'ทักษิณ' เอาจริง! 'ซอฟต์พาวเวอร์' เล็งต่อยอด 'ดิจิทัลวอลเล็ต' หนุนศิลปะ

ย้อนไปวันที่ 22 สิงหาคม 2566 มี “นาทีประวัติศาสตร์” เกิดขึ้น เมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กลับสู่มาตุภูมิประเทศไทยในรอบ 15 ปี ซึ่งกินเวลายาวนานกับการอยู่ในต่างแดน

และวันที่ 22 สิงหาคม 2567 อดีตนายกฯ “ทักษิณ” ได้ขึ้นเวทีใหญ่เป็นครั้งแรกในงาน “Vision For Thailand” จัดโดย “เนชั่น กรุ๊ป” เพื่อกล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับ “วิสัยทัศน์ประเทศไทย” ซึ่งเป็นการให้น้ำหนักใหญ่เกี่ยวกับการ “ปฏิรูปเศรษฐกิจ” และแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน โดยมี 14 ข้อเสนอ เพื่อพลิกประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการแก้หนี้ครัวเรือน การเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ช่วยกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน การเปิดทางลงทุน “เอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์” รวมถึง “ซอฟต์พาวเวอร์”

เอาจริง! ซอฟต์พาวเวอร์

ในส่วนของนโยบายการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ เป็นที่ประจักษ์ชัดว่ารัฐบาลของนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” ยังลุยต่อ และอดีตนายกฯ “ทักษิณ” ประกาศชัดว่า

“สิ่งที่อยากพูดถึงคือ..รัฐบาลนี้เอาแน่ เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ เอาจริงเอาจังแน่ เราต้องการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ทุกรูปแบบ”

สำหรับยุทธศาสตร์เคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ มีทั้งหมด 11 ด้าน ได้แก่ อาหาร กีฬา เฟสติวัล ท่องเที่ยว ดนตรี หนังสือ ภาพยนตร์ เกม ศิลปะ การออกแบบ และแฟชั่น

สร้างอีโคซิสเทมมวยไทยเทียบชั้นพรีเมียร์ลีก

ในส่วนของกีฬา ตัวอย่างที่หยิบยกต้องการดำเนินการ คือ มวยไทย ที่ควรมีการกำหนดมาตรฐาน(standardized)ระบบมวยไทย มีการสร้างระบบนิเวศหรืออีโคซิสเทมมวยไทยขึ้นมาใหม่ เพื่อให้มีรายได้จากระบบนิเวศดังกล่าว และควรมีการจัดให้มีการแข่งขันเป็น “ลีก” เหมือนกับการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก การกำหนดชั้นว่าลีกไหน นักมวยควรได้ค่าตัวเท่าไหร่ ครูมวย กรรมการ ตลอดจนมีการตั้งรางวัลจากการแข่งขัน และทุกอย่างอยู่ภายใต้สหพันธ์หรือเหมือนมีฟีฟ่านั่นเอง

“ผมคุยกับคุณวรวีร์ มะกูดี (บังยี) จากฟีฟ่ามาทำมวยดีกว่า ตั้งกติกาให้แข่งขันแบบพรีเมียร์ลีก มีค่าตัว ใครเล่นอยู่ในลีกไหน มวยน่าจะทำได้เร็ว เพราะไปด้วยธรรมชาติ เพราะปัจจุบันมีค่ายมวยไทยทั่วโลก แต่ยังไม่ได้มาตรฐาน”

แจกโทเคนคอเกม ผู้ผลิตเกมดี ขึ้นเงินกับรัฐ

เกมเป็นอีกซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐจะผลักดัน อดีตนายกฯ “ทักษิณ” ระบุว่า วงการอีสปอร์ตมี คนไทยรับบทเป็นผลิตผลิตหรือสร้างเกมได้เอง จึงต้องการสนับสนุนวงการนี้ เน้นช่วยเหลือผ่านคนเล่นเกมหรือฝั่งดีมานด์ ไซด์ ไม่ใช่ช่วยฝั่งผู้ผลิตหรือซัพพลายไซด์โดยตรง

ทว่า หากผู้ผลิตเกมดี มีผู้เล่นจำนวนมาก “ผมจะให้โทเคน กับเด็กที่เล่นเกมคุณ ถ้าเกมคุณดี มีคนเล่นจำนวนมาก ได้เงินเยอะ มาขึ้นเงินกับรัฐบาล” นี่คือแนวทางการสนับสนุนผู้สร้างเกมสัญชาติไทย

ต่อยอดดิจิทัลวอลเล็ตสู่ศิลปะ 

ส่วนด้านศิลปะ ต้องการเห็นงานแสดงต่างๆหรือเอ็กซิบิชั่นงานอาร์ท ไม่เพียงแค่ศิลปิน แต่ควรเปิดกว้างให้คนทั่วไปที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะออกมา มีกำลังใจในการขายงานในประเทศ และต่างประเทศ ผ่านระบบ “บล็อกเชน-เอ็นเอฟที” ส่วนนี้จะเกิดได้ ต้องหลัง “ดิจิทัลวอลเล็ต” ประสบความสำเร็จ

ขณะที่แฟชั่น ต้องการส่งเสริมไม่แค่งานดีไซน์ ตัดเย็บเสื้อผ้าเท่านั้น มองไปถึงการปั้น “นางแบบเลือดไทย” ไปเติบโต โดยมองความสำเร็จของประเทศบราซิลที่ 2 วงการทำเงินให้กับเศรษฐกิจของชาติ คือ “ฟุตบอล” และ “นางแบบ”

“สมัยผมอยู่ มีการทำกรุงเทพฯเมืองแฟชั่น เราต้องการสร้างดีไซน์เนอร์ คนตัดเย็บเสื้อผ้าไปโขว์ ทีนี้นางแบบ ซูเปอร์โมเดลโลก หากมองบ้านเราอาจเห็นคนตัวดำปี๋ จมูกแบนๆ อีสานเรา ทำไมไม่เป็นไปนางแบบโลกบ้าง เราพร้อมส่งเสริม จะให้คนไทยอยู่กับรายได้ขั้นต่ำอย่างเดียวไม่พอ” โดยจุดนี้ยังต้องการให้คนไทยพัฒนาตัวเอง นอกเหนือจากมีพรสวรรค์ติดตัวด้วย

ฟื้น!โปรเจคครัวไทยสู่ครัวโลก

ส่วนที่ขาดไม่ได้ คืออาหารไทยที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างดี ที่ผ่านมาเคยมีโครงการ “ครัวไทยสู่ครัวโลก” จากนี้จะต้องปัดฝุ่น ฟื้นโครงการอีกครั้ง ทั้งสร้างเชฟฝืมือดีผงาดโลก การสร้างสรรค์อาหารรูปแบบต่างๆ ทั้งอาหารสำเร็จรูปไปลุยตลาดต่างประเทศ หวังเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ส่งออกสินค้าเกษตรของไทยด้วย

รัฐบาลในอดีตเคยมีการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในต่างแดนสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ในการปล่อยสินเชื่อ โดยมีเอสเอ็มอีแบงก์หนุนเพื่อให้ “คนไทยที่อยู่ต่างประเทศตั้งตัวได้” เพราะการทำธุรกิจในต่างแดนบางครั้งไม่สามารถกู้เงินในประเทศเหล่านั้นได้ หากสนับสนุนเงินทุนได้จากลูกจ้างจะมีโอกาสเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหาร เป็นต้น

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ