"ศรีสุวรรณ" จี้ "ชาดา" แสดงสปิริตลาออก รมช.มหาดไทย ให้สมกับฉายานักเลงจริงแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง ชี้ เพื่อรับผิดชอบ หลังลูกเขยโดนรวบปมเรียกรับสินบน 6 แสน
จากกรณีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าจับกุมตัว นายวีระชาติ รัศมี อายุ 45 ปี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นลูกเขยของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมพวก ร่วมกันทุจริตเรียกรับเงิน 600,000 บาท จากผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างระบบท่อน้ำประปา
ภายหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้ต้องหาใช้ตำแหน่งหน้าที่ พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 400,000 บาท ยื่นประกันตัวในขั้นสอบสวน ก่อนพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะมีความเห็นอนุญาตให้กลุ่มผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเห็นว่ามีหน้าที่การงาน มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี โดยจะนัดหมายให้มาเข้าพบอีกครั้งเมื่อสำนวนคดีเสร็จสิ้น เพื่อส่งตัวไปยัง ป.ป.ช. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไปนั้น
วันที่ 25 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ นายชาดา แสดงสปิริตลาออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมระบุด้วยว่า เนื่องจาก นายชาดา แสดงตนเองเสมอมาว่าเป็นลูกผู้ชาย เป็นชายชาตรี มีใจนักเลง และได้รับแต่งตั้งให้ปราบผู้มีอิทธิพล คนฮั้วการประมูล
...
"ดังนั้น เมื่อคนในครอบครัวถูกกล่าวหามีส่วนพัวพันซะเอง จึงควรลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ สมกับฉายานักเลงจริงแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง…เอ๊ะ! หรือฉายานี้ผมคิดไปเอง"
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (รรท.ผบก.ทล.) เปิดเผยวานนี้ (24 ตุลาคม 2566) ว่า หลังจับกุมได้มีโอกาสพูดคุย นายชาดา พ่อตาของ นายวีระชาติ หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งนายชาดา ก็ไม่ได้ว่าหรือขออะไร เข้าใจกระบวนการ ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมย้ำ ก่อนหน้านี้เคยเตือนแล้วว่าถ้าใครไม่หยุดก็ดูแลตัวเองกันไป ท่านก็เข้าใจ ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดยังยืนกรานปฏิเสธ ขณะที่ในส่วนผู้เสียหาย ตอนนี้พบข้อมูลเพียงรายเดียว แต่หลังจากนี้ต้องขยายผลต่อเนื่องว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกกระทำในลักษณะเดียวกันนี้เพิ่มเติมหรือไม่
ทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เปิดเผยว่า นายชาดา และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ได้รายงานกับตนโดยตรงว่าทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย โดย นายชาดา แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีแล้ว ถ้ามีหลักฐานต้องสั่งให้นายกเทศมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และนายชาดา ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายในเรื่องนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ อีกทั้ง นายอนุทิน ยังระบุด้วยว่า ได้มีการสั่งการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อเป็นการให้เห็นว่าไม่มีใครมีเส้น และไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง หากทำผิดกฎหมายต้องรับผิด.
