‘เซ็นทารา ไลฟ์’ ปักหมุดหาดละไม ‘สมุย’ ชูราคาคุ้มค่า ลูกค้าเชื่อมั่นแบรนด์!

ควบคู่กับการนำเสนอความคุ้มค่าคุ้มราคา เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยได้ปรับโฉมจากแบรนด์เดิมสู่ เซ็นทารา ไลฟ์ ทุกสาขาแล้ว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ส.ค. เครือเซ็นทาราได้ฤกษ์เปิดให้บริการโรงแรมแห่งใหม่ภายใต้แบรนด์นี้ “เซ็นทารา ไลฟ์ ละไม รีสอร์ท สมุย” มีจำนวนห้องพัก 61 ห้อง จากทั้งหมด 4 รูปแบบ ออกแบบสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ ขับบรรยากาศโปร่ง โล่ง สบาย ด้วยห้องพักขนาดใหญ่ตั้งแต่ 35-53 ตร.ม. ราคาขายเฉลี่ยเริ่มต้นราว 1,700 บาท/ห้อง/คืน

แม้โลเกชันของโรงแรมจะตั้งอยู่ใกล้ “หาดละไม” ซึ่งเป็นหาดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็น “อันดับ 5” รองจากหาดเฉวง หาดบ่อผุด หาดแม่น้ำ และหาดเชิงมน แต่ตัวหาดละไมก็มีจุดเด่นตรงหาดสวย น้ำทะเลเล่นได้ ทรายละเอียดรองจากหาดเฉวง โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นท้องถิ่น เหมือนสมุยในอดีต

สุภาพร นวลจริง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ละไม รีสอร์ท สมุย เล่าว่า เดิมโรงแรมแห่งนี้เคยเป็นอพาร์ตเมนต์มาก่อน กระทั่ง “อุปถัมภ์ นิสิตสุขเจริญ” เจ้าของบริษัท ไร้ท์แมน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจครีเอทีฟอีเวนต์ครบวงจร เข้าเทคโอเวอร์และว่าจ้างให้เครือเซ็นทาราเข้ามาบริหาร โดยเลือกสวมแบรนด์ “เซ็นทารา ไลฟ์” พร้อมดำเนินการปรับโฉมใหม่ทั้งหมด ถือเป็นโรงแรมแรกที่ อุปถัมภ์ กระโดดข้ามมาลงทุนทำโรงแรมของตัวเอง

แม้ที่ตั้งของโรงแรมจะไม่ติดหาดละไม แต่ด้วยระยะทางห่างจากชายหาดเพียง 400 เมตร จึงสามารถเดินทางไปได้สะดวก ประกอบกับลูกค้าเชื่อมั่นในตัวแบรนด์ ราคาห้องพักคุ้มค่า และการโปรโมตบริการเพื่อจูงใจ ทำให้ช่วง 15 วันแรกที่เปิดให้บริการ กระแสตอบรับเกินเป้าหมาย มีอัตราการเข้าพัก 55% สูงกว่าเป้าตลอดเดือน ส.ค.ที่ตั้งไว้ 30% โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัว วัยเกษียณ และเอ็กซ์แพต (Expat) ต่างจากเดิมที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มเดินทางคนเดียว เดินทางเป็นคู่ และกลุ่มคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ เมื่อดูโครงสร้างของตลาด “5 อันดับแรก” ที่เข้าพักโรงแรมนี้สูงสุด พบว่าอันดับ 1 ยุโรป เช่น เยอรมนี และอังกฤษ ครองสัดส่วนกว่า 60% ของลูกค้าทั้งหมด รองลงมาเป็นชาวไทย 20% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรและกลุ่มนักธุรกิจ ส่วนอันดับ 3 อิสราเอล เป็นตลาดที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ว่าจะมีสัดส่วนมากถึง 10% เพราะปกติแล้วนักท่องเที่ยวอิสราเอลจะนิยมเข้าพักโรงแรมแถบหาดเฉวงมากกว่า ด้านอันดับ 4 รัสเซีย คาซัคสถาน และโปแลนด์ คิดเป็นสัดส่วนรวม 5% ส่วนใหญ่พักนาน 12 วัน และอันดับ 5 มาเลเซีย กับสิงคโปร์ เป็นกลุ่มขับรถเที่ยวเพราะเที่ยวบินราคาสูง ถือเป็นลูกค้าอีกกลุ่มที่โรงแรมได้มา จากปกติแล้วนักท่องเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์จะนิยมพักโรงแรมระดับลักชัวรีมากกว่า

ขณะที่ “4 เดือนสุดท้าย” ของปีนี้ซึ่งตรงกับโลว์ซีซันของ “เกาะสมุย” ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-20 ธ.ค. (ยกเว้นช่วงพีคสิ้นปี) ตั้งเป้าหมายอัตราการเข้าพักไว้ที่ 50% และในปี 2568 แนวโน้มน่าจะดี คาดปิดที่ตัวเลข 68-70% พร้อมขยับราคาขายห้องพักเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 1,800 บาท/ห้อง/คืน เพราะยังไม่เห็นสัญญาณลบกระทบต่อกระแสการเดินทาง หลังจากช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้เติบโต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

“ในพื้นที่หาดละไม เราพบว่าโรงแรมคู่แข่งส่วนใหญ่เป็น 3 ดาว ติดหาดทั้งหมด แต่จุดเด่นของโรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ละไม รีสอร์ท สมุย คือการเป็นโรงแรมแบรนด์ระดับ 4 ดาว มีมาตรฐานการให้บริการ และแทบจะเป็นโรงแรมแบรนด์แห่งเดียวในเส้นเลียบหาดละไม นอกจากนี้ขนาดห้องพักที่นี่มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 35 ตร.ม. ซึ่งใกล้เคียงกับโรงแรม 5 ดาว ขณะที่โรงแรมอื่นๆ แถวนี้ มีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 20 ตร.ม. ก็เป็นอีกจุดขายสำคัญของโรงแรมเรา”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...