ส่องสมรภูมิตลาดกาแฟ แบรนด์ใหญ่รุกหนัก 'นมตรามะลิ' ขยายสู่แฟรนไชส์คาเฟ่

ธุรกิจกาแฟในประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท มีการขยายตัว 4% แบ่งเป็น กาแฟสดหรือกาแฟนอกบ้าน ที่เป็นร้านคาเฟ่ต่างๆ รวมมูลค่า 27,000 ล้านบาท กาแฟปรุงสำเร็จ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และกาแฟพร้อมดื่มหรือกระป๋อง (RTD) ประมาณ 14,000 ล้านบาท

สำหรับเทรนด์การดื่มกาแฟของคนไทย จากข้อมูลของ Statistica.com พบว่า อยู่ที่ประมาณ 300 แก้วต่อคนต่อปี ยังอยู่ในระดับน้อย เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ รวมถึงในกลุ่มพัฒนาแล้ว มีการดื่มกาแฟ มากกว่าไทยประมาณ 100 แก้วต่อคนต่อปี ซึ่งประเทศที่มีการดื่มกาแฟมากสุดในโลกคือ ฟินแลนด์ ประมาณ 1,310 แก้วต่อปี รองลงมา บรูไน ราว 1,300 แก้วต่อปี ประเทศในยุโรป ประมาณ 600 แก้วต่อคนต่อปี และฟิลิปปินส์ ประมาณ 500 คนต่อแก้วต่อปี 

จากแนวโน้มตลาดกาแฟที่มีทิศทางขยายตัว โดย “ณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์” นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย ให้มุมมองว่า เทรนด์ของกาแฟที่มาแรงและโตสูงมากกว่าตลาดคือ ภาพรวมอุตสาหกรรมกาแฟพิเศษ หรือ สเปเชียลตี้คอฟฟี่ (Specialty Coffee)  มีการขยายตัว 20%

ทั้งนี้ตลาดนี้มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง จากอัตราการดื่มของคนไทยที่อยู่ในระดับต่ำเฉลี่ยประมาณ 1.5 แก้วต่อวันคน ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงประเทศญี่ปุ่น มีอัตราการดื่มประมาณ 4-5 แก้วต่อวันต่อคน ทำให้มีโอกาสจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในระยะยาว

“เปรียบกับรสชาติของกาแฟพิเศษคือ เหมือนเราได้ทานอาหารที่อร่อย ลิ้นเราได้รับรสชาติอาหารที่ดีแล้ว ก็ไม่อยากไปทานอาหารอื่นๆ ที่ไม่อร่อยอีก”

อย่างไรก็ตาม จากเทรนด์กาแฟไทยที่มาแรง ทำให้บิ๊กแบรนด์ต่างๆ ของประเทศไทยหันมารุกตลาดกาแฟในหลากหลายโมเดลมากขึ้น สะท้อนได้จากงาน “Thailand Coffee Fest 2024”  แบรนด์ใหญ่เข้ามาขยายตลาดกาแฟเพิ่มมากขึ้น

นมตรามะลิรุกทำแฟรนไชส์คาเฟ่ครั้งแรก

แบรนด์นมข้นหวาน ตรามะลิ แบรนด์ไทยที่อยู่ในตลาดมายาวนานกว่า 60 ปีแล้ว ได้ขยายสู่การทำ แฟรนไชส์คาเฟ่กับชื่อ “มะลิคาเฟ่” เป็นครั้งแรก เพื่อเปิดให้แก่คนทั่วไปสนใจเข้ามาลงทุน เริ่มต้นตั้งแต่คีออส ในราคา 35,000 บาท ไปจนถึงโมเดลร้านค้าขนาดใหญ่ 1.50 แสนบาท

ความแตกต่างของแฟรนไชส์คาเฟ่คือ ลงทุนครั้งเดียว ไม่มีการเรียกเก็บค่าแฟรนไชส์ และค่าส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายรายเดือน ถือว่าเป็นการตอบโจทย์การลงทุนในยุคใหม่ ที่ผู้ประกอบการต้องพิจารณาปัจจัยรอบด้านก่อนใช้เงินลงทุนทุกครั้ง 

ทั้งนี้แบรนด์นมตรามะลิ จะร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ทางด้านวัตถุดิบของเครื่องดื่ม และกาแฟ ส่งให้แก่ร้านค้าที่ร่วมเข้ามาลงทุนแฟรนไชส์แทน

นับเป็นโมเดลแบบใหม่ในตลาดแฟรนไชส์ธุรกิจกาแฟ แตกต่างจากที่ผ่านมามีแบรนด์ใหญ่ ที่ครองตลาดร้านกาแฟ ต้องให้ผู้ลงทุนต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ และค่าแบรนด์ต่างๆ อยู่แล้ว

ไอศกรีมหมี สินค้าร่วมทดลองทำตลาด

สำหรับ บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ โฮลดิ้งส์ เบอร์ฮาด (เอฟแอนด์เอ็น) ที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมสเตอริไลซ์ “ตราหมี” ได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ นมตราหมี ที่เข้ามาร่วมสร้างสีสันในงานด้วยการทำ "ไอศกรีมหมี" ออกแบบเป็นรูปหมี มี 5 รสชาติ ซึ่งเป็นสินค้าที่เข้ามาทดลองทำตลาด

ทั้งนี้นอกจากนี้ นมตราหมีแล้ว บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ในเครือคือ คาร์เนชั่น ที่มีนมข้นหวาน เน้นเจาะตลาดเครื่องดื่มเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หากไปสำรวจตลาดนมข้นหวานของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดประมาณ 12,000 ล้านบาท และมีผู้นำตลาดคือ นมตรามะลิ  โดยการแตกพอร์ตโฟลิโอครั้งใหม่นี้ จึงเป็นการร่วมกระตุ้นตลาดคาเฟ่ในประเทศไทยให้คึกคักมากขึ้น และจะส่งผลต่อ โมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยอย่างไรต่อไป ต้องติดตาม!

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ