ รวมถึงผู้รับการเสนอชื่อจะต้องแสดงความชัดเจนเรื่องของนโยบาย ที่จะสามารถพาประเทศไปสู่ความเรียบร้อย ความเจริญรุ่งเรือง
ส่วนกรณีที่มีการบอกว่า หากมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรก จะเสนอให้มีการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจาก ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง เรื่องนี้ตนต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนว่า เนื้อหาที่จะแก้ไขมีความจำเป็นแค่ไหน และเหตุผลที่ต้องแก้ไขทั้งฉบับ รวมถึงในหมวด 1 หมวด 2 จะต้องแก้ไขอยู่หรือไม่ ทั้งหมดนี้เป็นเกณฑ์สำคัญที่จะใช้พิจารณา คัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ พร้อมยอมรับว่า นายเศรษฐา เข้าองค์ประกอบที่เป็นข้อกังวลที่กล่าวไว้.
