ประธานรัฐสภา เผย เซ็นหนังสือให้ประธาน กมธ.ทุกคณะ ตรวจสอบบุคคลที่แต่งตั้งเป็นคณะทำงานหรือที่ปรึกษาแล้ว แก้ปมแอบอ้างรับผลประโยชน์ หลัง “ทนายตั้ม” ร้องสอบ “สามารถ” ชี้หากพบผิด ประธาน กมธ. นั้นๆ ต้องรับผิดชอบด้วย
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียนครั้งที่ 45 ที่ประเทศ สปป.ลาว กล่าวถึงกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เข้ายื่นหนังสือให้ตรวจสอบและปลดนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทุกคณะ หลังปรากฏมีเสียงคล้ายคนในคลิปเรียกรับผลประโยชน์จากผู้บริหารดิไอคอน ว่า เมื่อวานนี้ ตนได้เซ็นหนังสือออกไปฉบับหนึ่งให้ประธาน กมธ.ทุกคณะได้ตรวจสอบบุคคลที่แต่งตั้งเป็นคณะทำงานหรือที่ปรึกษา ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างความเสียหาย ทั้งการเรียกรับเงิน การแอบอ้าง ขอให้ถอดถอนออกทันที เพราะเป็นหน้าที่ของประธาน กมธ.แต่ละคณะสามารถทำได้ ขณะที่ทางรัฐสภาจะมีการตรวจสอบในทางลึกอีกครั้งว่า มี กมธ.ชุดใด ที่มีคณะทำงานหรือที่ปรึกษาที่สร้างความเสียหายในทำนองนี้เกิดขึ้น ก็สามารถลงโทษในเรื่องของจริยธรรมได้แต่ถ้ามีความเสียหาย มีผู้ร้องเรียน เป็นคดีอาญาก็สามารถดำเนินการได้ด้วย
“ผมได้มีการตักเตือนไปแล้ว เพราะจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกกรรมาธิการก็มีอยู่ชัดเจนแล้ว หากประพฤติก่อให้เกิดความเสียหาย คนแต่งตั้งคือ ประธาน กมธ.นั้นๆ ต้องรับผิดชอบ มีบทลงโทษค่อนข้างสูง เพราะต้องส่งเรื่องไป ป.ป.ช. และ ป.ป.ช. ต้องส่งต่อศาลฎีกา ถ้าผิดก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง จึงไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะคนที่ทำความเสียหายจะฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์ไปแอบอ้าง แต่คนรับผิดชอบคือ สมาชิกรัฐสภา กับประธาน กมธ. อาจจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ที่ผ่านมาก็เคยมีมาแล้ว คิดว่าแต่ละ กมธ.จะได้ตระหนักตรงนี้และแก้ไข เพราะเราทำความเสียหายแบบนี้ไม่ได้ บางคนเป็น กมธ. เป็นที่ปรึกษา เอาบัตรไปแอบอ้างหาประโยชน์ หรือสร้างความสัมพันธ์ให้กับตัวเอง ทั้งที่ความจริงบทบาทของ กมธ. เป็นผู้ช่วย ที่ทำงานให้กับคณะกรรมาธิการเท่านั้น ไม่ได้มีบทบาทในการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ใดได้เลย และคณะกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นมา ก็ไม่ได้เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ แต่มีบุคคลประเภทนี้ ที่ชอบไปอ้าง เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็ดี จะได้มีการระมัดระวังมากขึ้น”
...