"คปท." ยื่นหนังสือ จี้ "กระทรวงยุติธรรม" ปม "ทักษิณ" ส่อเอื้อประโยชน์ผู้บริหารระดับสูง หลังจ่อนอนรักษา รพ.ตำรวจ เกิน 60 วัน เตือน "ยิ่งลักษณ์" หากกลับไทย ควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เหมือนกรณี "เจ้าสัวเปรมชัย-บุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์"
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ต.ค. 66 ที่ กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้รีบส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาดกลับเข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยมี นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวว่า ตนติดตามกรณีของ นายทักษิณ และไม่เห็นด้วยที่ นายทักษิณ ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ โดยที่ผ่านมา ตน และคณะ มีหนังสือถึงปลัดกระทระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 66 เรื่อง ขอให้กรมราชทัณฑ์ยุติการเลือกปฏิบัติแก่นักโทษเป็นกรณีพิเศษ ต่อมา กรมราชทัณฑ์ มีหนังสือตอบกลับมา ลงวันที่ 19 ก.ย. 66 เนื้อหาหลักเป็นการอ้างอาการป่วยเดิม และข้อกังวล เป็นข้ออ้างในการนำ น.ช. ทักษิณ ชินวัตร ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำมากกว่าการสอบข้อเท็จจริง ทั้งที่สังคมก็ยังมีคำถามถึงอาการป่วยของ น.ช. ทักษิณ ชินวัตร ว่ามีอาการป่วยจริงหรือไม่ รวมทั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรมไทยว่า กำลังถูกบังคับใช้สิทธิ์ หรือมอบอภิสิทธิ์ แก่ น.ช. ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียวหรือไม่ นอกจากนี้ตนและคณะมีหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงวันที่ 22 ก.ย. 66 เรื่อง ขอให้เปิดเผยกรณีการอนุญาตให้ น.ช. ทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวนอกเรือนจําและคัดค้านการขยายเวลานอนรักษาตัวต่อของ น.ช. ทักษิณ ชินวัตร เพราะเห็นว่าเหตุผลที่อ้างผ่าตัดนั้นจะเป็นเพียงข้ออ้างในการขยายเวลา หากมีการผ่าตัดจริงทำไมต้องรอเวลามาถึง 30 วัน หรือเหตุแห่งการผ่าตัดนั้นก็ไม่น่าใช่เหตุแห่งโรคที่กล่าวอ้างในการออกไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ตั้งแต่แรก
...
นายพิชิต กล่าวอีกว่า ตนรับทราบถึงความเห็นของนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคต่างๆ ของ น.ช. ทักษิณ เป็นนายแพทย์ภายนอก รพ.ตำรวจ มีความเห็นที่สอดคล้องกันทางสังคมว่า โรคที่กล่าวอ้างนั้นหากมีการรักษาหรือผ่าตัดจริงด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน และกำลังทุนในการรักษาตัวเอง ก็ใช้เวลาในการฟื้นตัวไม่นาน อย่างไรก็ตาม เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ดำเนินการยื่นสำนวนร้องทุกข์กล่าวโทษที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้องทุกข์ต่อ 1.นายอายุตม์ สินธพพันธ์ อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ 2.นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ 3.นายแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ 4.พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ และ 5.พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบ การร้อง ป.ป.ช.ครั้งนั้น ตนและคณะยังไม่ได้มีการร้องทุกข์ต่อ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม แต่อย่างใด
นายพิชิต กล่าวต่อว่า กรณี นายทักษิณ จะได้รับการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำครบ 60 วัน อำนาจการพิจารณาจะไปอยู่ที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมว่าจะมีการอนุญาตให้ นายทักษิณ นอนรักษาตัวต่อที่รพ.ตำรวจ หรือไม่ ดังนั้นวันนี้ตนและคณะจึงมายื่นหนังสือเพื่อ 3 วัตถุประสงค์ ประกอบด้วย 1.นำตัวผู้ต้องขังเด็ดขาด ทักษิณ ชินวัตร ที่อ้างสิทธิ์นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ กลับเข้ามารับโทษที่เรือนจำโดยเร่งด่วน อย่าให้กระบวนการยุติธรรมต้องเป็นเครื่องมือเฉพาะบุคคล 2.ขอคัดค้านกระบวนการร่วมกันจัดฉาก เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการขยายเวลานอนนอกเรือนจำของ นายทักษิณ ที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมจะเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจในครั้งนี้ และ 3.ขอยืนยันในการเรียกร้องให้องค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ เช่น กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภาฯ ได้มีสิทธิ์ในการเข้าไปร่วมสังเกตอาการข้ออ้างในการป่วยของ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นสิ่งที่กรมราชทัณฑ์ภายใต้การกำกับของกระทรวงยุติธรรมเคยปฏิบัติตามหลักสากลมาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรม ไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้สังคมได้ว่า นายทักษิณ มีการป่วยจริง อย่างเช่นกรณีเมื่อนอนครบ 30 วัน มีการอ้างถึงการผ่าตัด จากนั้นพอจะครบ 60 วันมีการเข็นเตียงนายทักษิณออกมา หรือเรียกว่าเป็นการจัดฉากครั้งใหญ่ อยากให้กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ยึดหลักที่ปฏิบัติเหมือนกับที่ นายเปรมชัย กรรรสูต (จำเลยที่ 1 ในคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร) หรือ กรณีของ นายบุญทรง เตยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอฝากบอกไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า หากจะกลับมาขอให้ยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่ นายนัสเซอร์ ยีหมะ ตัวแทน คปท. กล่าวว่า ดูเหมือนว่าผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมจะมีการหลีกหนีหน้าพวกเรา ในเมื่อกระทรวงไม่ให้คำตอบพวกเรา ดังนั้น วันอาทิตย์ที่ 22 ต.ค.นี้ ที่พวกตนจะจัดกิจกรรมหน้าอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ คงจะขอเดินขึ้นไปดูที่ชั้น 14 เพื่อดูว่า นายทักษิณ มีการป่วยแค่ไหน โดยกระทรวงยุติธรรมต้องรีบตอบข้อสงสัย เพราะ 60 วันที่ นายทักษิณ อยู่นั้นมันเป็น 60 วันที่คลุมเครือ และตนฝากบอกผู้บริหารอย่าหนีหน้าสังคม หรือเอื้ออำนวยให้ นายทักษิณ ทั้งนี้ หากปลัดกระทรวงยุติธรรม จะมีการอนุญาตให้ นายทักษิณ นอนรักษาตัวเกินกว่า 60 วัน ถ้ามีการขยายต่อจริง เท่ากับเป็นการสมรู้ร่วมคิดให้กับนักโทษ ตนพร้อมไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้สอบสวนเพิ่มเติมในกรณีของปลัดกระทรวงยุติธรรม
ด้านนายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข ตัวแทนรับเรื่อง กล่าวว่า ขอขอบคุณสื่อมวลชนและผู้ร้อง วันนี้ในฐานะตัวแทนผู้บริหาร ตนได้รับการมอบหมายให้รับเรื่องร้องเรียน และเมื่อได้รับเรื่องแล้วจะดำเนินการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ส่วนคำตอบอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีผู้มาร้องเรียนถึงผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับกรณีของ นายทักษิณ ถึงสองวันติดกันนั้น ตนต้องเรียนว่ากรณีดังกล่าวเป็นการยื่นหนังสือ และในฐานะที่ตนเป็นเพียงผู้รับเรื่องจึงไม่สามารถมีมุมมอง หรือพิจารณาเองได้ จะต้องมีการเสนอไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาก่อน ส่วนข้อครหาว่ากระทรวงยุติธรรมจะมีมลทินจากเรื่องดังกล่าว ตนขอให้ติดตามดูในส่วนของการพิจารณาของผู้บริหารก่อน.
