กลุ่มหุ้นแววกำไรดี Q3/67 อาหาร-นิคม-ไอซีที-ขนส่ง-ค้าปลีก-รพ.

"ตลาดหุ้นไทย"มีภาพการฟื้นตัวชัดเจนหลังผ่านช่วงประกาศผลดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนงบไตรมาส 2 และแม้เหตุผลเชิงบวกสำคัญของบรรยากาศการลงทุนในขณะนี้มาจากสถานการณ์การเมืองที่ผ่อนคลายลงหลังได้นายกฯ คนใหม่ไปแล้ว แต่ในมุมของพื้นฐานก็มีบางกลุ่มหุ้นทำผลงานได้ดีขึ้นสอดรับกับราคาหุ้นที่บวก สร้างความคาดหวังว่าในไตรมาสต่อไปจะดีขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง เปิดเผยว่า ภาพรวมกำไรครึ่งปีแรก 2567 ที่ออกมา คิดเป็นแค่ 51% ของทั้งปี ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีช่วงก่อน Covid-19 ที่ 54% สะท้อน Downside ของกำไร 

โดยสัดส่วนกำไรที่ออกมาน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มที่โดนปรับลดประมาณการณ์กำไรอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ปิโตรฯ, สื่อ รับเหมาก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง 

ในขณะที่กลุ่มที่ปรับขึ้น ได้แก่ กลุ่มอาหาร และ ICT กลุ่มที่ยังเห็นการปรับกำไรลงต่อ เช่น กลุ่มปิโตร วัสดุก่อสร้าง 

โดยปรับลด SET IndexTarget ปลายปีเหลือ 1394 จุด (จาก 1466 จุด ) ปรับ EPS ลงเหลือ 89 (จาก 92) เติบโตราว 16% (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 91.8) อิง PER ที่ 15.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 0.5SD สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจช่วง late cycle
 

ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2567 ภาพรวมน่าจะยังเติบโตต่อได้ 3% YoY และ 5% QoQ (ค่อนข้างทรงตัว) มาจากราคาเนื้อสัตว์ทั้งในและต่างประเทศ, ฐานต่ำสำหรับกลุ่มปิโตรฯ และวัสดุก่อสร้าง, traffic ที่เพิ่มขึ้นทั้ง air และ ground, รวมถึงการบริโภคในประเทศ

กลุ่มที่คาดจะยังโต 

กลุ่มที่คาดจะยังโตดี YoY หลักๆ ได้แก่ กลุ่มเนื้อสัตว์ (ราคาเนื้อสัตว์หมูไก่ QTD เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยเฉพาะหมูจีน หมูเวียดนาม) และกลุ่มอาหารสัตว์ (อุปสงค์ยังดี), กลุ่มนิคม (ราคาที่ดินสูงกว่าปีที่แล้ว 10-20% แม้ยอดโอนที่ดินทรงตัว), กลุ่ม ICT (ARPU ยังเพิ่มต่อ), กลุ่มขนส่ง (traffic ที่เพิ่มขึ้น), กลุ่มค้าปลีก (SSSG ยังบวกสำหรับสินค้าจำเป็น และกลุ่มสินค้า IT กลับมาจาก replacement demand ของ AI smartphone), กลุ่ม รพ. (ที่รับผู้ป่วยต่างชาติ)

กลุ่มที่คาดจะยังอ่อนแอ

กลุ่มที่คาดจะยังอ่อนแอ และ/หรือมี downside ได้แก่ กลุ่มปิโตรฯ, อสังหาฯ, ยานยนต์ (demand ยังอ่อนแอ) และกลุ่มการเงิน (ยังมีส่วนที่กังวลความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์/หนี้เสีย)

อีกทั้งมอง 5 บริษัท ที่มีโอกาสปรับประมาณกำไรขึ้น

CPAXT/CPALL (ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นบริโภคภาครัฐไม่ว่าจะออกมาเป็นรูปแบบไหน)

WHA (ราคาที่ดินโต 10-20% YoY คาดหนุนกำไรต่อ, มีโอกาสปรับกำไรขึ้นอีก 10-15% จากดีลที่อาจจะปิดได้ใน 3Q24)

BH (มี upside จากผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะคูเวต, กำไร 2H24 เป็น high season)

CBG (market share เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง)
 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...