วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี COMMERCE - Bullish

เรามีมุมมองบวกต่อการปรับเงื่อนไขกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นแจกเงินสด 1 หมื่นบาทให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนก่อนภายในเดือนก.ย. 24 ทั้งนี้ เม็ดเงินดังกล่าวจะคิดเป็น 5.2%ของมูลค่าค้าปลีกค้าส่งไทย เราประเมินผู้ประกอบการขายสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน (CPALL,CPAXT,BJC) จะได้ประโยชน์มากกว่ากลุ่มอื่น และประเมิน upside ต่อประมาณการกำไรกลุ่มค้าปลีกปี 24F ราว +1-3% สำหรับน้ำหนักการลงทุนกลุ่มค้าปลีกอยู่ที่ ‘มากกว่าตลาด’ เราเชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มนี้ที่ปรับลง -9%ytd สะท้อนกำลังซื้ออ่อนแอไปแล้ว มองเป็นจังหวะซื้อ เลือก CPALL (TP84) และ CPAXT(TP40) เป็นหุ้นเด่นสุดในกลุ่ม โดยชอบที่ i) คุณภาพการเติบโตของกำไรปกติที่มาจากทั้ง SSSG ที่เป็นบวกสูงกว่ากลุ่มและ GDP กับการปรับปรุงมาร์จิ้นได้ดี และ ii) ระยะยาวจะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้าง CPAXT เป้า 5 พันลบ.ภายใน 3 ปี นอกจากนั้น เราเพิ่ม BJC (TP32.0) เป็นหุ้นเด่นเพิ่มเติม เพราะคาดกำไร 2H24F กลับมาโต y-y และ h-h

ประเด็นสำคัญ

• 22 สิงหาคม 2567 เนชั่นทีวี จัดดินเนอร์ทอล์ก หัวข้อ Vision for Thailand 2024 โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้วย ทั้งนี้ นายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งถึงการเดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต ว่า ดิจิทัลวอลเลต เนื่องจากว่ามีคนค้านคนอาจไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ค้านไว้ก่อน บางคนค้านจนลืมไปว่าตัวเองคือส่วนหนึ่งของต้มยากุ้ง จริงๆ แล้วดิจิทัลวอลเลตเป็นการยิงนก 3 ตัวด้วยกระสุนนัดเดียว

 

• 1) การกระตุ้นเศรษฐกิจ เราจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ประเทศเราโตช้ามานาน GDP เราน้อยกว่าคนอื่นทั้งหมดโดยเฉลี่ย เพราะเราไม่มีเงินในระบบเพียงพอ , 2) อยากให้คนไทยถึงรากหญ้าได้เรียนรู้เทคโนโลยี วันนี้ ชาวนาไม่เรียนหนังสือเลย แต่ใช้เฟซบุ๊กเป็น ไลน์ก็ได้ เดี๋ยวก็ใช้ดิจิทัลวอลเลตเป็น , 3) พอเขาเรียนรู้แล้วต้องใช้ต่อไป วันข้างหน้าได้ใช้ดิจิทัลไอดี และซุปเปอร์แอป เพื่อให้คนเข้าไป one sign on ใช้กับทุกบริการของรัฐทั้งหมด อีกหน่อยรัฐออกบอนด์ ขายประชาชนรายย่อยผ่านดิจิทัลวอลเลต ซึ่งเขาสามารถนำบอนด์ไปใช้เป็นเงินสดได้ ถ้าไม่ใช้ก็มีดอกเบี้ย ถ้าใช้ก็ใช้ไปหักไปนี้คือสิ่งที่เราหวังว่าดิจิทัลวอลเลตจะเป็นประโยชน์ของประเทศมากกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ

• สาเหตุการปรับเงื่อนไขดิจิทัล วอลเล็ท คือ งบกลางปี 2567 ซึ่งต้องใช้ในกันยายน 2567 ทางคณะกรรมการเล่าให้ฟังว่าจะเอา 1.22 แสนล้านที่ตั้งงบมา บวกกับงบกลางอีก 2 หมื่นกว่าล้าน เป็น 1.45 แสนล้าน ไปใช้กับกลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และใช้กับกลุ่มคนพิการซึ่งไม่อยู่ในกลุ่มเปราะบางอีก 1 ล้านคน รวม 14.5 ล้านคน แจกให้คนละหมื่นบาทก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเบื้องต้นแสนกว่าล้านบาททันทีเลยเดือนกันยายน

• พอตุลาคม คนที่ลงทะเบียนไว้เกือบ 30 ล้านคน ก็จะถูกคัดว่าคุณสมบัติครบไหม ซ้ำกับกลุ่มเปราะบางหรือเปล่าแล้วเหลือเท่าไหร่ ก็จะนำงบที่เบิกได้นำาาจ่ายให้กับกลุ่มที่ลงทะเบียนแล้ว แต่จ่ายครั้งนี้ถ้าระบบเศรษฐกิจก็จะเป็นดิจิทัลวอลเลต เพื่อให้กระตุ้นเศรษฐกิจที่แม่นยำ (ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ)

 

 

ความเห็นและคำแนะนำ

- เรามีมุมมองบวกต่อการปรับเงื่อนไขการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ โดยหากอิงจากเม็ดเงินของงบรายจ่ายเพิ่มเติมสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่รัฐบาลเดิมเคยขอเพิ่มเติมไว้ที่ 1.22 แสนลบ. รวมกับงบกลางที่ถูกโยกมาอีก 0.23 หมื่นลบ. จะคิดเป็นราว +5.2%ของมูลค่าค้าปลีกค้าส่งไทยของปี 23 ที่อยู่ที่ 2.8 ล้านล้านบาท และเมื่อผนวกกับกลุ่มที่ได้รับเงินเป็นกลุ่มเปราะบางมีรายได้น้อย เราประเมินผู้ประกอบการขายสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน (CPALL,CPAXT,BJC) จะได้ประโยชน์มากกว่ากลุ่มอื่น (CRC, DOHOME, GLOBAL, HMPRO, ILM)

-  Upside ต่อกลุ่มค้าปลีกปี 24F +1-3%ของกา ไรปี 24F ทั้งนี้ หากอิงเม็ดเงินของโครงการนี้เฉพาะส่วนที่ขอเพิ่มเติม 1.22 แสนลบ. จะคิดเป็นราว +0.7%ของมูลค่า GDP ไทยปี 23 เราคาดจะสร้าง upside ต่อประมาณการกำไรปกติของกลุ่มค้าปลีกปี 24F ที่ 1-3% โดยคาด CPALL จะได้ประโยชน์มากสุดจากมีฐานรายได้ในไทยกว่า 8.7 แสนลบ.ในปี 23 ตามด้วย CPAXT มี 4.4 แสนลบ.และ BJC มีรายได้จาก BIGC 1.0 แสนลบ.

- Outlook 2H24F กลุ่มค้าปลีกยังคงดูดี เราคาดกำไรปกติจะ y-y และ h-h ตาม i) แรงกระตุ้นจากภาครัฐ โดย 3Q24F คาดหวังการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรัฐก่อนจบปีงบประมาณ ส่วน 4Q24F คาดหวังการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ii) การเติบโตนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ 4Q24F ที่เป็น Peak season ดังนั้น เราคาด SSSG กลุ่มค้าปลีกจะค่อยๆ ฟื้นและจะเป็นบวกใน 4Q24F และ iii) ทิศทางมาร์จิ้นจะขยายตัวได้ y-y จากกลยุทธ์การปรับแผนขายสินค้ากลุ่ม High margin เพิ่มในหลายบริษัท เด่นสุดคือ CPALL

- คงน้ำหนักการลงทุน ‘BULLISH’ เราเชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับลง -9%ytd สะท้อนกำลังซื้ออ่อนแอไปแล้ว มองเป็นจังหวะสะสม เลือก CPALL (TP84) และ CPAXT(TP40) เป็นหุ้นเด่นสุดในกลุ่ม โดยชอบที่ i) คุณภาพการเติบโตของกำไรปกติที่มาจากทั้ง SSSG ที่เป็นบวกสูงกว่ากลุ่มและ GDP กับการปรับปรุงมาร์จิ้นได้ดี ii) ได้ประโยชน์สูงจากกำลังซื้อกลุ่มรากหญ้าที่จะฟื้น และ iii) ระยะยาวจะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้าง CPAXT เป้า 5 พันลบ.ภายใน 3 ปี ทั้งนี้ เราเพิ่ม BJC (TP32.0) เป็นหุ้นเด่น เพราะคาดกำไร 2H24F โต y-y,h-h และ valuation ถูก

 

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...