“เกรียง กัลป์ตินันท์” สั่ง กรมป้องกันสาธารณภัย ใช้สะพานแบริ่ง ช่วยประชาชนบ้านอิม จ.แพร่ หลังถูกน้ำกัดเซาะจนหัก ใช้การไม่ได้ ด้าน “ศุภชัย นพขำ” ขอบคุณที่ให้โอกาสทำงาน ยันมุ่งพัฒนา ปภ.ทำงานเร็ว ตรงจุด
วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เมื่อเวลา 12.00 น. ที่บ้านอิม หมู่ 5 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และคณะ เดินทางไปพบปะให้กำลังใจพี่น้องประชาชนบ้านอิม พร้อมลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย กรณีสะพานห้วยแม่สวกถูกน้ำกัดเซาะจนหัก ไม่สามารถเดินทางสัญจรไปมาได้ โดย นายเกรียง กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมป้องกันสาธารณภัย นำสะพานแบริ่งมาติดตั้ง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สัญจรชั่วคราว พร้อมกำชับผู้ว่าราชการ หลังน้ำลดสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เตรียมงบประมาณซ่อมแซมสะพานให้มั่นคงแข็งแรง ให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ หากงบประมาณไม่เพียงพอ ให้ทำเรื่องเสนอมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยนายกฯ ห่วงใยประชาชน ฝากถึงพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องที่อาศัยอยู่ตามเชิงภูเขา ขอให้ระมัดระวังการเดินทางในช่วงนี้ ซึ่งสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่อง เกิดการสไลด์ของดิน อาจเกิดอันตราย ขอให้รับฟังการแจ้งเตือนจากส่วนราชการ และอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
...
“ศุภชัย” ยัน มุ่งพัฒนา ปภ.ทำงานเร็ว ตรงจุด
ด้าน นายศุภชัย นพขำ ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย (นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย) ให้สัมภาษณ์ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งว่า ต้องขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี และท่าน รมช.มหาดไทย ที่ไว้วางใจและมอบโอกาสในการทำงาน โดยตนจะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ ภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมายจะเป็นการประสานดูแลหน่วยงานที่อยู่ในกำกับของ รมช.มหาดไทย ขณะนี้ คือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) องค์การตลาด (อต.) องค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งจะร่วมขับเคลื่อนกลไกของแต่ละหน่วยงานในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เบื้องต้นจะเน้นไปที่การพัฒนา และปรับปรุงเกี่ยวกับการทำงานของ ปภ. ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในการป้องกันและบรรเทาภัยต่างๆ ที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของความรวดเร็ว ทั้งการประสานงาน และการเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยให้ทันต่อเหตุการณ์ แก้ปัญหาตรงจุด รวมไปถึงเพิ่มมิติการทำงานในแง่การป้องกัน และแจ้งเตือนภัยด้วย ในฐานะที่เคยเป็น สส.ปทุมธานี ทราบดีถึงปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะการเป็นพื้นที่รับน้ำก่อนเข้า กทม. ร่วมกับพระนครศรีอยุธยา และนนทบุรี ก็มีความตั้งใจว่า จะขับเคลื่อนการทำงานของหน่วยงานในกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะ ปภ. ในการเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีข้อติดขัดในเรื่องระเบียบข้อบังคับในการทำงานของหน่วยงานราชการ จนบางครั้งประชาชนไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือต่างๆ ได้ หรือล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น เมื่อตนเข้ามาตรงนี้แล้ว ก็จะทำหน้าที่ประสานงานให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น ประสานหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้การเข้าไปดูแลประชาชนให้ทันต่อเหตุการณ์
“ผมอยู่พื้นที่มานาน รู้ปัญหาประชาชนเป็นอย่างดี ตอนนี้เมื่อได้มาช่วย ท่านเกรียง ดูงาน ปภ. ก็จะเร่งการประสานงานให้หนัก เพื่อแก้ปัญหาประชาชนให้เต็มที่ เพราะ ปภ.มีหน้าที่สำคัญในการประสานหน่วยงานต่างๆ ปภ.ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะประเทศไทยเผชิญอุทกภัยมาตลอด จะผลักดันการทำงานให้เข้าถึงประชาชนให้ไวขึ้น ต่อไปปัญหาน้ำท่วม แม้จะไม่หมดไป แต่จะไม่ท่วมขัง สร้างปัญหาให้ประชาชนอย่างแน่นอน” นายศุภชัย กล่าว.
