4 สัญญาณบ่งบอกเศรษฐกิจสหรัฐ RECESSION

บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจหลายตัวในสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าความเสียงที่อาจจะเกิด RECESSION ในอนาคตมีสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขในตลาดแรงงาน, PMI , ตัวเลขที่แสดงถึงกำลังซื้อ ทั้งนี้รวมถึงดัชนีที่วัดจากหัวข้อข่าวที่กล่าวถึง RECESSION ก็ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่ UK และญี่ปุ่น เข้าสู่TECHNICAL RECESSION ในช่วง2H66 ที่ผ่านมา ภาวะดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลกให้ปรับตัวลดลง ซึ่งรวมถึง SET INDEX ก็น่าจะได้รับแรงกดดันเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมหนึ่ง เรามองเห็นเครื่องมือในการที่จะต่อต้านการเกิด RECESSION ที่มีความพร้อมมากเช่นกัน ซึ่งได้แก่ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ FED ที่ยังสูงถึง 5.50% เป็นไปได้ว่าอาจเห็นการปรับลดดอกเบี้ยที่มากกว่า 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่เริ่มมีการคาดหมายว่า การปรับลดดอกเบี้ยบางครั้งอาจอยู่ที่ระดับ 0.5% ประเมินว่า SET INDEX น่าจะผันผวน จากความกังวลเรื่อง RECESSION ที่กลับมา วันนี้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1300 - 1320 จุด หุ้น TOP PICK เลือก BDMS, BEM และ CPN
 

ทั้งนี้กระแสความกังวลเศรษฐกิจ RECESSION กลับมาอีกครั้ง หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯส่งสัญญาณอ่อนแอต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุในเดือน ก.ค. 67 ส่วนหนึ่งคาดได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคน บวกกับมีคนกลับมาทำงานเยอะขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขต่างๆ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ไม่ว่าจะเป็น

  • การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ชะลอตัวลง 2 เดือนติดต่อกันและต่ำสุดในรอบ 31 เดือน
  • อัตราการว่างงาน สูงสุดในรอบ 33 เดือน โดยสัญญาณจาก SAHMRULE เตือนว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 0.5% จากจุดต่ำสุดในรอบ 12 เดือน ซึ่งจากสถิติมีความแม่นยำสูงถึง 100% ในการทำนาย RECESSION
  • ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง YOY ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 24 เดือน 

นอกจากนี้ 4 สัญญาณบ่งบอกเศรษฐกิจ RECESSION ใน US (เกณฑ์ของ NBER) ยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง เฉพาะอย่างยิ่งยอดค้าปลีก และการจ้างงาน ซึ่งหากภาคส่วน ต่างๆ เข้าสู่ภาวะหดตัว (GROWTH < 0%) อาจมีความเสี่ยงต่อเกิดเศรษฐกิจถดถอย


ประเด็นดังกล่าวกดดันสินทรัพย์ต่างๆ ร่วงลงหนัก ทำให้ศุกร์ที่ผ่านมายังคงเห็นภาพตลาดหุ้นโลกพากันดิ่งต่อเนื่อง โดยในฝั่งสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงราว -1.5% ถึง -2.4% ส่วนฝั่งยุโรปปิดตัวในแดนลบราว -1.3% ถึง -2.7% ขณะที่ BOND YIELD สหรัฐอายุ 2Y ร่วงลงเร็วราว 28 BPS. (MTD) สู่ 3.88% ซึ่งใกล้นำหน้าอายุ10Y ที่ระดับ 3.79% ทำให้ INVERTED YIELD CURVE ล่าสุด -0.08%

ขณะเดียวกันความกังวล DEMAND ชะลอตัว ยังสร้างราคาน้ำมันดิบโลกร่วงลงราว 3% แต่อย่างไรก็ตามความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ยังมีโอกาสผลักให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นได้ ซึ่งต้องติดตาสถานการรือย่างใกล้ชิด

จากความกังวลเศรษฐกิจ RECESSION ได้สร้างแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงผันผวนในช่วงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม FED ยังมีเครื่องมือสำรองในการต่อต้านกับ RECESSION คือ การปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับสูง 
 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...