“สามารถ” จี้สภาฯชงญัตติด่วนเหตุยิงกลางพารากอน ยกเป็นเคสศึกษาเสพสื่อ

นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความเห็นผ่านรายการสามารถ 5 นาทีว่า  สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ วันนี้ผมสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ก็จะมาสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ครับ เรื่องนี้ก็ต้องมาพูดครับเป็นเรื่องเด่นดัง เเละก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลด เป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในกรุงเทพมหานคร พ่อแม่พี่น้องก็บอกว่าต้องพูดเรื่องนี้ ผมเองวันนี้จะไปเตะฟุตบอล  ฝนก็ตกหนักเลยยังใส่ชุดฟุตบอลบอลอยู่ ตกหนักมากและระหว่างทางเดินทางกลับสนามฟุตบอล  ก็เห็นข่าวที่ส่งกันในไลน์ว่าที่ห้างพาราก้อนมีเหตุยิงกัน แต่พอมารู้จากข่าวก็คือเด็กอายุเพียง 14 ปีเท่านั้นเอง แล้วคุณพ่อนั้นก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง  ก็ถือว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะที่ดี แต่ก็เป็นเรื่องแปลกใจว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น เรื่องนี้ทางตำรวจต้องสืบสวนต่อไปครับ 

แต่เหนื่อสิ่งอื่นใดที่ผมคิดว่าพรุ่งนี้และวันพฤหัสบดี จะเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่องนี้ผมว่าสภาผู้แทนราษฎรต้องเสนอเป็นญัตติด่วน อภิปรายเรื่องนี้ครับ

สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมอยากจะเสนอไปก็คือ ที่ผมรับมาจากประชาชนว่ากฎหมายต้องแก้ใหม่ วันนี้เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ลงมาไม่ต้องรับโทษ คือถ้าโทษทางอาญาฆ่าผู้อื่นทำให้เสียชีวิต มันผิดกฎหมายอาญาอยู่แล้วตามมาตรา288

แต่เนื่องจากเด็กเป็นผู้เยาว์ มีมาตรา73 มาตรา74 อยู่ ซึ่งพูดง่ายๆว่าไม่ต้องรับโทษ  แต่เหนือสิ่งอื่นใดความเสียหายที่มันเกิดขึ้นที่ห้างพารากอนนั้น  มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นพม่า 1 ราย เป็นคนจีน 1 ราย ซึ่งยังมีลูกแฝดที่ยังเล็กอยู่ เป็นเภสัชกร 1 ราย เท่าที่ผมได้รับข้อมานะครับ เดี๋ยวรอยืนยันอีกครั้ง

มันไม่ควรมีใครต้องมาเสียชีวิตจากใครก็ไม่รู้ เรื่องนี้ห้าง ผมยอมรับว่าแผนการอพยพทำได้ดี แต่แผนป้องกันเหตุสำคัญที่สุด เราไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดเหตุแล้วอพยพคน ห้างนี่ถือว่าเป็นห้างต้องปลอดภัย  

สิ่งสำคัญที่สุดคือมีคนเอาปืนเข้าไปในห้างได้ยังไง เรื่องนี้  ห้างต้องตอบสังคม แล้วห้างจะมีมาตราการให้ความปลอดภัยกับผู้ใช้บริการอย่างไร เครื่องตรวจเอ็กเซอร์เรยเหมือนสนามบิน ต้องมีครับ แล้วต้องมีคนเฝ้าประจำจุด เมื่อก่อนผมจำได้ห้างพาราก้อนเคยตรวจเข้มเรื่องนี้ ตรวจกระเป๋า ตรวจการพกพาอาวุธ คือถ้าวันนี้มีการตรวจ  อาวุธปืนก็ไม่สามารถเข้าไปในห้างได้ ก็จะไม่มีใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว นี่คือสิ่งที่ผมบอกห้างคือพื้นที่ปลอดภัยนะครับ ห้างคือพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ คือที่คนไปช็อปปิ้งกัน ฉะนั้นห้างในฐานะเอกชนเนี่ย ท่านต้องมีมาตราการ แล้วเรื่องนี้มันเกิดเหตุแล้วท่านต้องเยียวยาก็ฝากไปยังห้างพาราก้อนด้วย

ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ห่างจากห้างพารากอนไม่เกิน 100 เมตร พูดง่ายว่ากลั้นหายใจวิ่งจากพาราก้อนเนี่ยไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ มีถนนกั้นเส้นเดียว ฉะนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งใกล้ห้วงพารากอน ยิ่งต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย สมัยก่อนเวลาเขาจะไปไหนเขามองดูก่อนมีโรงพักหรือเปล่า  มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือเปล่า มีสถานีตำรวจหรือเปล่า ถ้ามีปลอดภัยครับ  อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย ไม่ต้องเอาหลักความเป็นจริงเอาในเกมส์ก็ได้ครับ เวลาเราเล่นเกมส์ถ้ามันมีแหล่งชุมชนขึ้นเนี่ย มันจะเกิดอาชญากรรม ให้เราสร้างโปลิสสเตชั่น ตรงนั้นจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยทันที

ฉะนั้นนั่นคือสิ่งที่ผมกำลังจะบอกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอยู่ใกล้พารากอนจึง น่าจะเป็นที่ปลอดภัยที่สุด ก็ต้องฝากด้วยครับ พรุ่งนี้สภาผู้แทนราษฎรจะมีการประชุมกัน ก็ขอฝากสมาชิกสภาผู้แทนทุกคนด้วย ในการที่จะพิจารณากฎหมายคุ้มครองผู้สูญเสียนะครับ อาจจะไม่รับโทษอาญา แต่ในคดีแพ่งควรจะต้องดำเนินการครับ   เหนือสิ่งอื่นใดพ่อแม่เด็ก ควรจะต้องตรวจสอบ ดูแลคนในครอบครัวเพื่อที่จะไม่เป็นภาระกับสังคม แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมอยากให้ห้างมีมาตราการในการปกป้องประชาชนก็คือตรวจสอบในเรื่องของอาวุธปืน อาวุธของระเบิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่เรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน และ ทำทันที  และ ทางตำรวจต้องมีการตั้งด่านตรวจอาวุธปืน  ปล่อยให้เด็กพกพาอาวุธจากย่านบางแคมายังห้างพารากอน ผ่านกี่โรงพัก กลับเดินทางมาได้แบบไร้ปัญหา ทั้งๆที่ประเทศไทยมีกฏหมายห้ามพกพาอาวุธปืนเดินทางไปไหนมาไหน แต่ตำรวจไม่ได้ตรวจสอบ เรื่องนี้ฝาก ผบ.ตร. และ นายกฯ สร้างสังคมปลอดภัยให้เกิดขึ้น

เบื้องต้น  นายสามารถ  ได้คุยกับผู้ปกครองนักเรียนที่เรียนที่เดียวกับน้องผู้ก่อเหตุวัย 14 ปี  พบว่าเป็นคนเรียนเก่งพื้นฐานครอบครัวดี  มีความพร้อม คุณพ่อเป็นอาจารย์ มหาลัยชื่อดังคุณแม่ก็สนิทกับภรรยานายตำรวจใหญ่    

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือน้องมีความคิดที่แปลกไปก่อเหตุทั้งที่รู้ตัวไม่ขัดขืนขณะจับกุม  ไม่มีอาการหลอนใดๆ    ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐต้องมีการตรวจสอบโรงเรียนเรื่องการเรียนการสอน   ซึ่งที่นั่นค่าเทอมเป็นหลักแสนต้องมีการเฝ้าระวังเรื่องการเสพสื่อ  และการเลียนแบบพฤติกรรมสื่อต่างประเทศหรือไม่  

จึงขอฝากทุกหน่วยงานทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  กระทรวงยุติธรรม ตำรวจ  แวดวงการศึกษา กระทรวงดีอี  ที่จำเป็นต้องบูรณาการด้วยการยกเคสนี้เป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก  ผมคิดว่าพฤติกรรมนี้น่าจะเลียนแบบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ  ดังนั้นกระทรวงดีอี ต้องมีเอไอ ตรวจสอบสื่อในโซเชียล ปิดกั้นการเข้าถึง เพื่อสร้างสื่อปลอดภัยในโซเชียลด้วยนะครับ

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...