ทางออกของ โค้ชฟุตบอลเมืองไทย...โดย กล้า ปีนเกลียว

สถิติผู้ฝึกสอนฟุตบอลในประเทศไทยที่จบหลักสูตรฟุตบอลจริงๆมีอยู่ในขณะนี้ 5 พันคน ขณะที่ญี่ปุ่นมี 5 หมื่นคน จากคำกล่าวของ บิ๊กหยิม นาย ยุทธนา หยิมการุณ นายกสมาคมผู้ฝึกสอนฟุตบอลฯคนใหม่ ปี 67 และอดีต อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

แต่ตัวเลขที่มีไม่มากเท่าญี่ปุ่นของบ้านเรา กลับประสพปัญหาที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น คือ โค้ชฟุตบอลบ้านเราเกินกว่าครึ่ง หรือส่วนใหญ่ ไม่มีงาน หรือ ตกงาน ต้องเดินแย่งงานกันให้ควั่ก

เอาแค่ง่ายๆ จบ โปรไลเซ่น ดีกรีชั้นสูงสุดในการประกอบอาชีพฟุตบอล ปัจจุบัน จบออกมาก็ตกงานไม่มีงานทำเช่นเดียวกัน คำตอบง่ายๆสำหรับเรื่องนี้คือ งานไม่พอกับคน หรือ คนมีมากกว่างานที่ให้ทำ นั่นเอง

ปัญหาของโปรไลเซ่นปัจจุบันกลายเป็นว่า ตำแหน่งสูงและเงินเดือนสูงปัจจุบันนี้ ดันไปชนตอเข้ากับ ตำแหน่งโค้ชระดับอินเตอร์ที่เทียบเท่ากัน

ประมาณว่า ค่าเหนื่อยก็พอๆกับระดับ นิชิโนะ , จอร์จินโญ่ , กาม่า อะไร ประมาณนี้เข้า บรรดาสโมสรฟุตบอลระดับสูง ก็มักจะเลือกผู้ฝึกสอนชาวต่างประเทศแทน ด้วย ความน่าเชื่อถือ ประสบการณ์ที่มีสูงกว่า

โปรไลเซ่น จบมา แค่จะขายลายเซ็นต์อย่างเดียวก็ไม่พอกิน และตอนนี้ ปริมาณที่จบมาก็เกิน 16 ทีมไทยลีกไปแล้วด้วย

...กลับมาที่เรื่อง ประเทศไทยมีโค้ชไม่มากนัก แต่ตำแหน่งงานยังไม่รองรับ ก็เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่ ตำแหน่งโค้ช ก็จะไปทำงานกับบรรดาสโมสรฟุตบอลต่างๆ

แน่นอนว่า สโมสรฟุตบอลในเมืองไทยนั่นมีหลักร้อย ไม่ไช่หลักพัน ซึ่งหาก โค้ชที่จบหลักสูตรมา มุ่งเน้นจะไปทางนี้ทางเดียว ก็ย่อมเป็นทางตัน และวิ่งงานแย่งงานเป็นเก้าอี้ดนตรีแบบทุกวันนี้ และคนไม่มีโอกาสก็ต้องไปทำมาหากินอาชีพอื่น เสียดายวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาเป็นอย่างยิ่ง

โอกาสนี้ จึงเขียนออกมาเพื่อให้แต่ละฝ่ายเห็นสภาพความเป็นจริง และร่วมกันหาทางออก
เปรียบเทียบตัวเลข ประเทศไทยมีโค้ช 5 พันคน แต่อยากไปบอลโลกเหมือนญี่ปุ่น ก็ยังขาดอีก 4.5 หมื่นคน หรือไอซ์แลนด์ทั้งประเทศมี 3 หมื่นคน

แต่หากผลิตออกมามากกว่านี้ ก็ไม่มีงานให้ทำ ความรู้ร่ำเรียนมาไม่ได้ประโยชน์ แต่ถ้าน้อยไป ความฝันสูงสุด ก็ยากจะเป็นจริง

โค้ชคือผู้สร้างนักบอล นักฟุตบอลเก่งมาจากผู้กสอนที่ถ่ายทอดดี มีความรู้ดี และเด็กๆพากเพียรเรียนรู้ มุมานะ มีความสามารถประกอบกัน

มีสมาคมผู้ฝึกสอนฟุตบอลฯเกิดขึ้นมา และแนวคิดของ นายกฯ ยุทธนา หยิมการุณ วางเป้าที่จะหางานให้โค้ช ทำศูนย์ฝึกฟุตบอล โรงเรียนฟุตบอลเพิ่มขึ้นมา บูรณการร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ นับเป็นเรื่องที่ดีมาก

แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือ แต่ละฝ่ายต่างคนต่างทำงาน ไม่มองเป้าหมายสูงสุดก็เท่านั้น
ยากจะไปให้ถึงฝั่งฝัน

โดยเฉพาะภาครัฐ ทั้ง กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการที่มี สพฐ , อาชีวะ , โรงเรียนกีฬาร่วมกับ โรงเรียนมัธยมต่างๆ ,อคาเดมี่ฟุตบอล ร่วมกับ สมาคมฟุตบอลฯที่จัดการแข่งขันรายการต่างๆ ระดับประเทศ ระดับนานาชาติ ต้องทำให้เป็นระบบ ทำให้เกิดขึ้นจริง
สร้างศูนย์ฝึกทั่วประเทศ หางานให้ผู้ฝึกสอนฟุตบอลให้มากขึ้น ให้ครอบคลุม มีรายได้ พอจะดูแลครอบครัวได้ และค่อยๆไต่ไปจุดสูงสุด ระดับสโมสรอาชีพ

แบบนี้ไม่แย่งงานกัน ไม่ตกงาน และความหวังไปฟุตบอลโลกก็จะใกล้ความเป็นจริงขึ้นมา ไม่ต้องไปจ้างศูนย์ฝึกฟุตบอลต่างประเทศเสียเงินเสียทองมากมายด้วย

แต่งานนี้งานช้าง หากจะพึ่งพาใครคนใดคนหนึ่งนั้นยาที่จะประสบผล งานนี้ ภาครัฐต้องช่วยจริงจัง สมาคมฟุตบอลฯที่มีความสามารถ และกันพาย คนละไม้ละมือ

ฟุตบอลโลก ก็มีทีท่าว่าจะมีความหวังขึ้นมา และ ประชาชนทั่วประเทศก็จะแซ่ซ้องคุณงามความดีนี้ไปตลอดกาล

กล้า ปีนเกลียว

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...