ไทย - เวียดนาม เตรียมยกระดับสัมพันธ์สูงสุด หลังนายกฯเยือนทางการปีหน้า

ในการพบกันดังกล่าว รมว.กต. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน และนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เตรียมเยือนเวียดนามในปี 2567 เพื่อร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีไทย-เวียดนาม

รัฐมนตรีทั้งสองได้หารือความร่วมมือสาขาต่าง ๆ ระหว่างกันในทุกมิติ อาทิ ความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ไปจนถึงปฏิสัมพันธ์ระดับประชาชน ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นระดับภูมิภาค อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง อาเซียน และระหว่างประเทศด้วย

นอกจากนี้ รองนายกฯ ได้ย้ำถึงความพร้อมของฝ่ายไทยในการเยือนไทยของประธานสภาแห่งชาติเวียดนามเดือนธ.ค.ปีนี้ และได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเยือนไทยอย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน รมว.กต.เวียดนามยังได้แสดงความเสียใจต่อผลกระทบต่อแรงงานไทยในอิสราเอลด้วย

นายปานปรีย์ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า “นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งในการเปิดฉากความสัมพันธ์กับเวียดนาม เพราะได้มีการพูดถึงประเด็นความสัมพันธ์กันอย่างกว้างขวาง และหลากหลาย”

ทั้งสองฝ่ายยังได้ย้ำถึงการค้าการลงทุนระหว่างกัน ตั้งเป้ามูลค่าการค้าในปี 2568 อาจแตะ 25,000 ล้านดอลลาร์ จากเดิมอยู่ที่ 21,000 ล้านดอลลาร์ ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามก็ตอบรับ ที่จะดำเนินการอำนวยความสะดวกปัญหาอุปสรรคต่างๆให้ธุรกิจไทย ส่วนความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคทางเวียดนามให้ความสำคัญ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หรือ ACMECS และการเชื่อมโยง 3 มิติ น่วมถึงความร่วมมือระดับท้องถิ่นกับท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการลงทุนระหว่างประเทศในเวลานี้ด้วย

ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวเคยเสนอต่อรัฐบาลเวียดนาม แต่ยังไม่มีการตอบรับ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางเวียดนามตอบรับที่จะขับเคลื่อนความสัมพันธ์ดังกล่าวกับประเทศไทย ซึ่งถือเป็นน่ายินดี

รัฐมนตรีปานปรีย์ เผยด้วยว่า การหารือครั้งนี้ ยังมีชิ้นงานที่สำคัญที่สุด คือ การยกระดับการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับเวียดนามในระดับสูงสุด หรือหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์รอบด้าน ซึ่งถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนของเวียดนาม และคาดว่าจะสามารถประกาศการยกระดับอย่างเป็นทางการได้ หลังนายกรัฐมนตรีเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะส่งผลให้มีความสัมพันธ์ที่มีความใกล้ชิดระหว่างไทย-เวียดนามมากยิ่งขึ้น

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ