ดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย แต่ S&P 500 ทำนิวไฮต่อ จับตาเงินเฟ้อ-ถ้อยแถลงพาวเวล

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ (8 ก.ค.) ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones) ลดลง 31.08 จุด หรือ -0.08% ปิดที่ 39,344.79 จุด 
  • ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) เพิ่มขึ้น 5.66 จุด หรือ +0.10% ปิดที่ 5,572.85 จุด 
  • ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต (Nasdaq) เพิ่มขึ้น 50.98 จุด หรือ +0.28% ปิดที่ 18,403.74 จุด 

ทั้งนี้ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 5 วันทำการติดต่อกัน และดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 4

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ (11 ก.ค.) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์ (12 ก.ค.) เพื่อประเมินความคืบหน้าในการควบคุมเงินเฟ้อของเฟด

รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์ด้านกลยุทธ์การลงทุนจากบริษัท Baird กล่าวว่า นักลงทุนมีความกังวลว่าหากเฟดประวิงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนานจนเกินไป ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานและทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยขณะนี้นักลงทุนหันมาจับตาพาวเวลซึ่งจะแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันนี้ (9 ก.ค.) และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ (10 ก.ค.)

นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 206,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 218,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.

เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 75% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 60% ในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้น 5 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มวัสดุปรับตัวขึ้น 0.72% และ 0.28% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 1.01% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 0.59%

หุ้นบริษัทผลิตชิปดีดตัวขึ้น โดยหุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้นเกือบ 2% หุ้นอินเทล ทะยานขึ้นกว่า 6% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) พุ่งขึ้น 4% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟีย พุ่งขึ้น 1.9%

นอกเหนือจากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐและถ้อยแถลงของนายพาวเวลแล้ว นักลงทุนยังจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ โดยบริษัทเป๊ปซี่โค และเดลต้า แอร์ไลน์ มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดีนี้ จากนั้นธนาคารรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...