‘ยานยนต์‘ ไทยไม่ถึงทางตัน ’แบงก์ชาติ-ส.อ.ท.’ เห็นโอกาสฟื้นตัว

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันที่ชัดเจนว่าคงจะต้องเหนื่อยจากการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น รวมทั้งแนวโน้มของการปล่อยสินเชื่อรถยนต์น้อยลง ซึ่งสะท้อนวัฎจักรของสินเชื่อ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการปล่อยสินเชื่อไปมากแล้ว และเหตุผลหลักในปัจจุบันคือ เรื่องความเสี่ยงของผู้กู้ 

ทั้งนี้ แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเป็นส่วนสำคัญต่อภาคการผลิตและการส่งออกของประเทศไทย แต่ ธปท. มองว่าสถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมยานยนต์ คงจะไม่ส่งผลให้เกิดวิกฤติทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ และการเงิน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับผู้ว่า ธปท. เพราะประเทศไทยได้ผ่านวิกฤติต้มยำกุ้งมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่มคนมีเงิน แต่ส่งผลกระทบวงกว้างมายังประชาชนฐานรากด้วย และเกิดการปิดกิจการและการเลิกจ้างงานมากมายตามมา

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้จุดเริ่มของวิกฤติเศรษฐกิจมาจากปัญหาโควิดที่กระทบมาจนปัจจุบัน เนื่องจากเมื่อทั่วโลกต่างล็อกดาวน์ประเทศ ประชาชนส่วนมากที่ได้มีการซื้อรถเพื่อทำมาหากินก็ไม่มีงานไม่มีรายได้มาส่งงวดรถ ทำให้เกิดหนี้ครัวเรือนพุ่งกว่า 90% ของ GDP ประเทศ อีกทั้ง ดัชนีผลผลิต MPI ลดลงติดต่อกันมายาว 18 เดือน แม้จะกลับมาบวก 1 เดือนแต่ก็กลับมาติดลบอีกครั้งเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา

"ส.อ.ท. ยังหวังว่างบประมาณภาครัฐประจำปี 2567 ที่ออกมานี้ จะเข้ามาช่วยให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้มากยิ่งขึ้น และยังหวังว่างบประมาณปี 2568 จะไม่ล่าช้าเหมือนงบปี 2567 ซึ่งหากมีการกระจายงบประมาณทั่วถึง เชื่อว่าเศรษฐกิจในประเทศก็น่าจะดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีนี้ได้"     

ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ใช่ว่าจะแย่ซะทีเดียว จะเห็นว่ายอดขายรถไฮบริด 5 เดือนมีการเติบโตเกือบ 500% แต่ก็ยอมรับว่าจะต้องปรับเป้ากำลังการผลิตทั้งปีลง ซึ่งตรงนี้จะยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะจะต้องดูปริมาณการผลิตของค่ายรถที่ต้องผลิตชดเชยนโยบายอีวี 3.0 ด้วยว่าจะผลิตที่เท่าไหร่ ซึ่งล่าสุด BYD ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ก็ได้เปิดโรงงานอย่างเป็นทางการและตั้งเป้ายอดผลิตแล้ว อีกทั้ง ยังมีอีกหลายค่ายที่รับการส่งเสริมการลงทุนและพร้อมที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิต

"คงต้องจับตาทั้งเงินลงทุนภาครัฐ การลงทุน FDI ของนักลงทุนต่างประเทศ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปหารือและชักชวนมาลงทุนในไทย ซึ่งจุดนี้ก็เป็นจุดสำคัญว่า หากประเทศมีการลงทุนก็จะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น คนไทยมีรายได้ หนี้ครัวเรือนก็จะลดลง แต่คงต้องใช้เวลา 2-3 ปี ดังนั้น ยืนยันว่าไทยจะยังคงเป็นฐานการผลิตทั้งรถน้ำมันและรถอีวี" นายสุรพงษ์ กล่าว 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...