ปรับพอร์ตรับดอกเบี้ยขาลง

ผ่านครึ่งแรกของปี 2024 กันมาแล้ว ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีมากๆ สำหรับการลงทุนในหุ้น ตลาดหุ้นโลก (ดัชนี MSCI All Country World Index) ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 11% ในช่วง 6 เดือนแรก นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น หนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าและนโยบายการเงินที่ยังผ่อนคลาย สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนี NASDAQ ก็สร้างสถิติทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้านตลาดหุ้นจีนที่เคยตกลงแรงในช่วงปี 2021-2023 ปีนี้ก็ให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้ หนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สินทรัพย์ที่ราคายังไม่ขึ้นในปีนี้คือกลุ่มตราสารหนี้ที่กดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะลดดอกเบี้ยช้าและน้อยกว่าที่ตลาดประเมินไว้เมื่อช่วงต้นปี 

ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้มีโอกาสจะสร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้ ภายใต้สมมติฐานที่ว่าเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯ จะยังคงขยายตัวได้ต่อ แต่ในอัตราที่ชะลอลง หรือ Soft landing สังเกตุจากตัวเลขในตลาดแรงงานล่าสุดที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงและอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นไปที่ 4.1% นอกจากนั้น ดัชนี ISM ภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเดือนมิถุนายนก็อยู่ในโซนหดตัว โดยภาคบริการอยู่ในระดับต่ำที่สุดตั้งแต่ช่วงล็อกดาวน์ปี 2020 สะท้อนว่าภาคครัวเรือนลดค่าใช้จ่ายในสินค้าที่ไม่จำเป็นลง จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงประกอบกับเงินเฟ้อที่ทยอยปรับลดลง จึงเพิ่มโอกาสที่ FED จะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้ ด้านยุโรปก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกไปแล้วในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง 

อย่างก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังมีเหตุการณ์สำคัญที่ต้องจับตาคือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากการโต้วาที (Debate) ครั้งแรก ผลสำรวจหลายสำนักพบว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับคะแนนนิยมนำ นายโจ ไบเดน ทำให้มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์จะชนะและนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน ทั้งนโยบายในประเทศ ซึ่งรวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา การเคลื่อนย้ายแรงงาน และที่ตลาดให้ความสำคัญ คือนโยบายด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศจีน ที่คาดว่าจะมีการเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้า และอาจออกข้อบังคับเข้มงวดขึ้นเพื่อกีดกันการค้าจากจีน

ด้วยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวได้ในอัตราที่ชะลอลง และดอกเบี้ยมีทิศทางปรับลง จึงแนะนำลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยเน้นไปที่หุ้นเติบโตสูง (Growth stocks) โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่ทั้งรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากกระแสปัญญาประดิษฐ์ (A.I.) ที่มาแรงในปีนี้ แต่ด้วยระดับราคา (Valuation) ที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต จึงแนะนำกระจายลงทุนนอกสหรัฐฯ ด้วย เช่น หุ้นยุโรป โดยเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากดอกเบี้ยที่ปรับลดลง รวมถึงหุ้นเอเชียที่ภาพรวมเศรษฐกิจแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับประเทศเกิดใหม่ภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะหุ้นเวียดนามที่ปัจจัยพื้นฐานโดดเด่นเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทั้งในแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ กำไรบริษัทจดทะเบียน และระดับ Valuation ยังถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

อีกหนึ่งสินทรัพย์อย่างตราสารหนี้ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในครึ่งปีหลัง หลังจากปรับตัวลงในครึ่งปีแรก โดยจะได้ทั้งผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง และมีโอกาสได้ผลตอบแทนจากราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น หนุนจากการลดดอกเบี้ยของ FED ที่จะชัดเจนมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้ (อ้างอิงจาก FED Fund Futures) 

แม้ว่าภาวะโดยรวมจะเอื้อต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แต่ก็ยังคงมีความไม่แน่นอนทางการเมือง และประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจปะทุขึ้นมาอีกได้ ดังนั้นหัวใจสำคัญของการลงทุนในครึ่งปีหลังยังคงเป็นการกระจายความเสี่ยง โดยสัดส่วนใหญ่ของเงินลงทุนหรือราว 50-70% แนะนำลงทุนในกองทุนผสมแบบ Risk-based ที่แบ่งลงทุนทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ และค่าความผันผวน (VIX Index) โดยมีผู้จัดการกองทุนคอยจัดสรรเงินลงทุนโดยพิจารณาจากความเสี่ยงของแต่ละสินทรัพย์ ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลรอบด้าน เพื่อที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นได้เมื่อตลาดเป็นขาขึ้น และที่สำคัญคือสามารถลดผลขาดทุนได้เมื่อตลาดเป็นขาลงอีกด้วย

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...