วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

โดยนักลงทุนติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะรายงาน ในวันที่ 13 ก.ย.นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,545.50 จุด +4.56 จุด +0.30% มูลค่าการซื้อขาย 40,984 ลบ. ต่างชาติ -771.85 ลบ. TFEX +17,361 สัญญา ตราสารหนี้ -931.60 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ +1.8% ปิดที่ 88.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 65 สูงสุดในรอบเกือบ 10 เดือน หลังจากกลุ่มโอเปคคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะยังคงแข็งแกร่งในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ฟื้นตัวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
+ รายงานจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-10 ก.ย. 66 มีจำนวนทั้งสิ้น 18,530,280 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 775,295 ล้านบาท
+ นายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาและคณะผู้บริหารภาครัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยวเพื่อหารือมาตรการเร่งรัดการท่องเที่ยวระยะสั้นหรือควิกวิน ในช่วงเดือนก.ย.66-ก.พ.67 กำหนดแนวทางการอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าออกประเทศไทย ควบคู่กับการส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวแบบใหม่เชื่อมโยงเมืองหลักสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง
+/- รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กำลังทบทวนคุณสมบัติของบริษัทใหม่ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) รวมถึงทบทวนเกณฑ์เดิมให้เหมาะสม

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 17.73 จุด หรือ -0.05% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 1% หลังจากบริษัทออราเคิล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันสร้างความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนส.ค.ในวันนี้
- ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 91.3 ในเดือนส.ค. ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. จากระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนที่ 91.9 ในเดือนก.ค.
- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) เปิดเผยว่านักลงทุนต่างชาติขายบอนด์ไทยระยะสั้น 1.16 แสนล้านบาท เหลือยอดคงค้างเพียง 6.4 หมื่นล้านบาทจากปีก่อนที่ 1.8 แสนล้านบาท และคาดแนวโน้มกระแสเงินไหลออกเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐสูงกว่าไทยถึง 3% ส่งผลให้รอครบกำหนดแล้วดึงเงินกลับ ส่วนเม็ดเงินลงทุนใหม่ยังชะลอ
- สนค. เปิดเผยว่า การวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงของเอลนีโญต่อภาคเกษตร
ไทยในปี 66 พบว่าในภาพรวมเอลนีโญทำให้ปริมาณผลผลิตเกษตรลดลง และราคามีแนวโน้มสูงขึ้น
- ส.อ.ท. กล่าวว่าผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 91.3 ต่ำสุดในรอบ 1 ปีปรับตัวลดลง จาก 92.3 ในเดือนกรกฎาคม โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังจับตาสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนส.ค.ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,540-1,550 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY XPG
• หุ้น mai ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว : SPA AU D RP
• ราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้น : KBS KSL KTIS BRR
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล : TNP KK CPALL CPAXT STEC CK ITD

หุ้นรายงานพิเศษ  

GFC (mai / Service)
ราคา IPO 7.00 บาท (P/E Ratio ที่ 21.17x) และราคาเหมาะสม 10.10 บาท

** Globlex Securities เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย

•บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ประกอบธุรกิจให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจรด้วยวิธีการ IVF-ICSI (สัดส่วน 70%) และ IUI รวมถึงบริการอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ การให้บริการตรวจเบื้องต้น การตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน และการให้บริการแช่แข็งไข่และการฝากไข่

•ช่วงปี 63-65 และงวด 6M66 มีรายได้ 214 ลบ. 242 ลบ. และ 276 ลบ. ตามลำดับ เติบโตเฉลี่ย CAGR 13% ต่อปี และ 167 ลบ. +38%YoY โดยหลักมาจากการเติบโตของการรักษาแบบ ICSI ตามจำนวนการเติบโตของคนไข้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ (ลูกค้ากว่า 90% เป็นคนไทย) พร้อมกับทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ส่วน %GPM ปี 63-65 อยู่ที่ 49.9%, 49.2% และ 47.1% ปรับลดลงในปี 65 จากค่าเสื่อมอาคารของคลินิกใหม่และการเพิ่มจำนวนบุคลากร แต่ปรับดีขึ้นใน 6M66 มาที่ 48.2% ส่วน %SG&A ปี 63-65 และ 6M66 อยู่ที่ 11.8%, 13.6%, 17.3% และ 19.1% ตามลำดับ มีแนวโน้มเร่งขึ้นเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการนำหุ้นเข้าตลาดฯ ส่งผลให้ปี 63-65 มีกำไร 67 ลบ. 70 ลบ. 66 ลบ. หดตัวเฉลี่ย CAGR 1% ต่อปี ส่วน 6M66 มีกำไร 34 ลบ. +26%YoY และคิดเป็น 69% ของประมาณการกำไรทั้งปี 66 ที่ราว 49 ลบ. -25%YoY ซึ่งเราอาจพิจารณาปรับเพิ่มประมาณการดังกล่าว

•ราคา IPO 7 บาท (P/E Ratio ที่ 21.17x ถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มซึ่งอยู่ที่ระดับ 25-30x) จำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 420 ลบ. 1) ลงทุนขยายสาขาใหม่ 2 แห่ง คือ สาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และสาขาอุบลราชธานี ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการช่วงปี 66-67 2) คืนเงินกู้สถาบันการเงิน และ 3) ลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและเป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ เราประเมินมูลค่าเหมาะสม GFC ที่ 10.10 บาท ส่วนราคาเหมาะสม Consensus อยู่ในช่วง 9.00 – 11.30 บาท

หุ้นมีข่าว

(+) NER (Bloomberg consensus 5.82 บาท) มองเอลนีโญกระทบการผลิตน้ำยางลดลง ราคายางปรับตัวเพิ่มขึ้น หนุนมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ด้านไตรมาส 3/2566 ปรับขึ้นราคาขายใหม่ คาดเริ่มรับรู้ตามการส่งมอบในปลายไตรมาส 4/2566 และไตรมาส 1/2567 รับอานิสงส์กระแสรถ EV หนุนความต้องการยางผลิตล้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คงเป้าปริมาณการจาหน่ายปี 2566 ไว้ที่ 5 แสนตัน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ITNS (Bloomberg consensus 4.40 บาท) ส่งซิกผลงานไตรมาส 3/2566 โดดเด่น เตรียมส่งมอบงานใหญ่มูลค่า 120 ล้านบาท โชว์แบ็กล็อกแน่น 420 ล้าบาท บุ๊กเป็นรายได้ปีนี้ 285 ล้านบาท เดินหน้าชิงงานใหม่อีกกว่า 1.5 พันล้านบาท ย้ำเป้าผลงานปีนี้โต 25-30% ทำสถิติสูงสุดใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SJWD (Bloomberg consensus 20.00 บาท) มั่นใจผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2566 เติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งแรกที่ผ่านมา หนุนจากทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจคลังสินค้า, ลานพักสินค้ายานยนต์, และศูนย์บริการส่งออก พร้อมเร่งขั้นตอนการควบรวมจัดการค่าใช้จ่าย One time ให้จบในปีนี้ มั่นใจดีล M&A ธุรกิจโลจิสติกส์หนุนรายได้-กำไรปีหน้าโต กว่า 12% YoY (ที่มา ทันหุ้น)

(+) RPH (Bloomberg consensus - บาท) มองไตรมาส 3/2566 Health Care เข้าไฮซีซัน หนุนอัตราการครองเตียงพุ่งแตะระดับกว่า 100% มั่นใจการเติบโตของรายได้รวมปี 2566 ทำได้ตามเป้าที่ระดับ 10-20% จากปีก่อน พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์ ลงทุนสร้างศูนย์ความงาม-อาคารผู้ป่วยประกันสังคม รองรับการเติบโตในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ