แบงก์ชาติชี้ เศรษฐกิจไทยไตรมาส4 ฟื้นต่อ ‘ท่องเที่ยว-ส่งออก‘หนุน

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์และโฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า หากดูภาพเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า มองว่า เศรษฐกิจน่าจะทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4 ปีนี้

แรงส่งสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยว และภาคการบริโภค ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง และยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อภาพเศรษฐกิจไทย

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามต่อเนื่องในไตรมาส 4 ปี 2567 ว่าการส่งออก การผลิต จะฟื้นตัวมากน้อยเพียงใด รวมถึงยังต้องติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่อาจมีผลต่อปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ในระยะข้างหน้าว่าเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด

แจกเงินดิจิทัลทยอยส่งผลบวก‘เศรษฐกิจ’

สำหรับนโยบายการแจกเงิน 10,000 บาทที่เริ่มแจกไปแล้วกลุ่มแรก สำหรับกลุ่มเปราะบาง ส่วนนี้เริ่มเห็นผลบวกทางเศรษฐกิจอยู่บ้าง ที่ผ่านเข้ามาในส่วนของค่าใช้จ่ายด้านอุปโภคบริโภค ของใช้ในบ้านต่างๆ เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มากนักเนื่องจากผลจริงๆ ต้องติดตามต่อเนื่องในช่วงเดือนต.ค.

ทั้งนี้ สำหรับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา จีดีพี หรือ การขยายตัวเศรษฐกิจ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี และยังเป็นไปตามที่ธปท.ประเมินไว้ ใกล้เคียงที่ระดับ 3%

“เศรษฐกิจไทยที่ออกมาในไตรมาส 3 ถือว่าหลายตัวยังเป็นไปตามคาด ส่วนผลกระทบน้ำท่วม ที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย ผลอาจจะไม่เยอะมาก แต่อาจมีเรื่องของความเสียหาย หรือการซ่อมสร้างที่เกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มที่รับผลกระทบหนักจริงๆ ดังนั้น คาดว่าจะเห็นผลกระทบชัดเจนจากการแถลงรายเดือนภาคเหนือในวันที่ 4 พ.ย. นี้”

 ส่วนภาพเศรษฐกิจไทยในเดือนก.ย. ที่ผ่านมา โดยรวมชะลอตัวลง จากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากหลายเครื่องชี้วัดปรับตัวลดลง ซึ่งผลมาจากการเร่งตัวของหลายเครื่องยนต์ที่เร่งไปแล้วช่วงเดือนก่อนหน้า จากปัจจัยชั่วคราว

โดยหากดูการบริโภคเอกชนในเดือนก.ย. ปรับลดลง 0.6% เทียบเดือนก่อนหน้าจากทุกหมวดสินค้า โดยสินค้าคงทนตามยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ปรับลดลง ส่วนหนึ่งมาจากความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ และการชะลอการตัดสินใจของผู้ซื้อเพื่อรอดูราคา ขณะที่การบริโภคเอกชนในไตรมาสที่ 3 ลดลง 0.4% สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลงจากความกังวลเรื่องของน้ำท่วม และค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง

 ขณะที่ การส่งออกเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ปรับลดลง 3.3% หลังจากการเร่งตัวไปก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มยานยนต์จากการส่งออกไปในตลาดอาเซียนและออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง ส่วนเกษตรและเกษตรแปรรูปที่เร่งก่อนหน้าจากอุปทานของคู่ค้า ส่วนสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องประดับ อัญมณี ที่ปรับเพิ่มตามการจัดแสดงสินค้า หากดูการส่งออกในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้น 6.1% ซึ่งเป็นผลจากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

 ขณะที่ ภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรม เดือนก.ย. ปรับลดลง -1.4% จากยอดการผลิตรถยนต์ที่ปรับลดลง อาหารและเครื่องดื่ม อาหารสัตว์ และเคมีภัณฑ์ตามการผลิตยา ส่วนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ปิโตรเลียม เป็นการเพิ่มขึ้นตามสินค้าคงคลัง ส่วนภาพรวมไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ -0.5% ตามการผลิตยานยนต์และเครื่องปรับอากาศที่ปรับลดลง

ส่วนนักท่องเที่ยวเดือนก.ย. ปรับลดลง 3.2% จากเดือนก่อนหน้า ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 2.9 ล้านคน มาเหลือ 2.8 ล้านคน โดยเป็นการปรับลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เร่งไปก่อนหน้า และคาดว่าจะกลับเข้าสู่ระดับปกติ และ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ตามวันหยุดยาวที่หมดลง ขณะที่นักท่องเที่ยวสัญญาติที่ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ มาเลเซีย เกาหลี และ สปป.ลาว

นักท่องเที่ยวสะสม 28.4 ล้านคน

หากดูจำนวนท่องเที่ยวสะสม จนถึงปัจจุบัน พบว่าโดยรวมอยู่ที่ 28.4 ล้านคน ขณะที่รายรับจากนักท่องเที่ยวปรับเพิ่มขึ้น 4.4% ส่วนนักท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ปรับลดลง 6% มาจากการลดลงของนักท่องเที่ยว สอดคล้องกับรายรับจากนักท่องเที่ยวปรับลดลง 2% ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับลดลง

โดยการลงทุนภาคเอกชนทรงตัวอยู่ที่ 0.1% จากเดือนก่อนหน้า หลักๆ มาจากการนำเข้าสินค้าทุน เช่น เครื่องมือสื่อสาร เครื่องจักร และอุปกรณ์ ด้านการลงทุนก่อสร้างปรับลดลงตามพื้นที่อยู่อาศัยที่ลดลง ขณะที่ การลงทุนภาคเอกชนไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้น 3.3% มาจากเครื่องจักรและอุปกรณ์ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านการลงทุนปรับเพิ่มขึ้น

ด้านตลาดแรงงานการใช้จ่ายภาครัฐปรับเพิ่มขึ้น 6.7% โดยรายจ่ายประจำลงทุนปรับเพิ่มขึ้น 401% ตามการเบิกจ่ายค่าบำเหน็จ บำนาญ และข้าราชการ ส่วนรายจ่ายรัฐวิสาหกิจหดตัว 27.8% ตามการเบิกจ่ายภาคการขนส่ง ขณะที่ด้านตลาดแรงงานทรงตัว โดยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในภาคการผลิตและบริการยังเพิ่มขึ้น ขณะที่สัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงาน ม.38 รายใหม่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นประเด็นที่ ธปท. ยังต้องติดตามใกล้ชิด

สำหรับ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.ย. 2567 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.61% จากเดือนก่อนอยู่ที่ 0.35% ซึ่งมาจาก 3 หมวดหลัก ได้แก่ พลังงานที่ติดลบน้อยลง และมาจากฐานที่ต่ำในปีก่อนจากมาตรการอุดหนุนของภาครัฐ อาหารสดปรับเพิ่มขึ้นจากราคาผัก จากปัญหาน้ำท่วม และฐานที่ต่ำ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.77% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ 0.62% ตามการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการ ส่วนเงินเฟ้อในไตรมาส 3 ลดลงมาอยู่ที่ 0.60% จาก 0.78% ตามราคาที่สูงไปก่อนหน้า

ด้านค่าเงินบาท ในเดือนก.ย. ถือว่าแข็งค่าขึ้น จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีการผ่อนคลาย ก่อนจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าคาด ประกอบกับเงินบาทถูกแรงกดดันจากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ค่าเงินปรับแข็งค่าขึ้นนำภูมิภาค และหากดูดัชนีเมื่อเทียบคู่ค้าคู่แข่ง (NEER) ใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า และมีแนวโน้มอ่อนค่าบ้าง เนื่องจากมีความไม่แน่นอนของปัจจัยการเลือกตั้งของสหรัฐ

ขณะที่ ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนกันยายนอยู่ที่ 0.6 พันล้านดอลลาร์ ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ไตรมาสที่ 3 ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอยู่ที่ 2.0 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ที่อยู่ 0.8 พันล้านดอลลาร์ เป็นผลมาจากรายรับจากนักท่องเที่ยวปรับลดลง

4 พ.ย.เลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ

สำหรับ ความคืบหน้าการประชุมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (บอร์ดแบงก์ชาติ) จะมีการกำหนดการประชุมวันที่ 4 พ.ย.นี้ ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ ว่า จะได้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดทันทีหรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการรอตรวจสอบและการคัดเลือกของคณะกรรมการคัดเลือก

ส่วนบทบาทของประธานบอร์ดนั้น มีทั้งที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการดำเนินงานทั่วไปของธปท. รวมถึงการดูด้านงบประมาณ การพิจารณาด้านบุคคลต่างๆ รวมถึงมีส่วนที่ต้องพิจารณาการบริหารจัดการเงินสำรองระหว่างประเทศต่างๆด้วย

“ในแง่ของกระแสข่าวการคัดค้านที่ออกมานั้น เป็นการส่งผ่านความกังวลที่มีต่อคณะกรรรมการการคัดเลือก ซึ่งเรายังไม่เห็นผลของการคัดเลือก แต่หากดูโครงสร้างบริหารจะเห็นว่ามีการ Check & Balance อยู่ระดับหนึ่งอยู่แล้ว ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกด้วย“

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

“เลขที่ออก…270”

เรื่องที่อยู่ในกระแสตอนนี้ก็คือ ทรัมป์ กับ แฮร์ริส กำลังเข้าโค้งสุดท้าย และคะแนนนิยมสูสีกันมากโพลชี้...

อสังหาฯ ทรุดลามซัพพลายเชน เอกชนเสนอทางรอด จี้ธปท.ปลดล็อกแอลทีวี

หวังสัญญาณบวกหลัง “คลัง” จ่อเข็นมาตรการกระตุ้นใหม่ จัดสินเชื่อ ซื้อ แต่ง ซ่อมบ้าน วงเงิน 5.5 หมื่นล้...

กลุ่มปิโตรเคมี ‘กำไร’ ยังไม่ฟื้น โบรกชี้ ‘เศรษฐกิจจีน-โลก’ เสี่ยงสูง-แบกต้นทุนพุ่ง

จากผลกระทบ “เศรษฐกิจโลก” บวกกับ “เศรษฐกิจจีน” ฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า ส่งผลให้สถานการณ์ “ธุรกิจปิโตรเค...

ดีลแห่งปี TRUE | ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ ดีลแห่งปี TRUE รางวัลที่กลายเป็นที่พูดถึงในเวที SET Awards 2024 ที่พึ่งผ่านไปคงต้องยกให้กับรางวั...