“นายกฯ อิ๊งค์” ลาป่วย 1 วัน หลอดลมอักเสบ พรุ่งนี้ลงพื้นที่ตรวจราชการร้อยเอ็ด

“นายกฯ แพทองธาร” ส่งหนังสือลาป่วย หลอดลมอักเสบ-เสียงแหบ แพทย์ให้พัก 1 วัน ส่วนพรุ่งนี้ยังลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ร้อยเอ็ด ติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด

วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังเมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา เดินทางไปพบแพทย์และให้น้ำเกลือเนื่องจากมีสีหน้าร่วงโรย รวมถึงมีอาการเสียงแหบและเจ็บคอ โดยวันนี้นายกรัฐมนตรียกเลิกภารกิจงานทั้งหมด และส่งหนังสือลาป่วย 1 วัน ไปที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จากการไปพบแพทย์ตรวจพบว่ามีเชื้อแบคทีเรียในลำคอ จึงทำให้หลอดลมอักเสบและเสียงแหบ โดยตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 และเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A หรือสายพันธุ์ B ซึ่งแพทย์ให้พัก 1 วัน

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้รีโพสต์ไอจีสตอรี่ของ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ผู้เป็นพี่สาว โดยโพสต์รูปนายกรัฐมนตรีขณะนั่งให้น้ำเกลือ โดยเขียนข้อความว่า “พักๆๆๆ นอนๆๆๆ บอกตัวเอง อีกเยอะเลยเดือน Nov!” พร้อมอิโมจิรูปหัวเราะทั้งน้ำตา

...

สำหรับภารกิจการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ร้อยเอ็ด ของนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นายกรัฐมนตรีจะยังคงลงพื้นที่ตามกำหนดการเดิม โดยเวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กทม.ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ต.หนองพอก อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด จากนั้นเป็นประธานการประชุมสั่งการโมเดลการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด และกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องทั่วประเทศ ที่วัดบ้านเขวาทุ่ง ต.เขวาทุ่ง อ.ธวัชบุรี ก่อนลงพื้นที่ติดตามกระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของโครงการมินิธัญญารักษ์ ที่ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ต.โพธิ์สัย อ.ศรีสมเด็จ ส่วนช่วงบ่ายจะตรวจติดตามการฝึกอาชีพและแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เข้ารับการบำบัด ที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติด (อบต.น้ำใส) ต.น้ำใส อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด และเดินทางกลับ กทม.

ทางด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ร้อยเอ็ด ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติเป็น 1 ใน 10 นโยบายเร่งด่วน ยังได้มีการยกโมเดลการแก้ไขที่ จ.น่าน และ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อไปเป็นต้นแบบการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนด้วย

ทั้งนี้ จากการติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายระยะแรกเมื่อเดือนมิถุนายน - 31 สิงหาคม 2567 ในพื้นที่ 25 จังหวัด ที่ผ่านมามีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งมีผลการจับกุมผู้ผลิตรายใหญ่และรายเล็กจากทุกส่วนราชการ ทำให้ประชาชนมีความปลอดภัย และมั่นใจในสังคมที่ดีมากขึ้น โดย 25 พื้นที่ดังกล่าวประกอบด้วย กทม., ภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.นครสวรรค์, ภาคกลาง จ.สมุทรปราการ จ.ชลบุรี และ จ.กาญจนบุรี, ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา จ.กาฬสินธุ์ จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.หนองคาย จ.มุกดาหาร จ.สกลนคร จ.หนองบัวลำภู จ.เลย จ.บึงกาฬ และ จ.ขอนแก่น, ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.สงขลา และ จ.สตูล

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ผลการเลือกตั้งสหรัฐจะนำไปสู่การสร้างสันติภาพโลก?

การเลือกตั้งผู้นำสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพ หรือสงครามจะยิ่งข...

เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล รอบนี้ไม่ธรรมดา l World in Brief

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยไกลลงทะเลญี่ปุ่น คณะเสนาธิการร่วมแถลง ขีปนาวุธเกาหลีเหนือถูกยิงในมุมสูงจา...

‘เทมู’ จ่อถูก ‘ยุโรป’ สอบเข้ม กรณีขายสินค้าผิดกฎหมาย

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมสอบสวน “เทมู” (Temu) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์...

กรณีศึกษา ค่าธรรมเนียมรถติด ทำนาบนหลังชนชั้นกลาง? | กันต์ เอี่ยมอินทรา

กลายเป็นดงกระสุนตกทันทีเมื่อรัฐบาลออกไอเดีย เก็บค่าธรรมเนียมรถติด การออกมาโยนหินถามทางในกรณีค่าธรรมเ...