เจาะหมากรุก ‘เอ็กโซติคฟู้ด’ ทวงคืนซอสศรีราชาแบรนด์ไทย สู่ผู้นำในโลก

สมรภูมิซอสปรุงรสในประเทศไทยมีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาท มีแบรนด์ใหญ่จำนวนหลายสิบแบรนด์รุกทำตลาด ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ส่วนตลาดโลกซอสปรุงรสมีมูลค่าประมาณ 50,000 จนถึงนับแสนล้านบาท ซึ่งตลาดมีทิศทางขยายตัว ทำให้แบรนด์รายใหญ่ของประเทศไทย หันมารุกทำตลาดซอสปรุงรสอย่างจริงจัง ทั้งแบรนด์ เอ็มเคสุกี้ เร่งส่งซอสไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศ

อีกทั้งยังมีบิ๊กมูฟธุรกิจใหญ่ของประเทศไทยกับ “เอ็นอาร์เอฟ” ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรสอาหาร ซอส อาหารสำเร็จรูป อาหารโปรจีนจากพืช (แพลนต์เบส) อาหารสัตว์รายใหญ่ของไทย และ “สยาม เฮลท์ กรุ๊ป” เจ้าของแบรนด์เดนทิสเต้ สมูท อี ร่วมทุนครั้งสำคัญลุยตลาดซอสพริกศรีราชา ดันแบรนด์ไทย “โอชา” สู่ตลาดโลก เพื่อมุ่งเป้าหมายชิงเบอร์หนึ่ง ตั้ง “ตราไก่” จาก “ฮุย ฟง ฟู้ดส์” จากเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ไทย ที่ทำตลาดซอสศรีราชากับแบรนด์ ห่านบิน ได้วางกลยุทธ์ก้าวสู่แบรนด์อันดับต้นๆ ในโลกเช่นกัน 

จิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติก ฟู้ด จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและทำตลาดซอสปรุงรส และซอสศรีราชา ภายใต้แบรนด์ ห่านบิน กล่าวว่า ในปี 2567 ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอตัวลงและภาคเอกชนต่างระมัดระวังในการขยายธุรกิจ แต่นโยบายของบริษัทได้วางแผนเร่งขยายตลาดไปในต่างประเทศอย่างเข้มข้น โดยมุ่งตลาดหลักในยุโรปและเอเชีย ที่บริษัทได้ทำตลาดมายาวนาน ผ่านการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าและใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหัวหอกเจาะกลุ่มลูกค้า

แนวทางการสื่อสารได้มุ่งนำเสนอการเป็นแบรนด์ไทย และการเป็นต้นตำรับของผู้ผลิตซอสศรีราชาในตลาดโลก เพื่อร่วมสร้างแบรนด์สู่กลุ่มเป้าหมายและสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ พร้อมการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ โดยมีซอสศรีราชา ภายใต้แบรนด์ ห่านบิน (FLYING GOOSE) เป็นแบรนด์หลักในเพิ่มกลุ่มลูกค้า 

อีกแนวทางมีแผนขยายสินค้าซอสรสชาติใหม่รวมประมาณ 5-8 รายการ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่กลุ่มลูกค้า จากในปัจจุบันมีซอส ที่ทำตลาดรวม 40 รายการ ทั้งนี้บริษัทประเมินว่า จากการมุ่งรุกทำตลาดอย่างเข้มข้นในทุกปี และขยายช่องทางใหม่ จะทำให้แบรนด์ ซอสศรีราชา สร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทย จากที่ผ่านมา หลายคนอาจเข้าใจว่า เป็นแบรนด์จากเวียดนาม

รวมถึงได้วางเป้าหมายว่า ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า จะสร้างแบรนด์ ซอสพริกศรีราชา ภายใต้ ห่านบิน จากประเทศไทย ก้าวสู่แบรนด์อันดับต้นๆ ในโลก 

“การนำแบรนด์ไทย ซอสศรีราชา จากประเทศไทย ไปสู่อันดับต้นๆ ในโลก คือ การสร้างแบรนด์ทำให้ทุกคนรับรู้ว่ามาจากประเทศไทย ควบคู่กับการเพิ่มยอดขายในระยะยาว” 

นอกจากนี้ เพื่อรองรับการเร่งขยายตลาดใหม่ๆ ไปสู่ต่างประเทศ ทำให้บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ 200 ล้านบาท เพื่อร่วมขยายกำลังการผลิตสินค้าในโรงงานที่ศรีราชา รองรับการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568  ทั้งหมดประเมินว่าจะผลักดันยอดขายของบริษัทในปีต่อไปเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1,000 ล้านบาท 

สำหรับผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา สร้างผลประกอบการเติบโตใกล้เคียง 80% มาจากการปรับแผนธุรกิจและการเร่งขยายตลาดที่มีศักยภาพ สอดคล้องกับช่วงไตรมาสสองที่ขยายตัวสองหลักเช่นกัน 

ทั้งนี้ประเมินว่า ในสิ้นปี 2567 จะสร้างผลประกอบการเติบโต 20% จากปีก่อน ที่สร้างผลประกอบการมีรายได้รวม 2,500 ล้านบาท โดยบริษัทเน้นส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ มีการทำตลาดในประเทศผ่านออนไลน์ และช่องทางดิวตี้ฟรีในสนามบิน 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ