ดาวโจนส์ลบ 1,033.99 จุด หุ้นสหรัฐร่วงหนักรับความกลัวเศรษฐกิจถดถอย

ตลาดหุ้นสหรัฐวันจันทร์ที่ 5 ส.ค. ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปิดตลาดดิ่งลงหนักที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังจากนักลงทุนกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) และทำให้เกิดแรงเทขายหุ้นทั่วโลกตั้งแต่ฝั่งเอเชีย ยุโรป มาจนถึงสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา

ความปั่นป่วนในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ยังฉุดมูลค่าหุ้นกลุ่ม "7 นางฟ้า" (7 Magnificent) หายวับวันเดียวถึงเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นของการซื้อขาย

ขณะที่ดัชนีชี้วัดความผันผวน CBOE Volatility Index (VIX) หรือดัชนีชี้วัดความกลัวในตลาดหุ้นสหรัฐ พุ่งทะยานขึ้นจากราว 23 จุดเมื่อวันศุกร์ ไปแตะ 65.73 เมื่อคืนนี้ตอนเปิดตลาด สะท้อนความวิตกและผันผวนอย่างหนัก ก่อนที่จะปิดตลาดลดลงมาอยู่ที่ 38.57 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดตลาดที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี  

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones) ปิดลบ 1,033.99 จุด หรือ -2.6% ปิดที่ 38,703.27 จุด 
  • ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ปิดลบ 160.23 จุด หรือ -3% ปิดที่ 5,186.33 จุด 
  • ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต (Nasdaq) ปิดลบ 576.08 จุด หรือ -3.43% ปิดที่ 16,200.08 จุด


 

ตลาดกดดัน 'เฟด'

ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ร่วงลงในวันเดียวหนักที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2565 ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด และอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

นักลงทุนมองว่าความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐเกิดจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไป โดยล่าช้ากว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้ ขณะที่เฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี

"เฟดควรมีมาตรการรับมือกับสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอในเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยก็ไม่ควรที่จะเข้มงวดเกินไปในขณะนี้ โดยภารกิจของเฟดมีความชัดเจนมาก คือการทำให้การจ้างงานสูงสุด รวมทั้งรักษาเสถียรภาพของราคาและระบบการเงิน ดังนั้น ถ้าสถานการณ์โดยรวมเริ่มส่งสัญญาณย่ำแย่ลง เฟดก็ควรจะทำการแก้ไข" ออสแตน กูลสบี ประธานเฟดสาขาชิคาโกให้สัมภาษณ์กับ CNBC

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 86% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 14% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันดังกล่าว

7 หุ้นนางฟ้ามูลค่าหายเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นกลุ่ม "7 นางฟ้า" หรือหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงในวอลสตรีทนั้นถูกเทขายอย่างหนักเมื่อคืนจนส่งผลให้มาร์เก็ตแคปของกลุ่มหายไปเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเปิดตลาด ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงหลัง

หุ้น "อินวิเดีย" เปิดตลาดดิ่งลงหนักทันทีทำให้มูลค่าหายไปกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์  ก่อนจะดีดตัวกลับมาได้ในช่วงครึ่งหลังของการซื้อขาย รวมแล้วเมื่อคืนนี้ปิดลบไป 6.4% มูลค่าตลาดหายไปราว 1.68 แสนล้านดอลลาร์ 

ด้าน "แอปเปิ้ล" และ "อเมซอนดอตคอม" เปิดตลาดมาหายไป 2.24 แสนล้านดอลลาร์ และ 1.09 แสนล้านดอลลาร์ตามลำดับ ก่อนจะทยอยฟื้นตัวได้ในภายหลัง ปิดตลาดแอปเปิ้ลลบไป 4.8% มาร์เก็ตแคปหายไป 1.62 แสนล้านดอลลาร์ และอเมซอนปิดลบ 4.1% มูลค่าหายไป 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะที่หุ้นของ เมตา, ไมโครซอฟท์, อัลฟาเบท และเทสลา ก็ร่วงลงหนักเช่นกัน รวมแล้วมูลค่าตลาดของ 7 หุ้นนางฟ้าลดลงไปถึง 9.95 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงต้นของการซื้อขาย ก่อนจะดีดตัวกลับมาได้ในภายหลัง  

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...