“เศรษฐา” อัดคิวแน่นวันเดียวถก 8 คณะ จี้ ปส.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกวาดล้างยาเสพติด “สมศักดิ์” งัดไม้ตายยึดทรัพย์ปราบผู้ค้ายา สส.พท.ยักไหล่ซักฟอกดิจิทัลวอลเล็ต “ครูมานิตย์” เย้ยอภิปรายไปก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายที่ผ่านการกลั่นกรองจาก กกต.แล้ว ย้ำไม่เห็นด้วยนิรโทษคดีมาตรา 112“สมชัย” เทียบ “รบ.ตู่” กู้มาแจกทำไมไม่ผิด เพราะมือกฎหมายระดับเทพกับถุงขนมคนละชั้นกัน “นิพิฏฐ์” เตือนทำบัญชีผู้มีอิทธิพลระวังรัฐบาลพัง อาจารย์ มช.ซัด ก.ก.ฟอกขาว สส.หื่น แซะ สส.หญิงค่ายส้มเงียบกริบ
ตามที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีการแจกแจงที่มาของแหล่งเงิน 3 ทาง ที่จะนำมาทำโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ขณะที่ สส.พรรคเพื่อไทยยังคงออกมาเชียร์เต็มที่ โดยไม่ห่วงว่าพรรคฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้ ไปเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะผ่านการพิจารณาจาก กกต.แล้ว
“เศรษฐา” แวะทักทาย “อุ๊งอิ๊ง-เอม”
เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง พร้อมภริยา นำคณะรัฐมนตรีร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันนวมินทรมหาราช ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี นายเศรษฐาได้เดินทักทายผู้ที่มาร่วมงาน กล่าวสวัสดีบรรดาองคมนตรีและข้าราชการหน่วยราชการในพระองค์ที่มาร่วมงาน ก่อนเดินไปทัก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.แพทองธาร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี น.ส.พินทองทา ที่มาร่วมพิธีในนามมูลนิธิไทยคม ก่อนไปถ่ายรูปร่วมกับแฟนคลับที่ขอถ่ายรูปร่วมกับนายกฯและภริยา ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับนายเศรษฐาได้มาทัก น.ส.แพทองธารอีกครั้ง ก่อนเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลต่อ
...
วางคิวแน่นวันเดียวถก 8 คณะ
ต่อมาเวลา 09.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการนัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) เข้าพบว่า วันนี้มีนัดหมายพบกับหลายคน ทั้งตามงานกับรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามงานเรื่องสะพานที่สุไหงโก-ลก กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม การนัดหารือกับ ปส. และที่ปรึกษานายกฯ ในเรื่องปราบปรามยาเสพติด เนื่องจากตอนที่ทุกพรรคการเมืองหาเสียงอยู่ ปัญหาเรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่มากของประชาชนเป็นการตามงานตามปกติ วันนี้มีเข้าพบประมาณ 7-8 คณะ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีข้อกำชับหรือข้อสั่งการเพิ่มเติมกับทาง ปส.อีกหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่าเดี๋ยวลองไปฟังดู เป็นเรื่องของความมั่นคง ขอเก็บไว้ก่อน แต่ขอให้สบายใจยืนยันว่าพยายามอย่างเต็มที่
ไม้ตายยึดทรัพย์ปราบผู้ค้ายา
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2567 คณะที่ 2.2 แผนงานบูรณาการป้องกันปราบปรามและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการจัดทำงบฯแก้ปัญหายาเสพติดต้องมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน สามารถนำผลสำเร็จมาเป็นตัวชี้วัดได้ เพราะจะทำให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติหน้าที่ได้ตามเป้าหมาย โดยตัวชี้วัดด้านการปราบปรามยาเสพติด จากอดีตจะนำกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้กี่คดีมาเป็นตัวชี้วัด แต่ปัจจุบันรัฐบาลภายใต้การนำนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เน้นย้ำการยึดอายัดทรัพย์สิน จึงมอบแนวทางให้ปรับเปลี่ยนตัวชี้วัด ด้วยการเพิ่มการยึดอายัดทรัพย์สินเข้าไปด้วย เพราะตัวเลขการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้า ยาเสพติดจะเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจน ในการบูรณาการแก้ปัญหายาเสพติด เชื่อว่าการยึดอายัดทรัพย์จะช่วยตัดวงจรการค้ายาเสพติดได้
พท.ยักไหล่ซักฟอกดิจิทัลวอลเล็ต
ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านอาจยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ผ่านวาระ 3 ว่า มองว่าเร็วเกินไป ยังไม่เห็นข้อผิดพลาดหรือความไม่ชอบมา พากลของรัฐบาล อีกทั้งการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า งบประมาณยังไม่มีการสั่งจ่าย ยังใช้ร่างงบประมาณฉบับเก่าตามที่กฎหมายอนุญาต แต่เป็นสิทธิของเขา เข้าใจว่าฝ่ายค้านไม่อยากให้เสียสิทธิ เมื่อถามกังวลว่าเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะถูกนําไปอภิปรายหรือไม่ เพราะมีกระแสค้านเยอะ นายครูมานิตย์ตอบว่า ต่อให้อภิปรายก็ไม่สามารถทําอะไรได้ เพราะเป็นนโยบายของพรรค ก่อนจะออกมาเป็นนโยบายต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่อย่างนั้นผิดกฎหมาย อภิปรายไปก็ไม่มีประโยชน์ หากจะอภิปรายถึงผลกระทบวันข้างหน้า เช่น อาจเกิดหนี้สาธารณะ หรือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ก็ว่ากันไป แต่ยืนยันว่าไม่ผิดในเรื่องกฎหมาย
ไม่เห็นด้วยนิรโทษมาตรา 112
นายครูมานิตย์ยังกล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมือง ทางฝั่งรัฐบาลจะยื่นร่างไปประกบกับของฝ่ายค้านหรือไม่ว่า ต้องดูร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวก่อนว่าระบุไว้แบบไหน หากระบุว่าให้นิรโทษกรรมแก่ผู้ที่จาบจ้วงหรือโดนคดีกฎหมายอาญามาตรา 112 ส่วนตัวไม่เห็นด้วย แต่ยังไม่ได้อ่านร่างที่พรรคก้าวไกลเสนอ และพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้หารือกันว่าจะยื่นร่างประกบหรือไม่ พรรคเพื่อไทยเรายืนอยู่ตลอดว่าจะไม่ก้าวล่วงมาตรา 112
“สมชัย” เทียบ “รบ.ตู่” กู้มาแจกไม่ผิด
วันเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตรรกะที่ว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี แจกเงินไม่ผิด ต้องย้อนดูว่าฝ่ายกฎหมายฝีมือต่างกันไหม มีคนถามว่าที พล.อ.ประยุทธ์กู้เงินเป็นล้านล้านบาท มาทั้งแจกทั้งแถมในช่วงโควิด ทำไมไม่ผิด ทีจำนำข้าวดันมีคนเข้าคุก จะแจกเงินดิจิทัลก็ขู่เอาขู่เอา คำตอบคือเหตุผลความจำเป็นและกระบวนการทางกฎหมายแตกต่างกัน 1.การใช้เงินของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในกรอบของกฎหมาย เป็นไปตาม พ.ร.บ.งบประมาณที่ผ่านสภา ไม่ว่าจะเป็นสภานิติบัญญัติ หรือรัฐสภา 2.กรณีกู้เงิน เป็นการออกพระราชกำหนดโดยอ้างเหตุฉุกเฉิน สถานการณ์โควิด แถมทุกครั้งหาจังหวะออกในเวลาปิดสภาฯ แล้วค่อยมาผ่านสภาฯภายหลังตามรัฐธรรมนูญ
ชี้ “เทพกับถุงขนม” มือคนละชั้น
นายสมชัยระบุอีกว่า 3.การดำเนินการ อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ เวลาจะเกินกรอบ ก็มาขอมติคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังของรัฐ ที่มีนายกฯเป็นประธาน 4.ปัญหาการทุจริต แม้จะมีก็เป็นในระดับปฏิบัติ เช่น กรณีการจำหน่ายสินค้าของร้านธงฟ้า และแก้ไขกันไป แต่ไม่ใช่ในระดับนโยบาย ไม่มีเงินทอนให้จับได้ จึงยังไม่มีรัฐมนตรีคนไหนติดคุก อย่ายกตัวอย่างรัฐบาลชุดเก่าทำไมเขาแจกเงินได้ ทุกอย่างล้วนต่างกัน และอย่าคิดว่าที่ปรึกษากฎหมายเก่ง เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้ว เทพกับถุงขนมนั้นต่างกัน
“รสนา” แง้มช่องเบรกเงินหมื่น
น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต สว. กล่าวถึงโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตว่า โครงการนี้มีคำถามมากมาย ทำไมต้องเอาเงิน 5.6 แสนล้านบาทแปลงเป็นเงินดิจิทัล มีอะไรแอบซ่อนอยู่หรือไม่ ผลที่ตามมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง บอกว่าทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ แต่ขอมองต่างมุมน่าจะเป็นพายุหมุนที่พัดพาบ้านเรือนพังพินาศมากกว่า ขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินมาตรา 8 ที่ระบุว่าเพื่อประโยชน์ระงับยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐ ให้ผู้ว่าการ สตง.เสนอผลการตรวจสอบการกระทำที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐและอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่การเงินการคลังของรัฐอย่างร้ายแรงต่อคณะกรรมการ สตง.เพื่อพิจารณา
บี้ สตง.-กกต.-ป.ป.ช.ร่วมหยุดยั้ง
น.ส.รสนากล่าวว่า กรณีที่ สตง.เห็นพ้องด้วยกับผลตรวจสอบให้จัดให้มีการประชุมร่วมกับกกต. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อปรึกษาหารือร่วมกัน กรณีที่ประชุมมีมติเห็นพ้องกับผลการตรวจสอบดังกล่าว ให้ประธาน สตง. ประธาน กกต. และประธาน ป.ป.ช. ร่วมลงนามในหนังสือแจ้งสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และ ครม. เพื่อทราบโดยไม่ชักช้า พร้อมให้เปิดเผยผลการตรวจสอบดังกล่าวต่อประชาชนเพื่อทราบด้วย ตรงนี้เป็นช่องทางเดียวที่จะหยุดยั้งความเสียหายต่อการเงินการคลังของประเทศได้ องค์กรตรวจสอบทั้งหลายต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ ด้วยการหาข้อมูลจากอดีตผู้ว่าการ ธปท. และนักวิชาการ ทั้งในเรื่องที่ขัดต่อกฎหมาย โอกาสเกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศก่อหนี้สาธารณะโดยไม่จำเป็น เป็นการล้อมคอกก่อนวัวหาย สัปดาห์หน้าจะไปยื่นหนังสือถึงองค์กรตรวจสอบเหล่านี้ให้ต่อไป
อาจารย์ มช.ซัดฟอกขาว สส.หื่น
อีกเรื่อง ศ.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี ภาควิชา สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เรื่องล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นในหมู่นักการเมืองของพรรคก้าวไกล จะมาอธิบายด้วยตรรกะเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมทางเพศของรุ่นใหม่อะไ ฟังไม่ขึ้น กรณี สส.ปราจีนบุรี อายุปาเข้าไป 44 ปีแล้ว ปัญหาการเอาเปรียบคุกคามทางเพศต่อผู้หญิงที่เป็น subordinate (ผู้ใต้บังคับบัญชา) และผู้ที่มีอำนาจต่อรองต่ำกว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรุ่น แต่เกี่ยวโดยตรงกับวัฒนธรรมทางเพศของเพศชาย ทำกันจนเคยตัว จะมาฟอกขาวว่าทำกันได้ในยุคก่อน ยิ่งตลกใหญ่
แซะ สส.หญิงค่ายส้มเงียบกริบ
“การที่ผู้หญิงไม่มีปากมีเสียง ไม่มีเครื่องมือทางภาษา ไม่มีอำนาจควบคุมมาตรฐานจริยธรรมทางเพศที่จะใช้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่รู้จะรับมือกับการเอาเปรียบทางเพศที่มันฝังในวัฒนธรรมของพวกผู้ชายพวกนี้ยังไง นอกจากเออออให้มันผ่านไป ไม่ได้แปลว่าเขาโอเคหรือสมยอมกับการถูกละเมิดทางเพศ พรรคก้าวไกลถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักกรณีสส.ล่วงละเมิดทางเพศ ควรเลิกฟอกขาวกันได้แล้ว เพราะทำอย่างนี้เท่ากับให้ท้ายวัฒนธรรมเอาเปรียบทางเพศ ผลักให้มันกลายเป็นความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ยิ่งเห็น สส.ออกมาดีเฟนด์ (ปกป้อง) ตัวเองอ้างเรื่องงานพรรค ยิ่งสะท้อนว่าไม่ได้สำนึกรู้แม้แต่น้อย สส.หญิงในพรรคก็เงียบเชียบกันเหลือเกิน” ศ.ปิ่นแก้วระบุ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
