ฮือฮา รำลึก 6 ตุลาฯ "บุ้ง" ใช้ "หยก"แสดงเลียนแบบฆ่าแขวนคอใต้ต้นมะขาม

ฮือฮา "บุ้งทะลุวัง" ใช้ "น้องหยก" แสดงเลียนแบบฆ่าแขวนคอใต้ต้นมะขาม ด้านกลุ่มต้าน ม.112 วอนนิรโทษกรรมเหล่าแนวร่วมที่ทยอยเดินเข้าคุก นักเคลื่อนไหว นักการเมือง ตบเท้าร่วมงานรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 คึกคัก

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 6 ต.ค. ที่สวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ “ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ มีการจัดงานครบรอบ 47 ปี เหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษาและประชาชน ที่ มธ.และสนามหลวง เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2519 ท่ามกลางผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต ตลอดจนนักการเมืองตัวแทนองค์กรภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมคับคั่ง อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคพรรคก้าวไกล น.ต.ศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธาน นปช.เป็นต้น ในงานมีพิธีสงฆ์การวางพวงมาลาและวางดอกไม้รำลึกถึงผู้วายชนม์ในเหตุการณ์ทั้งมีการกล่าวปาฐกถา โดย รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ที่สร้างความฮือฮาภายในงาน คือ นักศึกษา มธ.นำป้ายข้อความไปติดบริเวณหน้าหอประชุมใหญ่ข้อความ "สื่อได้ยอดนักการเมืองได้หน้าคนเดือนตุลาคมได้อะไร" และรางวัลจารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย ประจำปี 66 สภา นศ.มธ. มีมติให้เป็นของโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายของประชาชน หรือไอลอว์ ที่มีบทบาทสำคัญ และเป็นหัวหอกในการเคลื่อนไหวทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ 60 และการยกเลิก ม.112

ต่อมา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นำแนวร่วมคณะรณรงค์ยกเลิก 112 หรือ ครย.112 เดินทางมาชูป้ายข้อเรียกร้อง น.ส.ธนพร วิจันทร์ หรือ ไหม อ่านแถลงการณ์เรื่อง "ล้างมรดกบาป 6 ตุลา ยกเลิก ม.112 ปล่อยนักโทษการเมือง" ใจความสำคัญว่า การเข่นฆ่านักศึกษาและประชาชนในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 มีการใส่ร้ายผู้เสียชีวิตว่า เป็นคอมมิวนิสต์ ล้มล้างระบอบกษัตริย์ หลังจากนั้น 21 ต.ค.19 ยังมีการแก้ไขบทลงโทษ ม.112 ให้เพิ่มสูงขึ้น ม.112 จึงเป็นมรดกบาปมาจนถึงปัจจุบัน วันนี้มีนักโทษการเมืองถูกคุมขังในเรือนจำ 35 คน เป็นคดี ม.112 จำนวน 10 คน มีผู้อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี ม.112 จำนวน 258 คน เฉพาะในเดือน ต.ค.จะมีการพิพากษาคดี ม.112 รวม 15 คดี กลุ่มคณะราษฎรยกเลิก 112 เคยรวบรวมรายชื่อประชาชน กว่า 2 แสนรายชื่อ เสนอรัฐสภา ให้ยกเลิก ม.112 แต่ถูกปิดกั้น ทั้งกลายเป็นเงื่อนไขสกัดกั้นพรรคก้าวไกลจนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามครรลอง โอกาสครบ 47 ปี 6 ตุลา จึงขอเรียกร้องดังนี้

...

1. นักโทษการเมืองในคดีที่ยังไม่ถึงที่สุดจะต้องได้รับสิทธิ์การประกันตัว 2. รัฐบาล ต้องนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองและผู้ถูกดำเนินคดีจากการใช้สิทธิเสรีภาพ และ3. ยกเลิก ม.112 เพื่อประกันเสรีภาพแสดงความเห็นของประชาชน "ปิดท้ายด้วยการอ่านแถลงการณ์ของนายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรงค์ หรือ เก็ท นักโทษคดีม.112 ที่อยู่ในเรือนจำ"

ขณะเดียวกัน น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้งทะลุวัง นำพลพรรค กลุ่มทะลุวัง อาทิ น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย หรือ หยก เดินทางมาเข้าร่วมพร้อมทำกิจกรรมโพลสำรวจความเห็นหัวข้อ "เห็นด้วยหรือไม่ ให้ศาลยุติการดำเนินคดีทางการเมืองและ ม.112"

น.ส.เนติพร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุผลของการมาทำโพล เพราะขณะนี้เพื่อนๆ กำลังต้องทยอยเข้าเรือนจำ ตอนนี้จึงไม่ได้หวังจะแก้หรือยกเลิก ม.112 แล้วหลังจากได้รัฐบาลแบบพันธุ์ผสมมา แนวคิดนี้จึงห่างไกลความจริง แต่อยากให้เพื่อนๆ ออกจากเรือนจำ ซึ่งผู้ที่ทำได้คือศาล โดยสามารถยกฟ้องหรือไม่รับฟ้อง ทั้งขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลเพื่อขอให้ยุติการดำเนินคดีกับนักโทษทางความคิด และ ม.112 เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ที่จะทำได้ ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ก็มีคนต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ตนก็จะถูกศาลพิจารณาถอนการประกันตัวในวันที่ 9 ต.ค.นี้ อาจต้องเข้าคุกอีก

"เรื่องที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ นั้นไม่กังวล เพราะไม่ใช่คดี ม.112 อีกทั้งศาลที่บางคนรู้จักตนมาตั้งแต่เด็กๆ ทราบอยู่แล้วว่า ตนไม่ได้เป็นคนที่ค้ามนุษย์ ส่วนเรื่องที่ถูกมองว่าครอบงำทางความคิดน้องหยกนั้น ยืนยันว่า ไม่ใช่และทุกข์ใจกับข้อกล่าวหานี้ จริงๆ แล้ว หยกมีความคิดเป็นของตัวเองเป็นเด็กฉลาด น่ารัก อยากให้เปิดใจฟังหยก จะรู้ว่าเป็นคนที่มีความคิดก้าวหน้าอยากเห็นประเทศนี้ดีขึ้น ตนเข้าใจเรื่องที่สังคมกำลังมองตนในแง่ลบ เพราะบางทีท่าทีตนก้าวร้าวเสียงดังเกินไป จึงมีที่คนชอบไม่ชอบ และที่ผ่านมา จะทะเลาะกับเฉพาะคนที่พรากอิสรภาพจากประชาชนไปเท่านั้น ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนรุนแรงอะไร"

ต่อมา บุ้งทะลุวัง ยังได้นำพลพรรคทะลุวัง ทะลุแก๊ส ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี ม.112 และคดีต่างๆ ร่วมกันแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ สวมชุดคล้ายชุดนักโทษ ชูป้ายข้อเรียกร้อง ก่อนเดินขบวนออกจาก มธ.มุ่งหน้าไปยังศาลฎีกา แล้วนำภาพผู้ที่ถูกคุมขังในเรือนจำเพราะ ม.112 ไปปิดที่ป้ายศาลฎีกา และที่สร้างความฮือฮาให้คนที่ผ่านไปมา คือ ทางกลุ่มได้จัดการแสดงเลียนแบบเหตุการณ์ สังหารหมู่ 6 ตุลา ด้วยการ ใช้ น.ส.หยก วัย 15 ปี เป็นตัวแทน ใช้เชือกดึงตัวขึ้นไปบนต้นมะขามหน้าศาลฎีกา เลียนแบบการถูกแขวนคอใต้ต้นมะขาม ทั้งนำของเหลวสีแดงคล้ายเลือดมาราดบนตัว นอกจากนี้ ยังให้สมาชิกในกลุ่มแสดงการใช้เก้าอี้ฟาด สร้างความหวาดเสียวให้ผู้ผ่านไปมาที่ไม่ทราบว่าภาพที่เกิดเป็นการแสดง