นิด้าโพล เผยผลสำรวจ คนส่วนใหญ่ค่อนข้างกังวลนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แต่จะรับเงินและนำไปใช้จ่าย มอง หากยกเลิก จะทำให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยลดลง
วันที่ 15 ตุลาคม 2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจประชาชน เรื่อง “การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาคระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
เมื่อถามถึงความกังวลของประชาชนต่อนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่าอาจจะทำให้ได้ไม่คุ้มเสียกับประเทศ (เช่น เกิดภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของแพงขึ้น ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ) ตามคำเตือนของ 99 นักวิชาการและคณาจารย์เศรษฐศาสตร์ พบว่า
- ร้อยละ 30.92 ระบุว่า ค่อนข้างกังวล
- ร้อยละ 28.47 ระบุว่า ไม่กังวลเลย
- ร้อยละ 25.27 ระบุว่า กังวลมาก
- ร้อยละ 15.19 ระบุว่า ไม่ค่อยกังวล
- ร้อยละ 0.15 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พบว่า
- ร้อยละ 47.10 ระบุว่า ดำเนินนโยบายต่อ แต่ควรมีการปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน
- ร้อยละ 32.52 ระบุว่า ดำเนินนโยบายต่อตามที่ได้หาเสียงไว้
- ร้อยละ 18.85 ระบุว่า ควรหยุดการดำเนินการในนโยบายนี้ได้แล้ว
- ร้อยละ 1.53 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ส่วนการรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของประชาชน พบว่า
...
- ร้อยละ 79.85 ระบุว่า รับเงินและนำไปใช้จ่าย
- ร้อยละ 13.51 ระบุว่า ไม่รับเงิน
- ร้อยละ 5.42 ระบุว่า รับเงิน แต่ไม่นำไปใช้จ่าย
- ร้อยละ 1.22 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย หากรัฐบาลยกเลิกนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พบว่า
- ร้อยละ 60.00 ระบุว่า ส่งผลกระทบให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยลดลง
- ร้อยละ 29.92 ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย
- ร้อยละ 6.49 ระบุว่า ส่งผลให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้น
- ร้อยละ 3.59 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ