“เศรษฐา” ชี้ “เหลิม” แค่งอนใส่ “ทักษิณ” อาจน้อยใจบ้าง แต่ตำแหน่งมีจำกัดให้พรรค พท.ไปเคลียร์ แนะพูดคุยกันภาษาดอกไม้ “เสี่ยอ้วน” ไม่เชื่อสองคู่ซี้แตกคอ ลั่นไม่เคยคิดฆ่าโคถึก มีแต่ขุนให้อ้วนพี ไว้มีโอกาสจะจับเข่าคุย “น้าเหลิม” เอง รทสช.-ก.ก. แบ่งเค้ก กมธ.กิจการศาลฯลงตัว นั่งกันคนละครึ่งสมัย “โรม” ยึด ปธ.กมธ.ความมั่นคงรัฐ “วิโรจน์” คุม กมธ.ทหาร “ชูศักดิ์” ดู กมธ.ปราบโกง “พริษฐ์” ยันชัด ก.ก.ไม่ขอเป็นตรายาง ซักแหลกชุดจัดทำประชามติ “ภูมิธรรม” การันตีไม่มีตรายาง โต้ก้าวไกลมองโลกในแง่ร้าย “ชัยธวัช” ชงร่างนิรโทษกรรมฯถึงมือ “วันนอร์” คลุมตั้งแต่ช่วงพันธมิตรเริ่มชุมนุม ล้างโทษที่มีมูลเหตุทางการเมือง ไม่รวม จนท.ที่ยิงประชาชน-ม.113 โยนคดี 112 อยู่ที่ คกก.วินิจฉัย
จากกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จนคอการเมืองจับตามองว่าเป็นเรื่องจริงหรือการสร้างซีนเพื่อต่อรอง ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ออกมาชี้ว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิด หรือแค่อาการงอนน้อยใจกันบ้าง
...
นายกฯย้ำ ปปง.โปร่งใสสุจริต
เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 5 ต.ค. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการปฏิบัติงานแก่คณะผู้บริหารสำนักงาน ปปง. มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานคณะกรรมการ ปปง. และนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ให้การต้อนรับ นายเศรษฐากล่าวมอบนโยบายว่า บทบาทและความสำคัญของ ปปง.ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลด้านความมั่นคง โดยการใช้มาตรการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด อันถือเป็นการตัดวงจรการประกอบอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เสริมสร้างภาพลักษณ์สำนักงาน ปปง.ให้โปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม
แสลงหูบิ๊ก ปปง.เอี่ยวทุนจีนเทา
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ประธาน ปปง.ระบุว่าเป็นนายกฯคนแรกที่มาเยี่ยมและมอบนโยบาย เราต้องทำงานกันให้รวดเร็วและกระชับขึ้น เช่น หากยึดทรัพย์มาต้องขึ้นเว็บไซต์ว่าทำงานไปแล้วเท่าไหร่ ยึดของใครมา ส่งคืนรัฐไปแล้วเท่าไหร่ เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีข้อครหา ปปง.เรื่องความโปร่งใสโดยเฉพาะผู้บริหารที่มีข่าวว่าไปเกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทา จะกู้ภาพลักษณ์นี้อย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า ต้องให้เกียรติเจ้าหน้าที่ อย่าพูดกันไปเลย เชื่อว่าทุกคนเข้าใจเรื่องที่สังคมยังมีข้อกังขาอยู่ การมอบนโยบายวันนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทํางานอย่างสุจริต รอบคอบ รวดเร็ว และตอบโจทย์สังคมได้ ขอให้ดูกันต่อไปเชื่อว่าประสิทธิภาพการทำงานจะดีขึ้น ข้อครหาต้องลดลง
ชี้ “เหลิม” แค่งอนใส่ “นายใหญ่”
นายเศรษฐายังกล่าวถึงความขัดแย้งระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ประกาศตัดขาดกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ทราบว่าทะเลาะอะไรกัน ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า เข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า เป็นเรื่องคนสองคน เมื่อถามว่า แปลว่าเรื่องนี้จะให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบเพื่อไทย เป็นคนจัดการและพูดคุยใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า เป็นเรื่องที่พรรคจะจัดการ ไม่ได้เข้าไปอยู่ในความขัดแย้งด้วย ก็อาจงอนกันบ้าง น้อยใจกันบ้าง เมื่อถามว่าตั้งข้อสังเกตว่า ร.ต.อ.เฉลิมอาจไม่พอใจเรื่องการจัดสรรตำแหน่งในรัฐบาล นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ทราบ แต่ตำแหน่งมีจำนวนจำกัด บางคนได้เป็นรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีช่วย เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี หรือไปอยู่ในคณะกรรมการต่างๆ มีหน้าที่มีหลายเสาที่เข้าไปอยู่กันได้ แต่เรื่องการแต่งตั้งยังไม่จบ ทยอยมาเรื่อยๆ และมีหลายพรรคเกี่ยวข้องด้วย
พูดคุยกันภาษาดอกไม้ดีกว่า
เมื่อถามย้ำว่า เป็นปัญหาภายในที่ต้องคุยกันในพรรคใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ทุกพรรคทุกกลุ่ม ทุกเหล่า มีปัญหากันทั้งนั้นมานั่งพูดคุยกันดีกว่า เราพูดคุยกันด้วยความเข้าใจดีกว่า เมื่อถามว่ายังไม่อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมรีบพูดว่าจะออกจากพรรคหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า คงไปบอกใครให้พูดอะไรไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับตน แต่อย่างที่พูดว่าถ้ามีปัญหากันก็เจรจาด้วยการถ้อยทีถ้อยอาศัย ใช้ภาษาที่ไม่ก้าวร้าว ยึดหลักนี้ และพูดมาตลอด
“อ้วน” ไม่เชื่อสองคู่ซี้แตกคอ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้แค่เห็นจากข่าว นายทักษิณและ ร.ต.อ.เฉลิมมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่ คิดว่าไม่น่ามีปัญหา ตนให้ความเคารพ ร.ต.อ.เฉลิม มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ถ้ามีโอกาสพบกับ ร.ต.อ.เฉลิมคงมีการสอบถาม ยังคิดว่าไม่น่ามีปัญหา ร.ต.อ.เฉลิมอยู่กับพรรคเพื่อไทยมานาน ให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่พรรคในเรื่องต่างๆ เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะทำให้เกิดรอยร้าวภายในพรรคหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะยังไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร เมื่อถามกังวลหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น เพราะเนื้อหา และสาเหตุของปัญหาต่างกัน
ลั่นไม่คิดฆ่าโคถึกมีแต่ขุนให้ดี
เมื่อถามว่า อาจถูกมองว่าเสร็จนาฆ่าโคถึกเสร็จศึกฆ่าขุนพลหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “ไม่ฆ่าหรอกครับ เสร็จงานแล้วไม่ฆ่าโค มีแต่จะทำงานให้ดีขึ้น ช่วยให้โคทั้งหลายได้มีงานทำ มีความอุดมสมบูรณ์” เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมเคยมาขอตำแหน่งให้นายวัน อยู่บำรุง บุตรชายบ้างหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เรื่องการวางคนดำรงตำแหน่งเป็นเรื่องของรัฐบาล ภายในพรรคมีความพยายามประสานงานกันอยู่ แต่ไม่เคยได้ยินว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหา จะหาโอกาสพบกับ ร.ต.อ.เฉลิมเร็วๆนี้ ได้ข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ค่อยสบาย ขอย้ำว่าไม่มีปัญหาให้ทุกคนสบายใจได้ ร.ต.อ.เฉลิมยังเป็นที่เคารพของคนในพรรคและมีบทบาทในพรรคอยู่ เมื่อถามว่าต้องไปพบนายทักษิณก่อนพูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิมหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่ต้องไปพบนายทักษิณ ท่านยังอยู่โรงพยาบาล ยังติดต่ออะไรไม่ได้ ยังสงสัยว่าเขาไปได้ยินสิ่งที่นายทักษิณพูดได้อย่างไร แต่ตั้งใจจะหาโอกาสไปพบกับ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่แล้ว
“เฉลิม” ตอก “เศรษฐา” อย่ามายุ่ง
ต่อมาช่วงค่ำ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ให้ความเห็นถึงการประกาศตัดขาดกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายเศรษฐาเลย เป็นเรื่องระหว่างตนกับนายทักษิณเท่านั้น ถ้าผู้สื่อข่าวมาถามความเห็นนายเศรษฐาก็ควรตอบว่าไม่รู้ ไม่ใช่มากล่าวถึงที่มาความเป็นมาของตนกับนายทักษิณแบบนี้ จะเป็นนายกฯก็เป็นไป แต่เชื่อว่าถ้าเป็นแบบนี้รัฐบาลจะพังในอีกไม่นาน ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
รทสช.–ก.ก.แบ่งเค้ก กมธ.ลงตัว
ช่วงสายที่รัฐสภา นายสัญญา นิลสุพรรณ สส.นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน (กมธ.กิจการศาลฯ) สภาผู้แทนราษฎร แถลงหลังการประชุมว่า ที่ประชุมวันนี้มีบรรยากาศดี พูดกันชัดเจนว่าจะสลับกันเป็นประธาน กมธ.กับ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รองประธาน กมธ. ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าเราไม่ทะเลาะกัน ไม่แบ่งพรรคฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล จะมุ่งมั่นตั้งใจทำตามหน้าที่ กมธ.เพื่อประโยชน์ประชาชน ทุกคนเห็นตรงกันทำให้การตกลงในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อถามว่าจะสลับกันเป็นคนละกี่ปี นายสัญญาตอบว่า เบื้องต้นคุยว่าจะสลับกัน แต่ระยะเวลาต้องหารือกับ น.ส.เบญจา เรามีสัญญาลูกผู้ชายกันแล้ว จะจัดสรรอย่างเป็นธรรมทุกเรื่อง เพื่อให้เห็นว่าเราไม่ได้คิดเอาเปรียบกัน น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รองประธาน กมธ. กล่าวว่า บรรยากาศการประชุมราบรื่น การทำงานใน กมธ.จะอาศัยวาระประชาชนเป็นหลัก ไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งโควตา เชื่อว่าการทำงานจะมีบรรยากาศที่ดี
“ฐากร” นั่ง ปธ.กมธ.วิทยาศาสตร์ฯ
ขณะที่การประชุมคณะกรรมา ธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม มีมติให้นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย เป็นประธาน กมธ. มีนายวาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นรองประธาน กมธ.คนที่ 1 นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานคนที่ 2 นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงศ์ เป็นรองประธานคนที่ 3 นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล เป็นรองประธานคนที่ 4 และ น.ส.ชุติมา คชพันธ์ เป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการ มีโฆษกคณะกรรมาธิการทั้งหมด 4คน ได้แก่ นายณกร ชารีพันธ์ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช นายไชยชนก ชิดชอบ นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์
“โรม” ยึด ปธ.กมธ.ความมั่นคงรัฐ
สำหรับรายชื่อประธานคณะกรรมาธิการอื่นที่มีการเลือกประธาน กมธ.เสร็จสิ้นแล้ว ได้แก่ กมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน มีนายกมลศักดิ์ ลีวาเหมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติเป็นประธาน กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร มีนายประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.กีฬา มีนายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธาน กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ มีนายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธาน กมธ.แก้ไขปัญหาหนี้สิน มีนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส พรรคพปชร. เป็นประธาน กมธ.เกษตรและสหกรณ์ มีนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล เป็นประธาน กมธ.คมนาคม มีนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน
“วิโรจน์” ซิวประธาน กมธ.ทหาร
กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค มีนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี พรรค พปชร. เป็นประธาน กมธ.การเงิน การคลัง สถาบันการเงิน และตลาดการเงิน มีนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สส.น่าน พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.ต่างประเทศ มีนายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.ตำรวจ มีนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน กมธ.จัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน กมธ. ทหาร มีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน กมธ.ท่องเที่ยว มีนายเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีนายอภิชาติ ศิริสุนทร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน กมธ.ปกครอง มีนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน
“ชูศักดิ์” โดดคุม กมธ.ปราบโกง
กมธ.กระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ มี น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน กมธ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด มีนายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย มีนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.พลังงาน มี น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ สส.สุราษฎร์ธานี พรรค รทสช. เป็นประธาน กมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เป็นประธาน กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ มีนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เป็นประธาน กมธ.พาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา มีนายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน
“ทศพร” ดูเอง กมธ.สาธารณสุข
กมธ.แรงงาน มีนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน กมธ.แก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม มีนายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ พรรค พปชร. เป็นประธาน กมธ.ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม มีนางเทียบจุฑา ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.ศึกษา มีนายโสภณ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน กมธ.สาธารณสุข มี นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.สื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ.อุตสาหกรรม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรค รทสช. เป็นประธาน
ก.ก.ยันชัดไม่ขอเป็นตรายาง
วันเดียวกัน เวลา 11.10 น. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณากระทู้ถามสดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ตั้งข้อสงสัยว่า เห็นรัฐบาลยูเทิร์นจากการเดินหน้าทำประชามติ กังวลว่าคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ตั้งขึ้นมาอาจเสียทั้งเวลา และงบประมาณโดยไม่จำเป็น ช่วงเลือกตั้งหลายพรรค รวมถึงพรรคเพื่อไทยประกาศว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะเดินหน้าทำประชามติทันที โดยไม่ต้องอาศัยเสียงสว. ช่วยยืนยันตามจุดยืนเดิมได้หรือไม่ พรรคก้าวไกลจึงขออนุญาตยังไม่เข้าไปร่วม เพราะเสี่ยง จะเป็นตรายาง หากเราติดกระดุมเม็ดแรกผิด เสื้อผ้าตัวนั้นก็จะผิดเพี้ยนไปและใส่ไม่ได้อยู่ดี
ซักแหลกชุดจัดทำประชามติ
นายพริษฐ์กล่าวว่า อยากถามว่าหากประชาชนหรือบุคคลประสงค์อยากเสนอแก้ไขข้อความบางส่วนในหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งไม่กระทบแน่นอนต่อสถาบัน และไม่กระทบต่อรูปแบบของรัฐ รัฐบาลจะอธิบายอย่างไรว่าไม่อนุญาต แม้กระทั่งเสนอความเห็นหรือการแก้ไขบางข้อความ และหากตัดหมวด 1 หมวด 2 ออกไปก่อน ขอคำยืนยันจากรัฐบาลว่าตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป รัฐบาลนี้จะสนับสนุนให้มีการยกร่างใหม่ทั้งหมด ที่ไม่ใช่เพียงการแก้ไขรายมาตรา และยืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่มีการล็อกว่าประเทศนี้ต้องไม่ใช่ระบบรัฐสภาแบบสภาคู่ หรือสภาเดี่ยว ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่ล็อกว่าจะปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระ แบบไหนทำได้ทำไม่ได้ ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะเป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งตรงทั้งหมด
“ภูมิธรรม” การันตีไม่มีตรายาง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ชี้แจงว่า วางหลักเกณฑ์ไว้ชัดเจนว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้เสร็จโดยเร็วที่สุดภายใน 4 ปี ประชามติแต่ละครั้งต้องใช้เงิน 3-4 พันล้านบาท ไม่ควรต้องเสียเงินมากเช่นนั้น พยายามหาทางว่าเป็นไปได้อยากทำประชามติสัก 2 ครั้งก็จะดี อยากให้ครั้งนี้สำเร็จ ไม่ใช่เสนอขึ้นมาแล้วต้องตกไปเหมือนครั้งที่ผ่านมา เสียดายที่พรรค ก.ก.ไม่เข้าร่วม ยืนยันว่าจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด ที่เราทำอยู่คือการติดกระดุมเม็ดแรกถูก และกรรมการฯที่เข้ามาไม่ได้เป็นตรายาง รับรองด้วยเกียรติ นายพริษฐ์ต้องให้เกียรติด้วยเพราะมาจากหลายภาคส่วน
โต้ยิบก้าวไกลมองโลกในแง่ร้าย
นายภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งที่ต้องรับประกันคือจะทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้ 2 ข้อที่พรรค ก.ก.เสนอ การทำให้ทุกส่วนมาคุยกันเป็นหนทางที่ดีที่สุด ทำให้การแก้ไขปัญหาประเทศไม่สร้างความขัดแย้งใหม่ ไม่ควรมองอะไรที่แง่ร้ายเกินไป หากทำใจกว้างนิดหนึ่งคิดว่าเราจะคุยกันได้ เราหารือกันเบื้องต้นแล้วจะเปิดเวทีให้ภาคส่วนต่างๆแสดงความคิดเห็นด้วย โดยรัฐธรรมนูญต้องผ่าน จะไม่เสนอแล้วต้องตกไปเหมือนครั้งที่ผ่านมา
สส.คึกซ้อมหนีไฟเสมือนจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณากระทู้ถามทั่วไป เรื่องปัญหาการดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานใน จ.ภูเก็ต ล่าช้า ของว่าที่ ร.ต.สมชาย เดชถาวรเจริญ สส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล ขณะที่นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กำลังตอบคำถาม นายพิเชษฐ์ได้เเจ้งที่ประชุมล่วงหน้าว่าอีกประมาณ 10 นาที จะมีการซ้อมหนีไฟเสมือนจริง พอถึงเวลานัดหมายเสียงกริ่งดังขึ้น สส.ต่างทยอยออกจากห้อง ส่วนนางมนพรได้ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า ผู้ถามยังอยู่ในห้องประชุมหรือไม่ ส่วนนายพิเชษฐ์ตอบว่า การประชุมยังดำเนินการต่อไป โดยผู้ถามญัตติยังอยู่ในห้องประชุม ทำให้นางมนพรชี้แจงจนเสร็จสิ้น แต่บรรยากาศการซ้อมหนีไฟเป็นไปอย่างคึกคัก มีการตะโกนโหวกเหวกโวยวาย โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางโพมาฝึกซ้อมให้
“ชัยธวัช” ชงร่างนิรโทษกรรมฯ
อีกเรื่อง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ายื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ที่ สส.พรรค ก.ก.เข้าชื่อกัน ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ความขัดแย้งทางการเมืองยืดเยื้อนับตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เริ่มชุมนุมเมื่อวันที่ 11 ก.พ.2549 จนเกิดการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 มีรัฐประหารซ้ำอีกเมื่อ 22 พ.ค.2557 โดย คสช. ประชาชนนับพันถูกดำเนินคดี เพื่อให้สังคมไทยกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ การนิรโทษกรรมเป็นหนทางถอนฝืนออกจากกองไฟ หยุดยุตินิติสงคราม เป็นก้าวแรกที่เริ่มต้นสร้างความยุติธรรมความปรองดองที่ยั่งยืนในสังคมไทย เชื่อว่าการนิรโทษกรรมนี้เป็นไปได้ หากพรรคต่างๆร่วมกันผลักดัน จากนี้พรรค ก.ก.จะพูดคุยกับทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกสี
ล้างโทษที่มีมูลเหตุทางการเมือง
นายชัยธวัชกล่าวว่า เนื้อหาสาระสำคัญของร่างฯมีดังนี้ 1.กำหนดให้บรรดาการกระทำใดๆของบุคคลผู้เข้าร่วมเดินขบวนชุมนุมทางการเมือง ตลอดจนการกระทำทางกายภาพ หรือการแสดงความคิดเห็นใดๆที่เป็นความผิดตามกฎหมาย ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.49 จนถึงร่างฯ พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ หากการกระทำดังกล่าวมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ เท่าที่ไม่ขัดกับพันธะกฎหมายต่างประเทศ 2.การนิรโทษฯจะไม่ครอบคลุมถึงการกระทำของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุม หากเป็นการกระทำเกินสมควรกว่าเหตุ ตลอดจนจะไม่นิรโทษฯการกระทำความผิดต่อชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา และไม่นิรโทษฯการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113
โยนคดี ม.112 อยู่ที่ คกก.วินิจฉัย
นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า 3.กลไกการนิรโทษฯจะกำหนดให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการกระทำความผิดเพื่อการนิรโทษกรรม ในร่างฯของพรรค ก.ก.เสนอให้มีจำนวน 9 คน ซึ่งประธานรัฐสภาจะเป็นผู้แต่งตั้งบุคคลดังต่อไปนี้ 1) ประธานสภาฯ 1 คน 2) ผู้นำฝ่ายค้าน 1 คน 3) บุคคลที่ได้รับเลือกจาก ครม. 1 คน 4)มาจากบุคคลที่สภาฯเลือก 2 คน 5) ผู้พิพากษา หรืออดีตผู้พิพากษา 1 คน 6) ตุลาการ หรืออดีตตุลาการ 1 คน 7)พนักงานอัยการ หรืออดีตพนักงานอัยการอีก 1 คน ต้องมาจากการนำเสนอของศาลปกครอง และอัยการเอง และ 8)เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 1 คน 4.กำหนดสิทธิผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือเสียหายโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องมาจากระเบียบ ประกาศ คำสั่ง คำวินิจฉัย มติ หรือการกระทำของคณะกรรมการวินิจฉัยฯ เพื่อการนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯฉบับนี้ ให้มีสิทธิสามารถฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้เอง ส่วนจะครอบคลุมถึงคดี 112 ด้วยหรือไม่ ต้องอยู่ในการวินิจฉัยของคณะกรรมการ เช่นกัน เรายินดีถ้าพรรคต่างๆจะมีร่างของตัวเองมาประกบร่างของพรรค ก.ก. เพื่อนำทุกร่างมาพิจารณาร่วมกันในสภาฯ เมื่อถามว่าเงื่อนไขการนิรโทษฯเรื่องมาตรา 112 จะสามารถโน้มน้าวพรรคอื่นได้หรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่า เรื่องนี้แลกเปลี่ยนกันได้ เราใช้กระบวนการนิติบัญญัติหาข้อสรุปที่ยอมรับร่วมกันได้
“เสี่ยหนู” ปัดวุ่นกดดันอธิบดีที่ดิน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งว่า นายชยาวุธแจ้งการลาออกมาที่ตนว่าต้องการลาออกก่อนเกษียณ 1 ปี ให้เหตุผลว่าไปดูแลครอบครัว เมื่อถามว่ามองกันว่ามีกระแสกดดันทางการเมืองเกี่ยวกับกรณีที่ดินพิพาทเขากระโดง นายอนุทินตอบว่า รับประกันว่าไม่มี อย่าไปพูดแบบนั้นเด็ดขาด ไม่มีความกดดันใดๆ นอกจากนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ขอให้อธิบดีกรมที่ดินทบทวนการลาออกแล้ว
มท.1 ขานรับขยายเวลาปาร์ตี้
นายอนุทินยังกล่าวถึงนโยบายขยายเวลาปิดสถานบันเทิงเพื่อรองรับการท่องเที่ยวว่า ได้รับนโยบายนี้มาจากรัฐบาล เราจะพิจารณาจังหวัดท่องเที่ยวเป็นหลัก และดูโซนจังหวัดที่มีความเหมาะสม รวมถึงต้องดูเรื่องความปลอดภัย เมื่อถามว่าจะนำร่องขยายเวลาปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ท่องเที่ยวก่อนใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า คงไม่ใช่นำร่อง แต่เมื่อเป็นนโยบายของนายกฯที่สั่งการตรงมาที่ตน เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงผู้ที่ทำงานในระบบกลางคืนทั้งหมดที่เคยประสบปัญหาจากช่วงโควิด เราต้องให้โอกาสเขากลับมาฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ
ก.ก.ร่วมหนุนแต่ต้องจัดโซนนิ่ง
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องนี้พรรค ก.ก.มีข้อเสนอว่าสามารถจัดโซนนิ่งพื้นที่ได้ ไม่ควรเป็นลักษณะทั่วไป เป็นข้อเสนอของพรรคอยู่แล้ว เราเห็นด้วยแต่ต้องลงไปดูในรายละเอียด ต้องยอมรับว่าหลายพื้นที่สถานบันเทิงกลางคืนเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ควรทำให้ถูกกฎหมาย และถูกควบคุมกำกับภายใต้กรอบที่ควรจะเป็นได้ ไม่ใช่ในทางปฏิบัติบอกว่ากฎหมายห้าม แต่เปิดถึงเช้าในหลายที่โดยใช้กระบวนการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง “โดยหลักการเห็นด้วย แต่ไม่ใช่ทั่วไป ควรเป็นโซนนิ่งและควรเป็นไปเพื่อทำให้สถานบันเทิงถูกควบคุมกำกับได้ ไม่ใช่อยู่ในพื้นที่สีเทา หลับตาข้างหนึ่งแล้วไม่สามารถดูแลอะไรได้เลย”
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
