“จิราพร” รับถอนใบอนุญาตดิไอคอนอาจไม่ทันสัปดาห์นี้ ยัน ไม่กลั่นแกล้งใคร

ถอนใบอนุญาต “ดิไอคอนกรุ๊ป” อาจไม่ทันสัปดาห์นี้ “จิราพร” ชี้ ต้องรอบคอบ ไม่มีธงกลั่นแกล้งใคร ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ยัน คกก. เรียกสอบได้หมดไม่เว้นนักการเมือง

เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2567 น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้สัมภาษณ์ที่ลานพระราชวังดุสิต ถึงความคืบหน้าคดีดิไอคอนกรุ๊ป จะเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้อย่างไร ว่า เข้าใจว่าปัญหานี้สะสมมาหลายปี แต่เพิ่งจะปะทุกันในช่วงนี้ ทำให้พี่น้องประชาชนตั้งคำถามถึงการทำงานของ สคบ. โดยขอแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ ตั้งแต่มีการร้องเรียนมายัง สคบ. ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งทาง สคบ. ก็ได้ตรวจย้อนกลับไปและไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการส่งหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะ สคบ. มีข้อจำกัดในทางกฎหมายของการตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบันก็มีหน่วยงานที่ตอบกลับมาบางหน่วยงาน ถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่จะดูแค่ สคบ. ไม่ได้แล้ว ต้องมีวิธีการทำงานร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการบูรณาการแก้ปัญหา รวมถึงการป้องกันในระยะยาว และอีกมิติหนึ่งที่ต้องเรียกความเชื่อมั่นคืน คือเรื่องคลิปเสียงที่ปรากฏในสื่อ

น.ส.จิราพร กล่าวต่อไปว่า อย่างแรกที่อยากให้ประชาชนมั่นใจ ทางรัฐบาล ตน และ นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เอาจริงในการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง จึงเป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการคนนอก ไม่ใช่คนใน สคบ. มาตรวจกันเอง แต่มีทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมถึงสำนักงานอัยการ มาร่วมตรวจสอบ ซึ่งแต่ละคนเป็นผู้คร่ำหวอดเรื่องการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง อีกทั้งประธานคณะกรรมการก็เป็นผู้ที่มากประสบการณ์ในการทำคดีใหญ่หลายคดี เป็นคนตรงไปตรงมา

...

เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ตนคิดว่าไม่มีอะไรที่ต้องลำบากใจ ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลในเรื่องความมุ่งมั่นถึงความตั้งใจที่อยากทำให้เรื่องนี้คลี่คลาย และหลังจากมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องการหาแนวทางป้องกันระยะยาว เราไม่ได้ดูเพียงข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่ได้หามาตรการวิธีการในเชิงนโยบาย แนะนำให้ สคบ. ได้ไปดำเนินการต่อ ดังนั้น กฎหมายต่างๆ ที่ สคบ. ถืออยู่ ที่ล้าหลังหรือล้าสมัยไม่ตอบโจทย์ คณะกรรมการนี้จะได้ช่วยแนะนำและแก้ปัญหาด้วย รวมไปถึงจะต้องมีการรื้อการทำงานครั้งใหญ่ นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้นเพื่อให้องค์กรโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งคนที่ตั้งใจทำงานเป็นข้าราชการน้ำดีก็มี แต่ส่วนไหนที่เป็นปัญหาเราต้องแก้ไข และให้ความเชื่อมั่นกับประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามต่อ คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นได้มีการรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นมาแล้วหรือไม่ น.ส.จิราพร ตอบว่า คณะกรรมการชุดใหญ่ที่ตั้งขึ้นมา ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีก 2 ชุด ชุดหนึ่งจะดูการสอบสวนข้อเท็จจริง จะนำพยานหลักฐานพยานวัตถุและพยานบุคคลมาเชื่อมโยงกันซึ่งการประชุมนัดแรกต้องหาข้อมูลองค์ประกอบแวดล้อมทั้งหมดเพื่อรายงานกับคณะกรรมการชุดใหญ่ และจะได้กำหนดว่าจะต้องเชิญบุคคลหรือหน่วยงานไหนเข้ามาให้ข้อมูล ส่วนอนุกรรมการอีกชุดจะดูเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ สคบ. ซึ่งเมื่ออนุกรรมการทำงานครบ 1 สัปดาห์ ก็จะมีการรายงานให้คณะกรรมการชุดใหญ่รับทราบ

เมื่อถามถึงการพิจารณาถอนใบอนุญาตบริษัทดังกล่าว น.ส.จิราพร ระบุว่า ได้สั่งการ สคบ. ให้ทำงานให้เร็วที่สุด ซึ่งที่เคยให้ข้อมูลไปว่าอยู่ระหว่างการเชิญบริษัทมาให้ข้อมูล ทั้งตัวบอส ดารา แต่ในระหว่างการสอบสวนมีการจับกุม และขณะนี้กลายเป็นผู้ต้องหาไปแล้ว ฉะนั้นเป็นขั้นตอนที่ สคบ. ต้องเข้าไปร่วมงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบสวนข้อมูลนำมาประกอบการพิจารณาในการเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป

สำหรับการพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตคาดว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ และจะมีการประสานพูดคุยกับบอสที่อยู่ในเรือนจำหรือไม่ หลังทนายความระบุว่าหากทาง สคบ. เพิกถอนระหว่างที่ยังไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมจะฟ้องกลับในมาตรา 157 กับทางเจ้าหน้าที่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เราจะทำทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแนวทางว่าจะสามารถหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมมาประกอบอย่างไรได้บ้าง ส่วนจะสามารถเพิกถอนใบอนุญาตภายในสัปดาห์นี้ได้หรือไม่ ก็อาจจะไม่ทัน เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนตามกฎหมายที่เราต้องทำอย่างรอบคอบ ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เราไม่ได้มีธงที่จะกลั่นแกล้งใคร แต่เราต้องการที่จะทำตามข้อมูล ข้อเท็จจริง ตามหลักฐาน เพื่อให้ได้รับความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

ทางด้านคำถามกรณีนักการเมืองที่ถูกระบุในคลิปเสียง เรามีสิทธิที่จะเรียกมาชี้แจงหรือไม่ น.ส.จิราพร ตอบว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบมีสิทธิเชิญมาชี้แจงได้ทั้งหมด เมื่อถามต่อไปว่านักการเมืองจะสามารถสั่งการ สคบ. ได้หรือไม่ น.ส.จิราพร เผยว่า เรื่องนี้ต้องรอดูข้อเท็จจริง เพราะคณะกรรมการชุดนี้มีการตั้งขึ้นมาเพื่อหาข้อเท็จจริงในส่วนนี้ให้เกิดความกระจ่าง

ขณะที่การดำเนินการล่าช้าเกินไปหรือไม่นั้น น.ส.จิราพร บอกต่อไปว่า หลังจากที่มีคลิปเสียงปรากฏบนสื่อในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 หลังจากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการคนนอกขึ้นมาในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 โดยดำเนินไม่ถึง 1 สัปดาห์ อีกทั้งการจัดตั้งคณะกรรมการคนนอกก็ต้องมีการหาตัวผู้ที่มีความเหมาะสม แล้วประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ตนมองว่านี่ไม่ใช่ระยะเวลาที่ล่าช้าเกินไป เราก็เร่งทำอย่างรอบคอบและดีที่สุด.

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 'ทุเรียนลาว' ยุคใหม่ มาพร้อมรถไฟเร็วสูง-ทุนใหญ่จากจีน

"กระแสตื่นทุเรียน" เพื่อส่งออกตลาดจีนอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ในละแวกอาเซียน แต่กรณีของ "ทุเรียนลาว" กำล...

อิสราเอลยืนยันปลิดชีพว่าที่ผู้นำใหม่ฮิซบอลเลาะห์ได้แล้ว l World in Breif

อิสราเอลยืนยันปลิดชีพว่าที่ผู้นำใหม่ฮิซบอลเลาะห์ได้แล้ว อิสราเอลยืนยันในวันอังคาร (22 ต.ค.) ตามเวลาท...

‘รัสเซีย’ไม่แน่ใจว่า‘ทรัมป์’จะเป็นมิตร

ในเดือนพฤศจิกายน 2016 นักการเมืองชาตินิยมสุดโต่งชาวรัสเซีย วลาดิเมียร์ ชีรินอฟสกี้ ตื่นเต้นกับชัยชนะ...

โพลสูสีแต่ทรัมป์‘นำโด่ง’แพลตฟอร์มเดิมพันออนไลน์

แหล่งข่าววงในผู้ติดตามการเคลื่อนไหวของโพลีมาร์เก็ต แพลตฟอร์มเดิมพันแบบไร้ศูนย์กลาง เผยกับสำนักข่าวรอ...