ครม.ไฟเขียว 5 มาตรการ 63 แผนงาน สกัดสินค้าราคาถูกผิดกฎหมาย - สินค้าจีนตีตลาด
วันที่ส่ง: 04/09/2024 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ
นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการ ป้องกันสินค้าผิดกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาสินค้าราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานที่เข้ามายังประเทศไทย ตามที่กระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมหารือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเป็นเจ้าภาพหลักในการรับเรื่องร้องเรียนนั้น ได้เสนอมาตรการแก้ไข เนื่องจากมีผู้ประกอบการไทยได้รับความเดือดร้อน และแข่งขันกับสินค้าจีนได้ยาก โดย ครม.เห็นชอบแนวทางการแก้ปัญหา 5 มาตรการหลัก 63 แผนปฏิบัติการ ดังนี้
1.) ให้หน่วยงานรัฐ บังคับใช้ระเบียบกฎหมายอย่างเข้มข้น โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการตรวจสินค้า ณ ด่านศุลกากร ด้วยการเพิ่มความถี่การเปิดตู้สินค้า เพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้านำเข้าจากต่างประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานหรือได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการเพิ่มความถี่การตรวจสอบมาตรฐานสินค้าที่จำหน่ายออนไลน์ ให้เป็นไปตามกฏหมายไทย
2.) ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับการค้าอนาคต โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการออนไลน์จากต่างประเทศต้องจดทะเบียนนิติบุคคลและมีสำนักงานในไทย เพื่อให้ภาครัฐ สามารถกำกับดูแล ซึ่งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ( ETDA.) อยู่ระหว่างจัดทำประกาศ รวมถึงต้องเพิ่มจำนวนรายการสินค้าควบคุมภายใต้มาตรฐานบังคับครอบคลุมรายการสินค้าให้มากที่สุด
3.) มาตรการด้านภาษี กรมสรรพากรอยู่ระหว่างปรับปรุงกฎหมายภาษี สำหรับการกำหนดให้ผู้ขายสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ และแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ ที่จำหน่ายสินค้าในไทย ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ขณะเดียวกันต้องจัดอบรมความรู้เชิงเทคนิคให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการยื่นคำขอและไต่สวนการใช้มาตรการภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด การอุดหนุน และมาตรการปกป้องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น
4.) มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)ไทย ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ในการผลิต ขยายการส่งออกสินค้าไทยผ่านอี-คอมเมิร์ซ เพื่อให้เอสเอ็มอีไทย แข่งขันได้ในยุคการค้าโลกใหม่
และ 5.) สร้างและต่อยอดความร่วมมือกับประเทศคู่ค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เพื่อผลักดันสินค้าและบริการไทยผ่านอี-คอมเมิร์ซ ต่างประเทศ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางรวบรวมและกระจายสินค้าสำหรับอี-คอมเมิรซ์ในระดับภูมิภาค
อย่างไรก็ตามมีมติให้เลื่อนเรื่องการตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจฝ่าฝืนกฎหมาย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอออกไป เพื่อรอครม.ชุดใหม่มาดำเนินการ เพื่อความต่อเนื่องในการบริหารจัดการ หากเสนอให้ครม.ชุดนี้เห็นชอบ ก็ต้องนำเสนอกลับมาให้ครม.ชุดใหม่พิจารณาอีกครั้ง ดังนั้นรอครม.ชุดใหม่มาพิจารณาอนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะมีครม.ชุดใหม่เร็วๆนี้
ทั้งนี้ทุกหน่วยงานต้องดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ และรายงานผลการดำเนินงานเป็นรายสัปดาห์ อย่างไรก็ตามทั้ง 5 มาตรการ ได้คำนึงถึงความสอดคล้องกับความตกลงทางการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศคู่ค้า ควบคู่กับการรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภคและผู้ประกอบการไทยอย่างสมดุล
คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ
จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief
รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...
‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’
นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...
เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า
“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...
“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...
ยอดวิว