“วราวุธ” ไม่เอาด้วยนิรโทษเหมาเข่ง ค้านคดี ม.112-ความผิดอาญาร้ายแรงและคดีทุจริตไม่ควรได้รับอานิสงส์ ขอหารือพรรคร่วมรัฐบาลดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษฯประกบร่างฉบับพรรคก้าวไกล ลั่นต้องมี ส.ส.ร.แก้รัฐธรรมนูญ ทำประชามติขอแบบรวดเร็วและประหยัดงบฯ “หมออ๋อง” เผยสมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นธรรม หนุนเจตนารมณ์ปฏิรูปรัฐสภาให้โปร่งใส ไม่ตระบัดสัตย์ หนุนสันติภาพชายแดนใต้ “กัณวีร์” วอนเชื่อใจรองประธานสภาฯทำหน้าที่เป็นกลาง “พัฒนา” ท้านักวิชาการลงพื้นที่ดูชีวิตชาวบ้านลำเค็ญก่อนค้านแจกดิจิทัลวอลเล็ต ดับฝันประชาชน “เศรษฐา” เดินสายทัวร์อาเซียน ประเดิมกล่อมนักลงทุนฮ่องกง
จากกรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินหน้าเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ครอบคลุมไปตั้งแต่การชุมนุมเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2549 ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของบางฝ่าย ล่าสุดพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ขอหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะเสนอร่างกฎหมายประกบไปกับร่าง พ.ร.บ.ของพรรค ก.ก.หรือไม่
“ท็อป” ไม่เอานิรโทษ ม.112–คดีทุจริต
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณี สส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อประธานสภาฯ เพื่อขอนิรโทษกรรมให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. 49 ว่า เป็นสิทธิของพรรคการเมืองในฐานะที่มี สส.เพียงพอที่จะเสนอกฎหมาย ในส่วนของพรรค ชทพ.เห็นว่ามีบางส่วนที่หากเป็นประชาชนทั่วไปเราเห็นด้วย แต่กรณีเกี่ยวกับมาตรา 112 ไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมถึงความผิดทางอาญาร้ายแรง หรือแม้กรณีการทุจริต ไม่ควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม
...
ขอถกพรรคร่วมฯชงร่างประกบ ก.ก.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ชทพ.จะเสนอร่างประกบหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ตอนนี้พรรคยังไม่ได้หารือกันเรื่องการเสนอร่างประกบ พรรค ชทพ.มี 10 เสียง ยังไม่เพียงพอจะเสนอร่างกฎหมาย แต่ต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคอื่นก่อนว่ามีแนวทางกันอย่างไร ส่วนกรณีคณะกรรมการศึกษาประชามติฯ จะประชุมนัดแรกวันที่ 10 ต.ค. เพื่อวางกรอบในการทำประชามติ ได้พูดคุยกับนายนิกร จำนง ผอ.พรรค ในฐานะผู้แทนพรรค ชทพ. เห็นตรงกันว่าแน่นอนว่าต้องทำประชามติ แต่จะทำกี่ครั้ง การจะทำให้รวดเร็วที่สุดและประหยัดที่สุดคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่ต้องคำนึงด้วยว่ารวดเร็วและประหยัดที่สุด จะส่งผลทำให้สำเร็จหรือไม่ คงต้องหารือทุกฝ่ายอย่างรอบคอบว่าทำแบบประหยัดแล้วขัดต่อกฎหมายหรือมาตรการใดหรือไม่ ถ้าหากไม่ขัดข้องแล้วทำสำเร็จได้
หนุน ส.ส.ร.รื้อ รธน.ไวและประหยัด
“แน่นอนว่าทุกฝ่ายอยากทำให้เร็วที่สุดและประหยัดเงินที่สุด เพราะการทำประชามติแต่ละครั้งใช้เงินหลายพันล้านบาท เรายังเห็นด้วยกับการที่จะร่างรัฐธรรมนูญตามแนวทางปี 2540 ไม่ว่าการตั้ง ส.ส.ร. และไม่แตะต้องหมวด 1 กับหมวด 2 เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และต้องดำเนินการถูกต้องตามกระบวนการ พรรค ชทพ.มีหนังสือที่รวบรวมเอกสารขั้นตอนการทำ ที่มารัฐธรรมนูญปี 2540 จะได้นำมาเป็นข้อมูลและแนวทางให้คณะกรรมการชุดปัจจุบันเดินหน้าต่อไป”นายวราวุธกล่าว
“หมออ๋อง” สมัครสมาชิกพรรค ปธ.
วันเดียวกัน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก เขต 1 อดีตสมาชิกพรรค ก.ก. และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X (ทวิตเตอร์) @ongpadipat ระบุว่า จะสมัครเข้าพรรคเป็นธรรม ในวันที่ 10 ต.ค.พร้อมกับแท็ก @nolkannavee หรือนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม โดยนายปดิพัทธ์ระบุเหตุผล 3 ข้อ คือ 1.สนับสนุนการปฏิรูปรัฐสภาให้โปร่งใส ประสิทธิภาพสูง และเป็นของประชาชน 2.ไม่ตระบัดสัตย์ ผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญใหม่จากประชาชน 3.สนับสนุนกระบวนการสันติภาพที่แท้จริงในภาคใต้ พร้อมเดินทางแล้วครับ
“กัณวีร์” วอนเชื่อใจรอง ปธ.สภาฯ
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม (ปธ.) กล่าวว่า กรณีที่นายปดิพัทธ์ทวีตข้อความว่าพร้อมสมัครเข้าพรรค ปธ. ในวันที่ 10 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่อาคารรัฐสภา ตนรู้สึกดีใจที่นายปดิพัทธ์ตัดสินใจเข้าร่วมพรรค ปธ.สำหรับตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และ 2 คือตำแหน่งรองประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องคงไว้ด้วยหลักการสำคัญที่ได้นำเสนอไว้ในการทำงานทางการเมืองคือ ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต้องเป็นกลาง ทำงานอย่างมีอิสรภาพและไม่ถูกครอบงำโดยฝ่ายใด ขอไม่ต้องกังวลเพราะนายปดิพัทธ์ต้องทำหน้าที่ไม่ได้ต่างจากประธานสภาฯและรองประธานสภาฯคนที่ 2 อยู่แล้ว เชื่อว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยหลายล้านคนเชื่อมั่นในตัวนายปดิพัทธ์ที่ได้แสดงผลงานการทำหน้าที่รองประธานสภาฯคนที่ 1 มาอย่างไร้ที่ติ จงมั่นใจและเชื่อใจต่อไป
“ชาดา” สอบเส้นทางเงินปราบมาเฟีย
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยนายวันชัย สอนศิริ สว. ตั้งกระทู้ถามสดถึงมาตรการปราบปรามผู้มีอิทธิพลของรัฐบาล โดยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดว่า การปราบปรามผู้มีอิทธิพลจะใช้มาตรการภาษี เหมือนกรณีสหรัฐฯปราบปรามกลุ่มอัลคาโปนหายไปจากสหรัฐฯ ส่วนมาตรการที่จะดำเนินการคือบูรณาการทุกหน่วยงานตรวจสอบภาษีผู้มีอิทธิพลและคนข้างเคียง นำคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสรรพากรตรวจสอบเส้นทางการเงิน เส้นทางภาษี ไม่อยากให้งานปราบผู้มีอิทธิพลเป็นงานหวือหวา ไฟไหม้ฟาง ต้องการวางระบบให้ดี บีบให้คนไม่ดีออกไป ปราบปรามผู้มีอิทธิพลรูปแบบใหม่ตรวจสอบทั้งกระบวนการ และมือไม้ที่ทำงานให้ อยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพลตามที่ประชาชนร้องเรียน ดำเนินการไปแล้วที่ จ.ขอนแก่น และ กทม. ตั้งใจทำงาน เป็นบทพิสูจน์ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน หลังจากนี้ไม่มีผู้อิทธิพลเกิดขึ้นง่ายๆเหมือนในอดีต
“พัฒนา” ท้ากูรูดูชีวิตคนก่อนขัดคอ
นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงพิพากษ์วิจารณ์โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินบางส่วนที่แสดงความเป็นห่วง และไม่เห็นด้วยว่า คนที่ออกมาคัดค้านส่วนมากเป็นนักวิชาการ แต่ประชาชนคนรากหญ้าไม่ได้คิดอย่างที่นักวิชาการออกมาพูด ที่บอกกันว่าเศรษฐกิจขาขึ้น ขึ้นจริงหรือไม่ อยากให้นักวิชาการที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไปลงพื้นที่จริงดูว่าประชาชนในต่างจังหวัดเป็นอยู่กันอย่างไร อยากให้มาดูที่ จ.สกลนคร จะพาไปดูด้วยตนเอง เพราะไม่รู้นักวิชาการเอาตัวเลขมาจากไหน ข้อเท็จจริงวันนี้ประชาชนลำบากกันสุดๆแล้ว เราต้องมีนโยบายอะไรที่จะช่วยเขาได้ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นอะไรที่ประชาชนมีความหวัง อยากให้นักวิชาการไปดูความเป็นจริง ไม่อยากให้ออกมาขัดขวางสิ่งที่ประชาชนต้องการ และยืนยันนโยบายที่ดำเนินการอยู่นี้ พรรคเพื่อไทยคิด เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่จะดีขึ้น ไม่ได้มุ่งเน้นหาเสียง จึงอยากให้นักวิชาการลองไตร่ตรองให้ดีก่อน ออกมาคัดค้านจนประชาชนเสียขวัญ
นายกฯทัวร์อาเซียนกระชับมิตร
สำหรับภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ในการเดินทางเยือน 4 ประเทศอาเซียน ได้แก่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน บรูไนดารุสซาลาม มาเลเซีย และสาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 8-12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 9 ต.ค. นายกฯ ยังคงปฏิบัติภารกิจอยู่ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นวันที่ 2 พบหารือทวิภาคีกับนายจอห์น ลี คา-ชิว ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือการค้าการลงทุน ที่ทำเนียบผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
โชว์วิชันมัดใจนักลงทุนฮ่องกง
โดยเมื่อเวลา 18.30 น. (เวลาท้องถิ่นที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) ที่โรงแรมคอนราด นายเศรษฐาพบหารือและร่วมรับประทาน อาหารเย็นกับตัวแทน 11 เอกชนรายใหญ่ของฮ่องกง โดยนายกฯกล่าวถึงนโยบายการเปิดประเทศของไทยว่า ไทยพร้อมรับความร่วมมือการค้าการลงทุนระหว่างกันว่า การมาฮ่องกงครั้งนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษ เปิดหน้าใหม่ของความสัมพันธ์ โดยเฉพาะความร่วมมือการสร้างการเติบโตทางธุรกิจภาคเอกชนทั้งสอง แม้การนัดหมายจะกระชั้นชิด แต่ก็เกิดขึ้นและประสบความสำเร็จ สามารถสร้างความเชื่อมั่น เพิ่มความใกล้ชิดระหว่างกันในโอกาสนี้ จากนั้นภาคเอกชนรายใหญ่ฮ่องกงต่างให้ความสนใจสอบถามนายกฯถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจในไทย การพัฒนาเพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยเอ่ยชื่นชมวิสัยทัศน์การดำเนินนโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงการบริหารรัฐบาลของนายกฯด้วย
ลุยกล่อมนักลงทุนสิงคโปร์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันที่ 10 ต.ค. นายกฯ จะออกเดินทางไปยังกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไนดารุสซาลาม เพื่อเข้าร่วมหารือทวิภาคีกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลามและเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารเย็นที่สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลามพระราชทานเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกฯ ส่วนวันที่ 11 ต.ค. นายกฯ จะเดินทางต่อไปยังเมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย เข้าหารือกับนายกฯมาเลเซียและร่วมงานเลี้ยงอาหารเย็นที่นายกฯมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ และวันที่ 12 ต.ค.เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดี สาธารณรัฐสิงคโปร์ พร้อมหารือทวิภาคีกับนายกฯสาธารณรัฐสิงคโปร์ ช่วงบ่ายหารือนักธุรกิจสิงคโปร์ ก่อนกลับประเทศไทยถึงเวลา 16.55 น.
“ชาย นครชัย” เข้ารับหน้าที่ กกต.ใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายชาย นครชัย เป็นกรรมการการเลือกตั้ง โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เข้าร่วมพิธี พร้อมกรรมการเลือกตั้ง เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อ ถึงเวลา 09.09 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เข้าสู่สถานที่ประกอบพิธีและอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว นายชายถวายความเคารพ เปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะพร้อมถวายความเคารพ จากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งและผู้เข้าร่วมพิธี ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนหน้านี้นายชายได้ไปสักการะพระพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์ราชการ เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเข้าทำหน้าที่อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ นายชายใช้ห้องทำงานของนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ที่พ้นจากหน้าที่ไปก่อนหน้านี้
สว.ลงมติไม่ส่ง “อุปกิต” ให้ตำรวจ
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม พิจารณาเรื่องด่วน การขอออกหมายเรียก สว.สอบสวนในฐานะผู้ต้องหาคดีอาญาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 กรณีพัวพันการค้ายาเสพติด โดยนายศุภชัยกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีหนังสือมายังวุฒิสภา ขออนุญาตออกหมายเรียกตัวนายอุปกิต ปาจรียางกูล สว. ไปสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามมาตรา 11/7 พ.ร.บ.วิธีพิจารณายาเสพติด แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 125 ระบุว่า ระหว่างสมัยประชุมห้ามจับคุมขังหรือหมายเรียกตัว สส. หรือ สว.ไปสอบสวน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสภาที่เป็นสมาชิก ต้องเป็นมติ
จากที่ประชุมวุฒิสภา จากนั้นที่ประชุมให้นายอุปกิต ชี้แจงยืนยันความบริสุทธิ์ ในกรณีที่ถูกกล่าวหา โดยช่วงท้ายของการชี้แจง นายอุปกิตยืนยันพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยไม่จำเป็นต้องขอความคุ้มครองใดๆด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ก่อนที่ประชุมเปิดโอกาสให้ สว.อภิปรายแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ท้ายที่สุดที่ประชุมลงมติด้วยคะแนน 174 ต่อ 7 งดออกเสียง 10 ไม่ให้ส่งตัวนายอุปกิตไปให้ตำรวจสอบสวน ในฐานะผู้ต้องหาคดีอาญาระหว่างสมัยประชุม
“วัชระ” ไม่เห็นด้วยท่าทีนายกฯ
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายธรรมยุทธ สุทธิวิชา อดีตประธานสหภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมยื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ขอให้รัฐสภาไทยประกาศจุดยืนความเป็นกลางในสถานการณ์ความรุนแรงขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์กับประเทศอิสราเอล โดยทั้งสองคนโชว์ข้อความของนายเศรษฐาที่โพสต์ในแพลตฟอร์ม X และร่วมกันฉีกกระดาษที่มีข้อความเขียนของนายกฯเป็นชิ้นๆ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการวางตัวไม่เป็นกลางต่อสถานการณ์สุ่มเสี่ยง อาจจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยในอนาคต
ห่วงไม่เป็นกลางพาประเทศสุ่มเสี่ยง
นายวัชระกล่าวว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง โพสต์ผ่านแอปพลิเคชัน X ช่วงค่ำวันที่ 7 ต.ค. ประณามการโจมตีอิสราเอล เป็นการโจมตีไร้มนุษยธรรม ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล และขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว จึงมาเรียกร้องต่อประธานรัฐสภาไทยและประมุขฝ่ายนิติบัญญัติไทยให้ 1.ประกาศจุดยืนความเป็นกลางในนามรัฐสภาไทยต่อสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ 2.ในฐานะที่เป็นมุสลิมอาวุโส ขอให้ประสานกับตัวแทนกลุ่มฮามาสขอตัวประกันชาวไทย เด็กและมารดาเด็กทุกประเทศให้กลับคืนสู่มาตุภูมิอย่างปลอดภัย ขอให้ทุกฝ่ายนำสันติภาพกลับคืนมายังโลก 3.แรงงานไทยที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ ขอให้รัฐสภาเรียกร้องรัฐบาลไทยจ่ายเงินค่าเยียวยาให้ผู้เสียหายและเสียชีวิตทุกท่าน
ผลสอบ ทบ.เบิกจ่ายน้ำมันบกพร่อง
พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. ได้แต่งตั้งให้คณะกรรมการตรวจสอบ กรณีพบความผิดปกติในการเบิกจ่ายน้ำมันของหน่วยทหารในพื้นที่ จ.สระบุรี ล่าสุดคณะกรรมการได้รายงานผลการสอบขั้นต้นให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้รับทราบ พบว่ากระบวนการเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในกรมสรรพาวุธทหารบก มีข้อมูลบ่งชี้ว่ามีการดำเนินการที่เกิดความบกพร่องและไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ คณะกรรมการยังต้องตรวจสอบ ข้อมูลจากพยานบุคคลและพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกหลายรายการ ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความยุติธรรมและเอื้อต่อกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ผบ.ทบ.ได้มีคำสั่งให้เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก และกำลังพลที่เกี่ยวข้องอีก 4 นาย พ้นจากตำแหน่งหน้าที่เป็นการชั่วคราว โดยให้ไปปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
