ซีอีโอ 'ลีวายส์' เร่งกลยุทธ์ค้าปลีกแบบขายตรง มุ่งแบรนด์ไลฟ์สไตล์เสื้อผ้า

เจาะสมรภูมิแฟชั่นในตลาดโลก เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และแข่งขันดุเดือด การยึดหัวหาดเป็นผู้นำในธุรกิจจึงเป็นเรื่องไม่ง่าย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลก อยู่ในช่วงซบเซาลงอย่างชัดเจน สำหรับ “ลีวายส์” แบรนด์ที่มีเส้นทางประวัติศาสตร์ธุรกิจมา170 ปีแล้ว มุ่งกลยุทธ์สร้างแบรนด์เติบโตในทุกน่านน้ำ รวมถึงประเทศไทย ตลาดศักยภาพแห่งภูมิภาคอาเซียน

มิเชลล์ แกสส์ ประธานบริหารและ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีวาย สเตราส์ แอนด์ โค (Levi Strauss & Co.) กล่าวกับ กรุงเทพธุรกิจ ว่า ในปีนี้เป็นห้วงเวลาสำคัญของ แบรนด์ลีวายส์ (Levi’s(R)) ที่กำลังเข้าสู่บทใหม่ของแบรนด์ พร้อมมุ่งลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างผลกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืน ก้าวสู่การเป็นบริษัทมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากมูลค่ากว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน

“ในฐานะซีอีโอ เรามุ่งรักษาตำนานที่คุณค่าของการเป็นแบรนด์ที่อยู่มายาวนาน 170 ปี พร้อมมุ่งยกระดับแบรนด์และธุรกิจ ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญที่ก้าวไปสู่การเป็นผู้นำการค้าปลีกแบบขายตรงสู่ผู้บริโภค ผสมผสานเป้าหมายด้านการเงิน วัฒนธรรม และคุณค่า”

กลยุทธ์สร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว ได้วางแนวทางสำคัญคือสู่การเป็นผู้นำการค้าปลีกแบบขายตรงสู่ผู้บริโภค หรือ Direct-to-customer (DTC) ผ่าน 3 แนวทางได้แก่ การลงทุนเปิดร้านค้าใหม่ ซึ่งมีแผนเปิดร้านค้าจำนวนมากทั่วโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า  ต่อมาคือการเสริมสร้างพอร์ตโฟลิโอให้แข็งแกร่ง พร้อมให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าผู้หญิงและเสื้อผ้าตัวบนเป็นพิเศษ รวมถึงการพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ร่วมสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ และราบรื่นให้กับลูกค้า 

มิเชลล์ แกสส์ ประธานบริหารและ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีวาย สเตราส์ แอนด์ โค (Levi Strauss & Co.)

ขณะที่การลงทุนเปิดสาขาใหม่ทั่วโลก ช่วงปี 2567 รวมประมาณ 100 แห่ง จากในปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าเดิมกว่า 3,200 ร้านค้าในช่วงปี 2566 สำหรับแผนขยายสินค้าใหม่ ลีวายส์ไม่ได้หยุดแค่อยู่ที่ "กางเกงยีนส์" แต่มุ่งมั่นพัฒนาสู่แบรนด์ไลฟ์สไตล์เสื้อผ้าระดับโลก ด้วยพอร์ตโฟลิโอที่ครอบคลุมหลายหมวดหมู่ พร้อมขยายสินค้าในกลุ่มลูกค้าผู้หญิง ซึ่งปัจจุบันมีกระโปรงเดนิม และเสื้อผ้าครบชุด พร้อมมุ่งยึดที่ลูกค้าและผู้บริโภคเป็นอันดับแรก 

“เราเน้นการเติบโตอย่างมั่งคง ผ่านการดำเนินธุรกิจด้วยหลักการอันแข็งแกร่ง เพื่อสร้างผลกระทบในวงกว้างต่อโลก ภายใต้ความมุ่งมั่นคือ เมื่อบริษัทมีการเติบโตจะต้องสร้างสรรค์คุณประโยชน์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำงาน ตามวิสัยทัศน์องค์กร ประกอบด้วย ความคิดริเริ่ม ความซื่อสัตย์ ความเห็นอกเห็นใจ ความกล้าหาญ และอีกหนึ่งคุณค่าในการบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นั้น ต้องมาจากการลงมือทำ ต้องมีความรับผิดชอบ และต้องทำงานเหมือนเราเป็นเจ้าของ"

มิเชลล์ เล่าต่อว่า การมาเยือนตลาดระหว่างประเทศครั้งแรก รวมถึงเดินทางมาประเทศไทย ทั้งด้านเทรนด์แฟชั่นในภูมิภาค ซึ่งในเอเชียโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และกรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นตลาดแฟชั่นชั้นนำสำหรับลีวายส์

พร้อมกันนี้ได้มีการจัดงานประชุมผู้จัดหาวัตถุดิบ (supplier) ระดับโลกที่กรุงเทพฯ รวมถึงได้ร่วมพบปะกับทีมงาน หุ้นส่วน และลูกค้า ตามแนวทางของบริษัทที่ความสำคัญกับการรับฟังทุกคน และการทำความเข้าใจตลาดที่ดำเนินธุรกิจอย่างลึกซึ้ง โดยบริษัทเป็นผู้นำค้าปลีกแบบขายตรงสู่ผู้บริโภค ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก พร้อมมุ่งมั่นขยายธุรกิจต่อไป ร่วมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้บริโภค และยกระดับประสบการณ์การค้าปลีก

สำหรับสาขาในไทย มีร้านค้าที่บริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินการเอง 150 สาขาทั่วประเทศไทย รวมถึงสาขาที่ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์” กลายเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

"แบรนด์ลีวายส์ ในมุมมองของผู้บริโภคคนไทยคือ เป็นแบรนด์ที่คนไทยรัก มาจากการให้ให้ความสำคัญกับลูกค้า ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ โดยมมุ่งรับฟังลูกค้าอย่างใกล้ชิด ใส่ใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการ"

จะเห็นว่าทุกประสบการณ์ของลูกค้าในประเทศไทย สะท้อนถึงตัวตนที่ดีที่สุดของแบรนด์และร้านค้า บริษัทพร้อมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับ ทั้งการออกแบบร้านค้าที่มีดีไซน์ที่น่าดึงดูด หรือการมีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาด หลากหลายประเภท รวมถึงไลน์ Performance Cool ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้นในไทย 

ภายในร้านยังมีความพิเศษอื่นๆ เช่น Tailor Shop ที่ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์เสื้อผ้าลีวายส์ในแบบฉบับของตนเอง และมีไลน์สินค้า เมดอิน เจแปน ผลิตภัณฑ์ Levi's® Vintage Collection รวมถึงกางเกงยีนส์รุ่น Levi’s 501® ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับแฟน ๆ ในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชื่นชอบการปรับแต่ง ความพรีเมียม และความเป็นผู้คิดริเริ่ม

ขณะที่ตลาดในอาเซียน  ลีวายส์ มีร้านค้ารวม 500 สาขา ซึ่งเป็นตลาดมีทิศทางขยายตัวเช่นกัน พร้อมมุ่งพัฒนาให้สอดคล้องกับยุคสมัย ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดเมื่อเข้ามาในร้าน ทั้งมุ่งเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เหมาะสมกับตลาดและความต้องการของลูกค้า ผ่านความร่วมมือสร้างสรรค์กิจกรรมด้านศิลปะ ดนตรี แฟชั่น และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในสังคมและอินฟลูเอ็นเซอร์ทั่วโลก

“เราเพิ่งเริ่มต้นในภูมิภาคเอเชีย และจะขยายการลงทุนต่อไป โดยมีโอกาสมากมายเมื่อมองถึงประชากรหนุ่มสาว เทรนด์ค้าปลีกและผู้บริโภค และ เครื่องชี้วัดความเสมอภาคที่แข็งแกร่งของแบรนด์ทั่วเอเชีย” 

อย่างไรก็ตาม หากประเมินภาพรวมธุรกิจในปี 2567 บริษัทสามารถสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แสดงถึงพลังของลีวายส์ และความก้าวหน้าด้านกลยุทธ์ที่ได้กำลังดำเนินการ กับการผลักดันธุรกิจการค้าปลีกแบบขายตรงสู่ผู้บริโภคทั่วโลกต่อไป 

“ตลาดและเทรนด์ผู้บริโภคในภูมิภาคนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้การใกล้ชิดกับผู้บริโภคเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับ ทำให้ต้องคอยรับฟังอย่างสม่ำเสมอ และต้องมั่นใจได้ว่าสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้"

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ