‘จีน’ มี ‘เศรษฐีพันล้าน’ แซงหน้าสหรัฐและยุโรป เพิ่มขึ้น 108% ใน 10 ปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานอ้างรายงานล่าสุดจาก New World Wealth และ Henley & Partners ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการย้ายถิ่นฐานเพื่อการลงทุนระบุว่า สโมสรคนรวยระดับโลกได้ขยายตัวอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดย “จีน” เป็นผู้นำในการขยายตัวนี้ 

รายงานระบุว่า จำนวน “เซนติมิลเลเนียร์” ทั่วโลก หรือกลุ่มที่มีความมั่งคั่ง ครอบครองเงินและสินทรัพย์มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ (3,000 ล้านบาท) ขึ้นไป “เพิ่มขึ้น 54%” ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นจำนวน 29,350 คน โดยเฉพาะในจีนและสหรัฐ

“เซนติมิลเลเนียร์ในสหรัฐและจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทิ้งห่างประเทศในยุโรปอย่างเห็นได้ชัด” ตามที่เจิร์ก สเตฟเฟน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Henley & Partners ระบุ

รายงานระบุว่า การก้าวขึ้นของจีนเป็นการก้าวที่น่าทึ่งที่สุด โดยจำนวนเซนติมิลเลเนียร์เพิ่มขึ้น 108% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เหนือกว่าสหรัฐซึ่งมีจำนวนคนรวยระดับสูงเพิ่มขึ้น 81% ในช่วงเวลาเดียวกัน

สเตฟเฟนกล่าวว่า การเติบโตของจีนส่วนใหญ่เกิดจากการเกิดขึ้นของเซนติมิลเลเนียร์ในด้านเทคโนโลยีและยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีเซนติมิลเลเนียร์อาศัยอยู่ในจีน 2,350 คน
ที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศจีนหยุดชะงักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากถูกฉุดลงด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหา การว่างงานที่สูง และการบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอ โดย แอนดรูว์ อะมอยล์ส นักวิเคราะห์ด้านความมั่งคั่งของ New World Wealth กล่าวว่า การบูมส่วนใหญ่ของเซนติมิลเลเนียร์ในจีนเกิดขึ้นระหว่างปี 2013 ถึง 2020 ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2020 จำนวนคนรวยระดับสูงเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 10% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม Henley & Partners ยืนยันว่า เมืองอย่างหางโจวและเซินเจิ้นยังคงแสดงศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น และถูกระบุว่าเป็นเมือง “พร้อมสำหรับการเติบโตที่โดดเด่นมากกว่า 150%” ในจำนวนเซนติมิลเลเนียร์ภายในปี 2040

ทั้งนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจในสองเมืองนี้เร็วกว่าการเติบโต 5% ของประเทศ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของหางโจวเติบโต 6.9% เมื่อเทียบปีต่อปีในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ในทำนองเดียวกัน เซินเจิ้นเติบโต 5.9% เมื่อเทียบปีต่อปี ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยได้รับแรงหนุนจากภาคอุตสาหกรรม

อะมอยล์ส นักวิเคราะห์ด้านความมั่งคั่งของ New World Wealth คาดว่า การเติบโตของประชากรเซนติมิลเลเนียร์ในจีนระหว่างนี้ถึงปี 2040 จะยังคงแข็งแกร่งอยู่ระหว่าง 80% ถึง 100%

อีกทั้ง เป็นที่คาดว่าทั้งสหรัฐและจีนจะเติบโตเร็วกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยทั่วโลกของเซนติมิลเลเนียร์ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 75% ภายในปี 2040

รายงานยังชี้ให้เห็นว่าเมืองสำคัญในเอเชียและตะวันออกกลางหลายแห่ง เช่น ไทเป ดูไบ อาบูดาบี และเบงกาลูรูของอินเดีย มีศักยภาพที่จะก้าวกระโดดในการเติบโตของประชากรคนรวยระดับสูงถึง 150% ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่น่าจับตามอง

ในทางกลับกัน ศูนย์กลางที่มั่นคงกว่าอย่างซูริค ชิคาโก มอสโก และมาดริด คาดว่าจะเห็นการเติบโตของความมั่งคั่งระดับสูงที่ซบเซา น้อยกว่า 50% ในช่วงปี 2040

อ้างอิง: cnbc

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...