Everyday AI IS NOW

แต่ในขณะเดียวกันก็อาจพรากงานไปจากบางกลุ่มที่ตกขบวนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ และทวีความเหลื่อมล้ำทางรายได้ให้รุนแรงยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน การใช้งาน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในสังคมไทย จากผลการวิจัยล่าสุดพบว่า คนไทยมากกว่า 35% มีแนวโน้มที่จะใช้ AI ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน นั่นหมายความว่า AI กำลังเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร ดูแลสุขภาพ หรือแม้แต่การทำงานที่ออฟฟิศ

AI ส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน

AI สามารถเป็นได้เกือบทุกอย่าง สมาร์ตโฟนของเราที่ใช้อยู่ ก็ AI เช่นเดียวกับบริการต่างๆ เช่น ผู้ช่วยดิจิทัล แชตบอท เว็บไซต์โซเชียลมีเดีย และอื่นๆ อีกมากมาย เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจำนวนมากยังใช้ AI เช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หรือระบบรักษาความปลอดภัย และแน่นอนว่ายังมีตัวอย่างคลาสสิกของการนำทางอัตโนมัติและหุ่นยนต์อีกด้วย

10 ตัวอย่างของเทคโนโลยี AI ที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันแบบไม่รู้ตัว

1.การปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ด้วย Face ID Face ID ถือเป็นการใช้เทคโนโลยี AI ในรูปแบบหนึ่ง ซึ่ง Face ID สามารถมองเห็นได้ในรูปแบบ 3 มิติ โดยจะเก็บรายละเอียดบนในหน้าถึง 30,000 จุด และใช้อัลกอริทึ่มของ Machine Learning ในการเปรียบเทียบใบหน้าที่กำลังสแกนกับรูปที่เก็บเอาไว้ เพื่อตัดสินว่าคนที่กำลังจะปลดล็อกหน้าจอใช้คุณหรือไม่ โดยโอกาสที่จะหลอก Face ID ได้ คือหนึ่งในล้าน

2.โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter และอื่นๆ เทคโนโลยี AI อยู่เบื้องหลังในการเลือกโพสต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณสนใจขึ้นมาโชว์ โดยดูจากความสนใจ และการมีปฏิสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดียในอดีต แล้ว AI dH0t แนะนำเพื่อนที่คุณอาจรู้จัก กรองข่าวปลอม รวมถึง Machine Learning ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้งคุกคามผ่านโลกไซเบอร์ (Cyberbullying) ได้อีกด้วย

3.การส่งอีเมล์ หรือข้อความต่างๆ การช่วยตรวจสอบความถูกต้องของคำและไวยากรณ์บนอีเมล์ หรือ Gmail มีการแนะนำคำ และไวยากรณ์ที่ถูกต้องให้ผู้ใช้งาน ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ได้นำเทคโนโลยี AI และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) มาใช้งาน หรือในการรับอีเมล์ ฟิลเตอร์สแปมใช้เทคโนโลยี AI ในการที่บล็อกอีเมล์ที่อาจจะเป็นอีเมล์สแปม หรือระบุว่าอีเมล์ที่ผู้รับจะได้รับจะอยู่ในหัวข้อไหนในอินบ็อกซ์ของผู้รับ รวมถึงโปรแกรมแอนตี้ไวรัสยังได้นำเทคโนโลยี Machine Learning มาช่วยในการป้องกันความปลอดภัยให้กับอีเมล์ของคุณอีกด้วย 

4.การสั่งงานด้วยเสียง ตั้งแต่การสอบถามเส้นทางไปร้านอาหารโปรด จนถึงการสอบถามพยากรณ์อากาศประจำวัน ผู้ช่วยในการสั่งงานด้วยเสียงกลายเป็นสิ่งที่หลายๆ คนขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างผู้ช่วยในการสั่งงานด้วยเสียง ได้แก่ Siri, Alexa, Google home จนถึง Cortana เครื่องมือเหล่านี้ใช้ระบบการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) โดยเทคโนโลยี AI จะประมวลผล และตอบคำถามให้กับผู้ใช้งาน

5.การเดินทางไปทำงาน เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการเดินทางมากกว่าการบอกเส้นทาง Google maps และแอปการเดินทางอื่นๆ ใช้ AI ในการติดตามการจราจร เพื่อแจ้งข้อมูลการจราจร และสภาพอากาศได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงแนะนำเส้นทางที่สามารถเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นได้

6.ธุรกรรมทางการเงิน  ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน และป้องกันการทุจริต ระบบ AI ที่อยู่เบื้องหลังกิจกรรมเหล่านี้ ได้แก่ การฝากเช็คด้วยการสแกนด้วยมือถือ ระบบแจ้งเตือนเมื่อยอดเงินคงเหลือต่ำ หรือแม้กระทั่งการล็อกอินเข้าไปใช้ระบบโมบายแบงกิ้ง ถ้าคุณเข้าไปซื้อกางเกงที่ร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง ระบบ AI จะวิเคราะห์ว่าธุรกรรมนี้เป็นธุรกรรมที่คุณใช้เป็นปกติหรือไม่ เพื่อที่จะพิสูจน์ว่ามีบุคคลที่ไม่พึงประสงค์นำบัตรเครดิตของคุณไปใช้หรือไม่

7.สัญญาณจราจรอัตโนมัติ  สัญญาณจราจรอัตโนมัติก็เป็นอีกประโยชน์ของการ AI ในชีวิตประจำวัน (จราจรเมืองไทยก็มีนะ แต่ไม่ค่อยยอมใช้กัน ไม่รู้ทำไม) เนื่องจากข้อมูลการจราจรมีความแปรผันสูงในเวลาอันสั้น หรือแต่ละช่วงเวลาที่มีสภาพการจราจรไม่เหมือนกัน ต้องการการจัดการที่ดีเพื่อลดปัญหารถติด การประยุกต์ใช้ AI กับสัญญาณจราจรอัตโนมัติจะช่วยประเมินสภาพการจราจรและจัดการปรับสัญญาณไฟให้สอดคล้องกับความต้องการของการจราจร ณ ขณะนั้น

8.ระบบสมาร์ตโฮม ช่วยให้บ้านเป็นที่ผ่อนคลายมากที่สุด มีการประยุกต์ใช้ AI เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในบ้านและปรับให้เหมาะสม หรือการใช้ตู้เย็นในระบบสมาร์ตโฮมตรวจสิ่งของที่ใช้บ่อย สิ่งของที่ผู้ใช้งานต้องการ หรือของที่หมดไปแล้วไม่ได้เติม ไปจนถึงการวิเคราะห์เมนูที่เหมาะต่ออาหารในตู้เย็นของผู้ใช้งานได้อีกด้วย

9.ระบบค้นหาหรือสอบถามข้อมูล ระบบค้นหาข้อมูลคือการประยุกต์ใช้ AI ที่เข้าใจง่ายและซับซ้อนน้อยที่สุด การค้นหาข้อมูล เช่นการค้นหาด้วย Google หรือระบบสอบถามข้อมูลอย่าง ChatGPT ก็เป็นการใช้ระบบช่วยค้นหาคำตอบที่ต้องการจากการประมวลผลฐานข้อมูลมหาศาลมาให้แก่ผู้ใช้งาน และยังได้รับการนำเสนอในสิ่งที่อาจสนใจหรือตรงกับความต้องการมากที่สุดจากฐานข้อมูลการค้นหาของผู้ใช้งานรายบุคคลอีกด้วย

10.เครื่องมือแปลภาษา  เครื่องมือแปลภาษา ทำการประยุกต์ใช้ AI จากการที่สามารถให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ภาษาของมนุษย์ได้มากช่วยให้การสื่อสารของมนุษย์ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อต้องการแปลภาษาจึงสามารถใช้ความช่วยเหลือจาก AI ที่มีฐานข้อมูลภาษาของมนุษย์ได้

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

“เลขที่ออก…270”

เรื่องที่อยู่ในกระแสตอนนี้ก็คือ ทรัมป์ กับ แฮร์ริส กำลังเข้าโค้งสุดท้าย และคะแนนนิยมสูสีกันมากโพลชี้...

อสังหาฯ ทรุดลามซัพพลายเชน เอกชนเสนอทางรอด จี้ธปท.ปลดล็อกแอลทีวี

หวังสัญญาณบวกหลัง “คลัง” จ่อเข็นมาตรการกระตุ้นใหม่ จัดสินเชื่อ ซื้อ แต่ง ซ่อมบ้าน วงเงิน 5.5 หมื่นล้...

กลุ่มปิโตรเคมี ‘กำไร’ ยังไม่ฟื้น โบรกชี้ ‘เศรษฐกิจจีน-โลก’ เสี่ยงสูง-แบกต้นทุนพุ่ง

จากผลกระทบ “เศรษฐกิจโลก” บวกกับ “เศรษฐกิจจีน” ฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า ส่งผลให้สถานการณ์ “ธุรกิจปิโตรเค...

ดีลแห่งปี TRUE | ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ ดีลแห่งปี TRUE รางวัลที่กลายเป็นที่พูดถึงในเวที SET Awards 2024 ที่พึ่งผ่านไปคงต้องยกให้กับรางวั...