วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ CHG ประมาณการ 3Q67F: คาดว่าผลประกอบการจะแข็งแกร่ง

ซึ่งหากผลประกอบการเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิในงวด 9M67F จะอยู่ที่ 857 ล้านบาท คิดเป็น 81.9% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

i) คาดว่ากำไรใน 3Q67F จะแข็งแกร่งที่สุดในรอบปีนี้ เราคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 2.47 พันล้านบาท (+18.0%
YoY, +24.4% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เป็น 29.5% (จาก
29.0% ใน 3Q66 และ 21.5% ใน 2Q67) โดย margin ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นเพราะ i) ผลบวกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น
หลังจากที่ประเทศไทยเปลี่ยนฤดูกาลเข้าสู่หน้าฝน ii) มีผู้ป่วยที่มี intensity สูงขึ้นมาใช้บริการของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และ iii) คาดว่าจะรับรู้รายได้ 90 ล้านบาทจากการรับชำระค่าบริการรักษาโรคเรื้อรังส่วนที่เหลือของปี 2566 จาก SSO (โดยไม่มีต้นทุนเพิ่ม) นอกจากนี้ บริษัทยังจะได้อานิสงส์จากสัดส่วน SG&A/ยอดขายที่ลดลงเนื่องจาก i) รายได้เพิ่มขึ้น และ ii) สามารถในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดี เรามองว่าผลการดำเนินงานโดยรวมของ CHG จะสะท้อนภาพการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องใน 2H67F โดยคาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q67F จะแข็งแกร่งที่สุดในรอบปีนี้ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าบริษัทจะไม่ถูกกระทบจากประเด็นการปรับลดอัตราการจ่าย RW>2 ลงเหลือ 7,200 บาท/RW (จากอัตราประกันที่ 12,000 บาท) อีกใน 3Q67F (หลังจากที่ถูกกระทบไปแล้วใน 2Q67)

ii) จะมีรายได้จากค่ารักษาโรคเรื้อรังจาก SSO เพิ่มอีกใน 3Q67F CHG จะมีรายได้เพิ่มจากการรักษาโรค
เรื้อรังเมื่อปี 2566 (30% ของรายได้จากกลุ่มนี้) เพราะยอดจ่ายจริงน่าจะสูงกว่ารายได้ค้างรับที่ตั้งเอาไว้

iii) ไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ป่วยชาวคูเวตหายไป CHG จะไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ป่วยชาว
คูเวตหายไป เพราะรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็นเพียง 4% ของรายได้รวมใน 1H67 โดยรายได้จาก
ผู้ป่วยชาวคูเวตคิดเป็นสัดส่วนที่ต่ำมาก (<0.1% ของรายได้รวม)

 

คงประมาณการกำไรปี 2567F และ 2568F เอาไว้เท่าเดิม

ผู้บริหารยังคงเป้าอัตราการเติบโตของรายได้เอาไว้เท่าเดิมที่ 15% YoY โดยยังคงมองแนวโน้มในครึ่งหลังของปีนี้เป็นบวก ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 25667F เอาไว้ที่ 1.17 พันล้านบาท (+12.2% YoY) และปี 2568F เอาไว้ที่ 1.38 พันล้านบาท (+17.3% YoY)

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำซื้อ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF สิ้นปี 2568 ที่ 3.62 บาท (ใช้ WACC 7.9% และ
TG ที่ 3.0%) จากเดิมที่ 3.50 บาท (อิงปี 2567F)

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจชะลอตัวลง, เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่

 

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

รวมพลังดันไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในงาน GC Sustainable Living Symposium 2024  

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จัดงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN ...

GC ดีเดย์! ขายเชื้อเพลิง SAF ม.ค.68 กำลังผลิตเบื้องต้น 5 แสนลิตรต่อวัน

นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ ...

มติสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ พัฒนาประเทศสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ณ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภ...

อุปกรณ์ล่าไก่! รู้จัก 'realme 13 Series' มือถือสำหรับแฟนเกม PUBG MOBILE

ปังไม่หยุด! ล่าสุด realme เปิดตัว realme 13 Series สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดจากตระกูล Number Series ในประเ...