เจาะกลยุทธ์ทวงเบอร์หนึ่งแบรนด์ไทย ‘ดุสิตธานี’ ฝ่าวงล้อมเชนโรงแรมต่างชาติ

สมรภูมิธุรกิจโรงแรมไทยเผชิญการแข่งขันอันท้าทาย นักลงทุนต่างผนึกเชนโรงแรมต่างประเทศนำแบรนด์ดังเข้ามาขยายธุรกิจ เปิดโรงแรมใหม่ทั่วหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างคึกคัก นับเป็นโจทย์ใหญ่ของ “กลุ่มดุสิตธานี” เชนโรงแรมสัญชาติไทย เจ้าของโรงแรมระดับตำนาน “ดุสิตธานี กรุงเทพ” บนไพร์มโลเคชัน หัวมุมถนนสีลม-พระราม 4 หลังยืนหยัดครองใจลูกค้าทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ รองรับแขกคนดังระดับโลกมายาวนานกว่า 50 ปี

กระทั่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมาถึง! โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ประกาศปิดปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อเดือนม.ค.2562 พัฒนาโฉมใหม่สู่โรงแรมระดับแฟลกชิป รับโลกการท่องเที่ยวยุคใหม่ ล่าสุดกลุ่มดุสิตธานีเคาะฤกษ์เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 27 ก.ย.2567 พร้อมกลับมาเป็นเสาหลักในการสร้างรายได้แก่กลุ่มดุสิตธานี ซึ่งก่อนตัดสินใจรื้อสร้างใหม่ โรงแรมแห่งนี้เคยสร้างรายได้ปีละประมาณ 800 ล้านบาท

ประกอบกับช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ต้องปิดให้บริการชั่วคราว ทำเลโดยรอบมีโรงแรมแบรนด์หรูเชนต่างประเทศเข้ามาเปิดใหม่ต่อเนื่อง เช่น โรงแรมโรสวูด กรุงเทพ, โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพ, โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด กรุงเทพ และอื่นๆ ร่วมวงช่วงชิงตลาด มุมมองของ “ชนินทธ์ โทณวณิก” รองประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า การกลับมาของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ มาจากการมองหลักใหญ่ “ต้องมีแบรนด์ของคนไทยสู้กับต่างประเทศ” และหวังว่าโครงการนี้จะเป็น “แฟลกชิป” ของกลุ่มดุสิตธานี รวมถึงกลุ่มธุรกิจโรงแรมไทยในการสู้กับแบรนด์โรงแรมเชนต่างประเทศ

ดึงทัวริสต์ทั่วโลก ทวงคืนเบอร์หนึ่งไทย

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ฉายภาพธุรกิจโรงแรมว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนหลายด้าน และหลายคนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ กลุ่มดุสิตธานี ยังเดินหน้าเปิดโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ วันที่ 27 ก.ย.67 นี้ ตามแผนงาน 

“เรามั่นใจจากการเตรียมความพร้อมมายาวนาน ทั้งการวางกลยุทธ์ด้านการตลาดดึงลูกค้า และนักท่องเที่ยวทั่วโลก การจัดโรดโชว์ในงานท่องเที่ยวสำคัญในหลายประเทศทั่วโลก ร่วมสร้างการรับรู้ให้กลุ่มเป้าหมาย”

พร้อมทำกิจกรรมกับกลุ่มลูกค้าสมาชิกของโรงแรมดุสิตธานีที่เคยเข้ามาใช้บริการทั้งจากประเทศไทย ตลาดในภูมิภาคเอเชีย และยุโรป มีตลาดหลัก อาทิ ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ จีน และเกาหลีใต้ เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าประจำให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง

การปรับโฉมโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ใกล้เสร็จสมบูรณ์ในรูปลักษณ์ใหม่ภายใต้แนวคิด An Icon Reimagined หรือ ปรับโฉมสู่การกลับมาของหมุดหมายกรุงเทพฯ ตอกย้ำการเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่เป็นไอคอนิก และเป็นตำนานโรงแรมของไทย

จองห้องจัดเลี้ยงยาวข้ามปี

ทั้งนี้ จากการเปิดให้ลูกค้าจองห้องพักล่วงหน้า ตั้งแต่เดือนพ.ค. ในราคาพิเศษ มีการตอบรับที่ดี สิ่งที่สร้างความน่าสนใจมากสุดคือ “ห้องจัดงานเลี้ยง” มีทั้งห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม และในสวน พื้นที่รวมประมาณ 5,000 ตร.ม. ซึ่งได้ออกแบบใหม่และติดกระจกใส มองเห็นวิวจากถนนด้านนอกได้ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าจองยาวจนถึงกลางปี 2568 โดยเฉพาะวันที่มีฤกษ์มงคลสำคัญ จองเต็ม! เข้ามาจัดงานแต่งงาน และจัดงานเลี้ยงต่างๆ

“เรากังวลว่าภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สดใส อาจทำให้ลูกค้าชะลอการจัดงานเลี้ยง แต่พบว่ามียอดจองห้องจัดเลี้ยงในวันที่มีฤกษ์มงคล ยาวไปจนถึงกลางปี 2568" 

สำหรับ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ มีห้องพักรวม 257 ห้อง จากเดิม 517 ห้อง ในเชิงจำนวนห้องพักจึงถือว่ามีไม่มาก เมื่อเทียบโรงแรมแห่งอื่น โดยมีความโดดเด่นที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าคือ การออกแบบ ซึ่งได้ Reimagined หรือ การตีความอัตลักษณ์ดุสิตธานีภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ ผ่านการออกแบบใหม่ที่เก็บรักษาความเป็นดุสิตธานีให้ปรากฏในส่วนต่างๆ ของโรงแรม พร้อมคงกลิ่นอายดั้งเดิม และจิตวิญญาณของดุสิตธานีใน 50 ปีก่อนไว้ เช่น ยอดเสาสีทอง น้ำตก 9 ชั้น สวนเมืองร้อน งานจิตรกรรมไทย ที่อนุรักษ์ไว้เพื่อตอบโจทย์นักเดินทางยุคใหม่

ดีไซน์เด่นหนุนทำราคาห้องพัก

ไฮไลต์สำคัญของดีไซน์ ได้ร่วมมือกับ André Fu Studio สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในของเอเชีย และสตูดิโอออกแบบภายในของไทย P49 DEESIGN AND ASSOCIATES ดูแลชั้นพิเศษที่เรียกว่า Heritage Floor 

ทั้งนี้โรงแรมมีโครงสร้างอาคารสูงสีทอง รวม 39 ชั้น จากเดิม 22 ชั้น โดยการออกแบบใหม่ ประกอบไปด้วยห้องพักตั้งแต่ห้องดีลักซ์ จนถึงห้องสวีท พื้นที่ห้องพักมาตรฐานเริ่มต้น 50 ตร.ม. ทุกห้องเห็นวิวสวนลุมพินี ทั้งหมดจากดีไซน์ใหม่ สามารถปรับราคาห้องพักได้ ราคาประมาณ 15,000 บาทต่อคืน

เรื่องราวบทใหม่ในฐานะหมุดหมายกรุงเทพฯ ยังมีไฮไลต์ รูฟท็อปบาร์ และสกายล็อบบี้ สามารถเห็นวิวเมืองเด่นชัด ทั้งมีสวนสาธารณะลอยฟ้า พื้นที่ 7 ไร่ บนศูนย์การค้า ร่วมสร้างอากาศที่ดี และธรรมชาติให้แก่ผู้คนในเมือง

“ณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ” กรรมการผู้จัดการ ดุสิต เอสเตท และรองประธานฝ่ายกลยุทธ์การออกแบบ และงานครีเอทีฟ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวย้ำว่า ได้วางแผนให้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เป็น โรงแรมแฟลกชิป หรือต้นแบบของโรงแรมกลุ่มดุสิตธานีทั่วโลก จึงทำให้การออกแบบโรงแรมจึงต้องเข้ากับเทรนด์การใช้งานของนักท่องเที่ยว นักเดินทางยุคปัจจุบัน และอนาคต

ได้เปรียบโครงการมิกซ์ยูสดึงลูกค้าหลากหลาย

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป และมีโรงแรมใหม่เปิดให้บริการโดยรอบ จุดแตกต่างของโรงแรมดุสิตธานีคือ การเป็นส่วนหนึ่งของ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” โครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมผสาน (มิกซ์ยูส) มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท การร่วมทุนของดุสิตธานี และเซ็นทรัลพัฒนา 

ใน ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ยังมีโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ ทั้งดุสิตเรสซิเดนเซส และ ดุสิตพาร์คไซด์ อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า “เซ็นทรัล พาร์ค” ทุกโครงการยืนยันเปิดตามไทม์ไลน์ภายในปี 2568

พร้อมกันนี้ ได้ออกแบบการเดินทางที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดินเข้าถึงศูนย์การค้า ย้ำการเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ดึงดูดผู้คนหลากหลายกลุ่มทั้งไทย และทั่วโลกมาเยือน

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ