ควบรวม ‘ทรู-ดีแทค’ คว้ารางวัลดีล ออฟ เดอะ เยียร์ ย้ำภารกิจเพื่อประโยชน์คนไทย

การควบรวมกิจการระหว่างทรู คอร์ปอเรชั่นเดิม และ โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 นับเป็นการควบรวมกิจการโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อพิจารณาจากมูลค่าการควบรวม (Combined enterprise value)และเป็นการควบรวมกิจการที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ระหว่างบริษัทจดทะเบียนไทยสองบริษัทเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาดรวม (Combined market capitalization) บริษัทใหม่ได้ยกระดับการเชื่อมต่อและนวัตกรรมดิจิทัลทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทยในวงการเทคโนโลยีระดับโลก

ดีลครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดจากวิสัยทัศน์ร่วมกันของเครือซีพีและกลุ่มเทเลนอร์ ในการสร้างบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำในไทยที่สามารถรับมือกับความท้าทายในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เครือซีพี ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่นเดิม และกลุ่มเทเลนอร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น สร้างความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกัน โดยถือหุ้นกันที่ร้อยละ 30.3 ในบริษัทใหม่

นาย มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า รางวัล 'Deal of the Year Awards' จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการเปลี่ยนแปลงของทรู คอร์ปอเรชั่นสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถในการลงทุนโครงข่ายใหม่ และสนับสนุนการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศไทย ดีลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมในด้านต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์ อุปกรณ์อัจฉริยะ และเมืองอัจฉริยะ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของนโยบายประเทศไทย 4.0 ในการส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย

การผนึกกำลังทางธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์

รางวัล “Deal of the Year Awards" เป็นหนึ่งในรางวัลแห่งคุณค่าสูงสุดที่มอบโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) เพื่อเชิดชูธุรกรรมที่โดดเด่นและสร้างผลประโยชน์สร้างสรรค์ต่อตลาดทุน รางวัลนี้ยกย่องดีลที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรม วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และการสร้างมูลค่าที่มีนัยสำคัญ

นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า "การได้รับรางวัล ‘ดีลแห่งปี หรือ Deal of the Year Awards’ จาก SET ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่งของกลุ่มเทเลนอร์และเครือซีพีในการสร้างผู้นำด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีที่สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย ดีลนี้เผชิญความท้าทายที่สำคัญหลายประการ รวมถึงการเจรจาที่อยู่ในช่วงผลกระทบของโควิด-19 สูงสุด เราได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจ (Clean teams) ภายใต้มาตรการพิเศษจากทั้งสองบริษัท ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าสามารถรักษาความลับของข้อมูลที่มีผลกระทบต่อมูลค่าราคาในตลาด และทั้งสองบริษัทยังคงแข่งขันกันได้ระหว่างการทำธุรกรรม การก้าวสู่ความท้าทายเหล่านี้ได้สำเร็จสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของทีมผู้นำและทีมการเงินของทั้งสองฝ่าย"

การควบรวมกิจการของ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ได้ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ข้อมูลสำคัญได้ถูกเปิดเผยให้แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน หน่วยงานกำกับดูแล เจ้าหนี้ และคู่ค้า เพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมข้อมูลครบถ้วน การยึดมั่นในหลักการความโปร่งใสนี้ ได้สร้างความเชื่อมั่นต่อทิศทางกลยุทธ์ของทรู คอร์ปอเรชั่นใหม่ สะท้อนผ่านรางวัล 'ดีลแห่งปี' จากตลาดหลักทรัพย์ฯ

มุ่งขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย

บริษัทใหม่คาดว่าจะสร้างผลประโยชน์ที่ได้จากการควบรวมกิจการ หรือ “Synergies” มูลค่า 2.5 แสนล้านบาท ใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีและไอที การรวมองค์กรและการดำเนินงาน การจัดซื้อในระดับใหญ่ และผลประโยชน์ร่วมด้านรายได้ โดย Synergies นี้จะขับเคลื่อนการดำเนินงานที่มีกำไร ปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัท

นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การควบรวมกิจการได้สร้างประโยชน์อย่างมากต่อผู้ใช้งานมือถือและประเทศ การควบรวมทำให้ทรู คอร์ปอเรชั่นสามารถเร่งพัฒนาความครอบคลุมของบริการ 5G เพิ่มคุณภาพโครงข่าย ความน่าเชื่อถือ และความเร็ว มอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า การผนึกจุดแข็งที่รวมกันของทรู และดีแทคสร้างสรรค์ให้เกิดผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิพิเศษที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสแก่ลูกค้าของเรา ทั้งนี้ นับเป็นการยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ในการสร้างโอกาสใหม่ทั้งด้านธุรกิจและการสร้างงาน มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีแห่งภูมิภาค 

ราคาหุ้นของทรู คอร์ปอเรชั่น (ชื่อย่อหลักทรัพย์: TRUE) หลังจากกลับมาจดทะเบียนซื้อขายใหม่เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 130 เมื่อเทียบกับต้นปี แสดงให้เห็นถึงการควบรวมได้ดึงดูดการลงทุนและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ทรูได้รับการปรับอันดับเครดิต (Credit rating) ที่ปรับตัวดีขึ้น และเพิ่มฐานนักลงทุนหุ้นกู้ที่กว้างขึ้นซึ่งมีส่วนช่วยในการเติบโตและเสถียรภาพของตลาดการเงิน นอกจากนี้ การควบรวมยังสร้างโอกาสในการจ้างงานและสนับสนุนผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ในประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

สื่อเผยจีนอัดงบกว่า 10 ล้านล้านหยวน มาจริงสัปดาห์หน้าพร้อมเลือกตั้งสหรัฐ

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าววงใน 2 รายที่เกี่ยวข้องว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาอนุมัติวงเงินกร...

สภาทองคำโลก เผย ดีมานด์ ทองคำโลก ทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในไตรมาส 3

สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลก (ทองคำโลก) ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่...

'ข้าวหมูเด้ง' ชวนซื้อข้าว ช่วยชาวนาประสบภัยน้ำท่วมกว่า 300 ครัวเรือน

อุตสาหกรรมข้าวไทยในช่วงปี 2023-2024 เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน แต่ยังคงแสดงถึงความสำคัญทางเศรษฐก...

ถึงว่าเดือดดาลขั้นสุด เผยเม็ดเงินก้อนโตที่ "วินิซิอุส" อดได้ หลังชวดคว้า "บัลลงดอร์ 2024"

ถึงว่าเดือดดาลขั้นสุด เผยเม็ดเงินก้อนโตที่ "วินิซิอุส จูเนียร์" แข้งเลือดแซมบ้าของ "เรอัล มาดริด" อด...