“สุดารัตน์” แนะรัฐบาล ทำต่อจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอสู่สภาฯ ชี้ ตั้งคณะกรรมการศึกษาการทำประชามติ ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะทำให้เสียเงิน และยิ่งสร้างความขัดแย้ง
วันที่ 1 ตุลาคม 2566 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล โดยมองว่าไม่มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น และใช้เวลานานมาก ทั้งๆ ที่เมื่อตอนเป็นฝ่ายค้านต้องการแก้ไขตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป รวมถึงการแก้รายประเด็นเพื่อตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งทางพรรคไทยสร้างไทยได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ใจความสำคัญคือให้มีเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นผู้มาเขียนรัฐธรรมนูญ โดยไม่แก้หมวด 1 และ 2 เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง มุ่งแก้ไขในส่วนที่กระทบถึงประชาชนและขจัดการสืบทอดอำนาจ
“พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอร่างแก้ไขไปแล้ว ตรงนี้เราชัดเจน โดยวิธีการของเราคือไม่ต้องไปทำประชามติ ถามประชาชนก่อน เพราะไม่ใช่เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ประชาชนเสียโอกาสมาหลายปีแล้ว ครั้งนี้ถ้าร่วมมือกันก็จะแก้ไขได้เสร็จภายในปี 2567 ดร.โภคิน พลกุล ซึ่งถือว่าเป็นปรมาจารย์ด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ ท่านได้ร่างเอาไว้ สามารถทำได้ทันที”
ขณะเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ ยังแนะนำรัฐบาลด้วยว่า ถ้าจริงใจให้ใช้วิธีนี้ ไม่ต้องเสียเงินไปทำประชามติก่อน และไม่เกิดความขัดแย้ง เพราะไม่ได้แก้หมวด 1 และ 2 อีกทั้งอยากเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจ อย่าไปซื้อเวลาด้วยการตั้งคณะกรรมการ ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่จะทำให้เสียเงิน และยิ่งสร้างความขัดแย้ง
พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนภาคประชาชน รัฐบาล สมาชิกรัฐสภา ตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันสร้าง ส.ส.ร. ไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป เพื่อปากท้อง สิทธิเสรีภาพที่ดีกว่าของประชาชน และเพื่อสถาปนาประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง ซึ่งตามร่างของพรรคไทยสร้างไทย จะมีการทำประชามติเพียงครั้งเดียวที่รัฐธรรมนูญบังคับ และขอยืนยันว่าแล้วเสร็จภายในปี 2567 ถ้าเริ่มทำกันวันนี้.
...