"อัครเดช" สส.ราชบุรี พรรค รทสช. หนุน นำระบบบริหารงานบุคคลผู้พิพากษา-อัยการ มาใช้แต่งตั้งตำรวจ ลดวิ่งเต้นโยกย้าย ใช้เงินซื้อตำแหน่ง เชียร์ ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ ใช้เวลา 1 ปี พิสูจน์ผลงานและฝีมือ
วันที่ 28 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อภิปรายสนับสนุนญัตติด่วนเพื่อให้สภาพิจารณาปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ก่อนอื่นขอยินดีกับพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ที่ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุม ก.ตร.เลือกให้เป็นผบ.ตร.คนใหม่ ขอฝาก ผบ.ตร.คนใหม่ให้สืบสวนหาข้อเท็จจริง อย่างจริงจังเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศว่า จากนี้ไปตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การบุกค้นบ้าน รอง ผบ.ตร. ประชาชนอยากทราบข้อเท็จจริงว่า เกิดอะไรขึ้น ขอฝาก ผบ.ตร.คนใหม่ทำเหตุการณ์นี้ให้เป็นที่กระจ่าง
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ตนเห็นองค์กรตำรวจมีปัญหามายาวนานเมื่อสมัยประชุมที่แล้ว พ.ร.บ.ตำรวจฯ เพิ่งผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาไป เพื่อให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ใช้ พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ ในการบริหารงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเพื่อให้ทราบผลว่า กฎหมายตำรวจที่เพิ่มประกาศใช้ไปมีผลช่วยให้องค์กรตำรวจดีขึ้นหรือไม่อย่างไร แต่ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่ากฎหมายใหม่ทำให้องค์กรตำรวจดีขึ้นเพราะเพิ่มประกาศใช้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ตนเคยทำงานในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปิยะ ปิตุเตชะ เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เพิ่มสวัสดิการให้กับตำรวจทั่วประเทศ จึงทำโครงการ นายร้อย 53 คืออายุ 53 ไหลเลื่อนเป็นร.ต.ต. และ ร.ต.ท.ได้ เมื่อก่อนจะติดดาวเป็น ร.ต.ต.ได้ต้องเกษียณอายุราชการถึงจะได้ยศ ร.ต.ต. แต่รัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ได้ริเริ่มโครงการ มาสำเร็จในสมัยต้นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การเพิ่มสวัสดิการก็เพื่อต้องการให้องค์กรตำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่การเพิ่มสวัสดิการอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ
...
"ที่ผ่านมาเรายังเห็นข่าวไม่ดีของตำรวจออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าตำรวจทำผิดกฎหมาย เรามีตำรวจหลายด้าน ตำรวจท้องที่รับเงินผิดกฎหมายจากผู้ประกอบการ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหารายได้ที่ผิดกฎหมายจากคนต่างด้าว ทำไมหลายคนถึงอยากย้ายไปอยู่ ตม. ตำรวจไซเบอร์หน่วยงานใหม่ หลายคนอยากเข้าไปอยู่ ขณะนี้ก็เป็นปัญหา ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด การที่ตำรวจต้องไปหากินกับสิ่งผิดกฎหมายเพราะต้องการเอาเงินมาซื้อขายตำแหน่ง ต้องการให้ตัวเองเติบโตในหน้าที่การงานก็ไปทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตำรวจด้านไหนก็หากินด้านนั้น ถ้าเราจะสามารถทำให้วงจรอุบาทว์นี้หายไป ต้องทำการปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง แต่เสียดายที่ พ.ร.บ.ตำรวจฯ ที่ผ่านจากรัฐสภาไปไม่ได้เป็นการปฏิรูปหรือผ่านโครงสร้างตำรวจอย่างจริงจัง" นายอัครเดช กล่าว...
นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า ระบบของผู้พิพากษาและอัยการ จะไม่มีแซงคิวกัน ไม่เหมือนตำรวจจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นเดียวกัน เพื่อนเป็น พล.ต.อ. แต่บางคนยังเป็น พ.ต.ท. เป็นความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ เป็นไปได้ไหม ถ้าเราจะเอาการบริหารงานแบบผู้พิพากษาแบบอัยการมาใช้กับตำรวจดูสักครั้ง ถ้า พ.ร.บ.ตำรวจฯ ที่เพิ่งประกาศใช้ไปไม่สามารถปฏิรูปตำรวจได้จริงตามที่คณะกรรมการปฏิรูปทำมา ผบ.ตร.คนใหม่ ไม่สามารถทำให้เป็นรูปธรรมได้จริง ตนคิดว่าต้องผ่าโครงสร้างตำรวจใหม่เอารูปแบบของผู้พิพากษาหรืออัยการมาใช้
"หลายคนบอกว่าไม่สามารถเอามาใช้ได้ เพราะตำรวจมีหน้าที่หลายอย่าง แต่ถ้าเราลองทำดู เอางานสอบสวนมาทำดู งานจราจร งานปราบปรามก็บริหารอีกแบบหนึ่ง เพื่อให้โครงสร้างตำรวจดีขึ้นเป็นที่พึ่งของประชาชนหลายคนบอกว่า ผบ.ตร.ท่านใหม่มีข้อท้วงติง ผมเห็นว่าไม่ว่าจะพิจารณาคนที่มีอาวุโส เราคงได้คนไม่สมบูรณ์ หรือจะพิจารณาผลงานอย่างเดียวไม่เอาอาวุโส คงไม่ได้คนที่เหมาะสม แต่สิ่งที่จะชี้วัดว่า ผบ.ตร.คนใหม่มีความเหมาะสมหรือไม่ ผลงานจะเป็นตัวชี้วัดใน 1 ปีที่มีเวลาทำงาน จึงต้องรอผลงานของ ผบ.ตร.คนใหม่" นายอัครเดช กล่าว