“อนุทิน” ลงพื้นที่ “ภูเก็ต-พังงา” กำชับทุกฝ่ายใต้กระทรวงมหาดไทย เร่งสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวปลอดภัย เร่งพิจารณาโซนนิ่งขยายเวลาปิดสถานบันเทิง เน้นจังหวัดท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ
วันที่ 26 ตุลาคม 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคใต้ ที่โรงแรมมุกดาราบีช วิลล่า แอนด์ สปา รีสอร์ต ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเรื่องการจัดโซนนิ่ง ในเรื่องของการจัดสรรเวลาการเปิดสถานบันเทิง โดยต้องใช้กฎกระทรวง ซึ่งมีขั้นตอนอยู่ ตอนนี้ทางกรมการปกครองจะเร่งประกาศ โดยต้องมีการทำประชาพิจารณ์ คาดว่าไม่น่าจะช้า เพราะกำหนดเฉพาะบางจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว คาดว่าจะทำให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
สำหรับปัญหาเรื่องน้ำกินน้ำใช้ที่มีความจำเป็นต่อการท่องเที่ยว ในการพัฒนาเศรษฐกิจ จะเร่งสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ได้มาตรฐานสากล เช่น การนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน การขยายท่อประปา เพื่อให้พี่น้องประชาชนและเมืองท่องเที่ยวได้ใช้ เบื้องต้นให้ทางการประปาส่วนภูมิภาคทำการสำรวจ ศึกษา อีกท้ังเน้นย้ำเรื่องการพกพาอาวุธปืนว่า จะไม่มีการอนุญาตให้กับประชาชนทั่วไป ถ้าใครพกพาก็ผิดกฎหมาย ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล ทางกรมการปกครองได้เก็บข้อมูลไว้ ควบคุมกำกับดูแล โดยการทำบัญชีขึ้นมาไม่ให้บุคคลเหล่านี้ไปทำการผิดกฎหมาย หรือไปข่มเหงรังแกผู้ที่มีกำลังน้อยกว่า
...
ในเวลาต่อมา นายอนุทิน เดินทางมายังห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติ ภูเก็ต ร่วมหารือกับผู้ประกอบการ และภาคประชาชน ถึงแนวทางการพัฒนาพื้นที่จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งที่เราต้องเข้าใจตรงกันคือรายได้ในพื้นที่จำนวนมหาศาลมาจากการท่องเที่ยว นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ระบบสาธารณูปโภคที่ดี ความปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญ ยิ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ต้องร่วมมือกันรักษาความปลอดภัยให้คนพื้นที่และนักท่องเที่ยว ต้องสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น ประเทศไทยถือว่ามีความเซฟตี้ แต่ก็ต้องทำให้ดีขึ้นอีก เราต้องช่วยกันอธิบายด้วย หากมีการกล่าวโจมตีประเทศไทย
ทั้งนี้ ฝ่ายปกครองต้องเป็นหูเป็นตา เห็นใครทำผิดอย่าปล่อยไว้ ตอนนี้เรากำลังปราบปรามผู้มีอิทธิพล จัดระเบียบสังคม ต้องทำให้จริงจัง ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายแน่นอน ผู้ประกอบการก็ต้องเคารพกฎหมาย ถ้าทำถูกกฎหมายไม่มีอะไรที่ต้องกลัว ขอย้ำว่าอย่าปล่อยให้สถานประกอบการของท่านเป็นแหล่งซื้อขาย หรือใช้ยาเสพติดเด็ดขาด เพราะโทษหนักใครก็ช่วยไม่ได้ ส่วนเรื่องปืนเราไม่ออกใบอนุญาตพก จะสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมได้พอสมควร
“เราต้องจัดระเบียบเพื่อให้บ้านของท่าน พื้นที่ของท่าน มีความปลอดภัย เรื่องขยายเวลาเปิดสถานบริการกำลังทำอยู่ ท่านนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งมาแล้ว เพียงแต่มีขั้นตอนดำเนินการ ซึ่งการจะเปิดได้หรือไม่ก็ขึ้นกับการยินยอมของแต่ละพื้นที่ด้วย เราต้องฟังเสียงประชาชนและหาทางออกร่วมกัน ท่านนายกรัฐมนตรีต้องการให้ทำได้ภายในเดือนธันวาคม ผมจะทำให้เร็ว”.