“วัน” ไม่รู้ใครให้ข่าว อ้าง “เฉลิม” ประกาศตัดขาด “ทักษิณ” ยัน รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่เคยพูดกวนใคร ตัดพ้อ ออกตัวป้องเพื่อไทยตลอด แต่เวลาถูกทัวร์ลงไม่มีใครช่วย เผย เตรียมไปคุยกับพ่อ และขอให้รอฟังความจริงจากปาก
วันที่ 4 ตุลาคม 2566 จากกรณีมีการเผยแพร่คำกล่าวอ้าง ที่ระบุว่ามาจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถึงเรื่องที่ได้ยินมาว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดแบบใหญ่โตว่า ตนเป็นคนกวนโอ๊ยทั้งพ่อทั้งลูก เลยไม่ให้ตำแหน่ง ว่า “คุณเข้าใจผิด ผมไม่ได้ร่วมรัฐบาลกับคุณ ผมมีความสุข พูดอะไรระมัดระวังบ้าง คุณใหญ่โตได้ในพรรคของคุณ คุณไล่ผมออกสิ นึกถึงการแก้คดี 8 คดีให้คุณแล้ว ผมคิดว่าคุณจะเปลี่ยนนิสัย แล้วเวลาใช้คำพูดถึงผม อย่าเอ่ยมือเอ่ยเท้ามันไม่สุภาพ และผมก็มีมือมีเท้าที่จะเอ่ยถึงเหมือนกัน ผมจะหันหลังให้คุณตลอดชีวิต ที่พูดมาทั้งหมดถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิต ที่ผ่านมาผมไม่ได้สนิทกับครอบครัวนายทักษิณ ผมสนิทเพียงนายทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์เท่านั้น แต่หลังจากนี้คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก มันสายเกินไปแล้ว” นั้น
...
ไม่รู้ใครให้ข่าว “เฉลิม” ประกาศตัดขาด “ทักษิณ”
ต่อมาเมื่อเวลา 17.11 น.วันเดียวกัน นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบุตรชายของ นายเฉลิม ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งช่วงหนึ่งมีคนเข้ามาถามถึงกรณีดังกล่าว โดยเจ้าตัวระบุว่า ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าข่าวนี้ออกมาจากไหน และไม่รู้ว่าใครเป็นคนให้ข่าว ซึ่งในเนื้อหาระบุว่า ร.ต.อ.เฉลิม กับลูกก็คือตน ไปพูดกวนโอ๊ย ซึ่งตนไม่รู้เรื่องด้วย
“ผมนี่นะ ไม่เคยพูดจาให้ร้ายพรรคเพื่อไทยแม้แต่ครั้งเดียว น้อยอกน้อยใจบางเรื่องมีไหม มี ก็ต้องแต่บ่นน้อยอกน้อยใจ แต่ไม่เคยพูดจาให้ร้ายพรรค แล้วผมก็จำไม่ได้นึกไม่ออก เพราะผมไม่เคยทำ ผมไม่เคยพูดจากวนใส่ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคแม้แต่ครั้งเดียว ผมไม่เคย ผมยังงงอยู่เนี่ย ผมยังไม่ได้คุยกับคุณพ่อว่าข่าวนี้มันจริงเท็จอย่างไร”
นายวัน กล่าวย้ำว่าไม่เคยพูดกวนใคร เพราะรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ และไม่รู้ว่าข้อมูลมาจากไหน หลังจากจบการไลฟ์จะไปคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งที่ผ่านมาเคยพูดมาตลอดว่าจะไม่ไปไหน จะอยู่พรรคเพื่อไทยไปตลอดจนกว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่รักตน ไม่รักครอบครัวตน ไม่ให้โอกาสพวกตน ตลอดหลายครั้งที่ผ่านมาที่พรรคเพื่อไทยถูกบางพรรคใส่ร้าย ตนก็จะออกมาพูด มาโพสต์ ออกมาเถียงแทน แต่สุดท้ายกลับถูกทัวร์ลง ไม่มีใครมาช่วย และไม่ค่อยเห็น สส.พรรคเพื่อไทย ออกมาปกป้องพรรค ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ใหญ่มาจากไหน ปัจจุบันก็เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นแค่ สส.สอบตก
ยันไม่เคยทิ้งพรรค ขอให้รอฟังความจริงจากปาก
ทั้งนี้ นายวัน ยังเล่าย้อนไปถึงครั้งที่พรรคไทยรักไทย ยิ่งใหญ่อลังการเมื่อปี 2544 กับ 2548 ตอนนั้นตนและ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้อยู่ในพรรคไทยรักไทย กระทั่งถูกปฏิวัติรัฐประหารปี 2549 พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ก็มาตั้งพรรคพลังประชาชน ตอนนั้นเหมือนเรือล่ม แพแตก มีแต่คนหนีตายออกจากพรรคไทยรักไทย ซึ่งขณะนั้น ร.ต.อ.เฉลิม มาชวนตนไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชาชน ไม่มีใครคิดว่าจะชนะเลือกตั้ง จน นายสมัคร สุนทรเวช ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ต่อมาพรรคปรับย้ายให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยไม่ทราบสาเหตุ กระทั่ง นายสมัคร โดนคดีจนต้องหลุดจากตำแหน่ง จึงตั้ง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่อยู่ได้ไม่นานก็ต้องหลุดไปจากตำแหน่งเพราะมีคดี
ในเวลาต่อมารัฐบาลเปลี่ยนขั้ว คนของพรรคพลังประชาชนกลุ่มใหญ่ ที่เรียกว่าภูมิใจไทยในปัจจุบัน ย้ายข้ามขั้วไปสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาพรรคพลังประชาชนก็ถูกยุบ จึงมีการก่อตั้งพรรคเพื่อไทย ทั้งตนและ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ยังอยู่ และตนลงสมัครรับเลือกในนามพรรคเพื่อไทย โดยแพ้ไป 1,000 กว่าคะแนน แต่พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
“ถ้าผมจำไม่ผิด คุณพ่อเนี่ยแหละเสนอในพรรคให้ชูนายกฯ ปู มาเป็นนายกฯ เอานายกฯ ปู มาหาเสียง สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็ประสบความสำเร็จ คุณพ่อผมเป็นรองนายกฯ คุมตำรวจ ปราบปรามยาเสพติด ได้เป็นผลงานเบอร์ต้นๆ เป็นรองแค่ยุคท่านทักษิณ แค่นั้นเอง อยู่ดีๆ ก็ย้ายพ่อผมจากรองนายกฯ ไปเป็น รมว.แรงงาน เราก็ยังอยู่ ผมก็ยังอยู่”
ก่อนจะทิ้งท้ายว่า พูดมากหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ ซึ่งรายละเอียดในเรื่องที่ออกมานี้ต้องรอฟังจากปากของ ร.ต.อ.เฉลิม ส่วนตนเองทุกวันนี้ก็ยังทำงานในพื้นที่นอกสภาฯ อยู่ตลอด ไม่เคยทิ้งประชาชน พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนครอบครัวอยู่บำรุง
(ชมคลิป ตั้งแต่นาทีที่ 4.30)
