ไอเอฟดีโพล ชี้ “การเมืองไทยมีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค” หรือมือที่มองไม่เห็น

ไอเอฟดีโพล ชี้ “การเมืองไทยมีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค” โดยประชาชนคิด พรรคการเมืองที่มีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคมากที่สุดคือ "เพื่อไทย" รองลงมา "ภูมิใจไทย" ส่วนพรรคที่มีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคน้อยที่สุดคือ "พรรคประชาชน"

วันที่ 22 ส.ค. 67 ไอเอฟดีโพล ชี้ว่า “พรรคการเมืองไทยมีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคที่กำหนดทิศทางและนโยบายพรรค และยังมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลด้วย โดยพรรคการเมืองไม่ได้ยึดโยงกับผลประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นหลัก” โดยประชาชน 94% คิดว่า พรรคที่ผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย รองลงมาคือ พรรคภูมิใจไทย 92.57% ส่วนพรรคที่มีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคน้อยที่สุดคือ พรรคประชาชน 68.07% น้อยรองลงมาคือ พรรคประชาชาติ 81.14% อีกทั้งผลสำรวจยังพบว่าประชาชน 55.94% เชื่อว่า การตัดสินใจของรัฐบาลถูกควบคุมโดยผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ซึ่งทำให้ประชาชน 69.32% ไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าจะทำสิ่งที่ถูกต้อง/เป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ”

ไอเอฟดีโพลแอนด์เซอร์เวย์ สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา สำรวจประเด็น “การเมืองไทยมีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค” สำรวจประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,251 ตัวอย่าง กระจาย 5 ภูมิภาค วิธีสำรวจลงภาคสนาม และโทรศัพท์ อย่างละ 50% สุ่มตัวอย่างแบบความน่าจะเป็นด้วยวิธี Stratified Five-Stage Random Sampling แต่ละตัวอย่างมีค่าถ่วงน้ำหนัก ค่าความผิดพลาด 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% สำรวจช่วง 17-20 สิงหาคม 2567  

ผลสำรวจดังนี้ ประชาชนให้ความคิดเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค (คือ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค แต่มีอิทธิพลในการกำหนดทิศทาง นโยบายและการตัดสินใจของพรรค ซึ่งจะส่งผลต่ออิทธิพลต่อรัฐบาลด้วยหากพรรคนั้นได้เป็นรัฐบาล) โดยประชาชนมีความเห็น 3 คำถาม ดังนี้ 

...

• ท่านคิดว่า “พรรคการเมืองถูกควบคุม โดยกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคหรือไม่?” พบว่า    

• พรรคการเมืองทุกพรรคมีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค ในการควบคุมและกำหนดทิศทางนโยบายของพรรค 

• พรรคที่มีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคมากที่สุด คือ พรรคเพื่อไทย 94% รองลงมาคือ พรรคภูมิใจไทย 92.57%   

• พรรคที่มีผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคน้อยที่สุด คือ พรรคประชาชน 68.07% น้อยรองลงมาคือ พรรคประชาชาติ 81.14.%

• ท่านคิดว่า “รัฐบาลตัดสินใจ โดยถูกควบคุมจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหนือพรรคหรือไม่?” พบว่า 

• ประชาชน 55.94% เห็นด้วย และ 35.82% ไม่แน่ใจ เมื่อสอบถามประชาชนเพิ่มเติมในกลุ่มที่ตอบไม่แน่ใจ ประชาชนให้เหตุผลที่ตอบ เพราะการตัดสินใจของรัฐบาลยังมีปัจจัยด้านพรรคร่วมรัฐบาลที่จะมีส่วนร่วมตัดสินใจในประเด็นต่างๆ ร่วมด้วย 

• จากข้อ 2 “ท่านไว้วางใจรัฐบาลในจะทำสิ่งที่ถูกต้อง/เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศหรือไม่?” พบว่า 

• ประชาชน 69.32% ไม่ไว้วางใจ 

จากผล ไอเอฟดีโพล สะท้อนให้เห็นถึง “ความไม่ไว้วางใจของประชาชนต่อรัฐบาลและพรรคการเมือง” โดยประชาชนจำนวนไม่น้อยที่มีมุมมองต่อ สส. ว่า ยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนในการเชื่อมโยงความต้องการของประชาชนไปสู่การกำหนดนโยบายและขับเคลื่อนให้เกิดผลในเชิงปฏิบัติ แต่พรรคกลับถูกขับเคลื่อนโดย “ผู้ที่มีอิทธิพลเหนือพรรค หรือมือที่มองไม่เห็น” ที่เป็นผู้กำหนดทิศทาง นโยบาย และตัดสินใจเรื่องสำคัญของพรรค ซึ่งหากพรรคที่ผู้ที่มีอิทธิพลเหนือพรรคนั้นเป็นรัฐบาล จะส่งผลต่อเนื่องถึงการตัดสินใจของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  

หากประชาชนไม่ไว้วางใจในพรรคการเมืองและ/หรือรัฐบาล จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองที่อาจส่งผลให้ประชาชนไม่สนใจ ไม่อยากยุ่งทางการเมือง จนอาจไม่อยากไปเลือกตั้ง และยังส่งผลให้ประชาชนหมดหวังกับรัฐบาลและพรรคการเมือง 

ดังนั้นการสร้างความไว้วางใจของประชาชนต่อภาคการเมือง จำเป็นต้องเริ่มจากพรรคการเมืองที่ต้องมีและยึดมั่นในอุดมการณ์พรรค มีจุดยืนชัดเจน มีนโยบายที่มุ่งทำประโยชน์เพื่อประเทศ รวมถึงการพัฒนาความเป็นสถาบันทางการเมืองที่คณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรคได้ทำหน้าที่กำหนดทิศทางและนโยบาย นำความเห็นประชาชนไปทำให้เกิดผลขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ประชาชนมีส่วนร่วม และสานต่ออุดมการณ์พรรคในระยะยาว จนทำให้ภาคการเมืองเข้มแข็ง มีส่วนนำพาพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า 

ลักษณะทางประชากรและภูมิภาค  

• เพศ : เพศชาย (48.75%) เพศหญิง (48.33%) และเพศอื่นๆ (2.92%)

• อายุ : อายุ 18-25 ปี (15.55%) อายุ 26-35 ปี (20.72%)  อายุ 36-45 ปี (23.43%) อายุ 46-59 ปี (23.99%) และอายุ 60 ปีขึ้นไป (16.31%)

• อาชีพ : ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ (7.80%) พนักงาน/ลูกจ้างเอกชน (17.71%) ประกอบธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย (26.95%) ช่วยธุรกิจ/งานครอบครัว (4.67%) รับจ้างทั่วไป (18.16%) เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณ (11.61%) 7.26% เป็นนักเรียน/นักศึกษา ว่างงาน (รอสมัครงาน) (5.28%) และมีอาชีพอื่นๆ ได้แก่ สมัครใจที่จะว่างงาน ทุพพลภาพ (0.56%)        

• ระดับการศึกษา : การศึกษาระดับประถม/ต่ำกว่า ((17.91%) มัธยมศึกษา/ปวช. (34.37%) อนุปริญญา/ปวส. (28.94%) ปริญญาตรี (17.11%) และสูงกว่าปริญญาตรี (1.67%)

• ภูมิภาค : กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (14.07%) ภาคเหนือ (18.23%) ภาคใต้ (13.67%) ภาคกลางและภาคตะวันตก (14.71%) ภาคตะวันออก (7.91%) และตะวันออกเฉียงเหนือ (31.41%).

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

รวมพลังดันไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในงาน GC Sustainable Living Symposium 2024  

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จัดงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN ...

GC ดีเดย์! ขายเชื้อเพลิง SAF ม.ค.68 กำลังผลิตเบื้องต้น 5 แสนลิตรต่อวัน

นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ ...

มติสภานโยบายการอุดมศึกษาฯ พัฒนาประเทศสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ณ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภ...

อุปกรณ์ล่าไก่! รู้จัก 'realme 13 Series' มือถือสำหรับแฟนเกม PUBG MOBILE

ปังไม่หยุด! ล่าสุด realme เปิดตัว realme 13 Series สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดจากตระกูล Number Series ในประเ...