วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง รายงานภาคบริการเดือน มิ.ย. CH JP EU US

ส่วนภาพระยะสั้น ดัชนีฯ อยู่ระหว่างการสร้างรูปแบบว่าจะเป็น 1. รูปแบบกลับตัวเป็นขาขึ้น W-Shape เพื่อกลับไปที่ 1,325 จุด หรือ 2. รูปแบบขาลงต่อเนื่อง ไปที่แนวรับ 1,270/1,250 จุด โดยมีสัญญาณยืนยันจากการสามารถยืนเหนือ (หรือต่ำกว่า) ระดับต่ำสุดเดิม 1,281.87 จุด (Lowest วันที่ 19 มิ.ย.)

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

TH: คดียุบพรรคก้าวไกล: คาดศาลรัฐธรรมนูญนัดทั้งสองฝ่าย คือ กกต. และพรรคก้าวไกล มาเพื่อกำหนดจำนวนพยานในการไต่สวน ก่อนที่จะเริ่มไต่สวนในกำหนดนัดครั้งต่อไป อ้างอิงจากศาลฯนัดให้คู่กรณีเข้ามาตรวจพยานหลักฐาน วันอังคารที่ 9 ก.ค. ทั้งนี้ คาดการตัดสินของศาลฯ ต้องใช้เวลานาน และอาจเกิดขึ้นหลังจากเดือน ก.ค. ไปแล้ว

US FOMC Minute จับตารายละเอียดของผลประชุมเฟดครั้งที่ผ่านมา ต่อท่าทีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต

US Fed NY Williams (Voter) จับตามุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือปีนี้

ECB Forum ที่โปรตุเกส: จับตาสุนทรพจน์ของ President Lagarde ต่อท่าทีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของอีซีบี ในช่วงที่เหลือปีนี้ (โดยตลาดคาดว่ามีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้งในปีนี้)

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ:

รายงานภาคบริการ และภาครวม (Service PMI และ Composite PMI) เดือน มิ.ย. ของประเทศสำคัญ: JP (Jibun Bank) คาดลดลงเป็น 49.8/50 (Vs เดือน พ.ค. 53.8/52.6) CH (Caixin) คาดลดลงเป็น 53.4/53.6 (Vs เดือน พ.ค. 54.0/54.1) และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือปีนี้ EU (HCOB) คาดลดลงเป็น 52.6/50.8 (Vs เดือน พ.ค. 53.2/52.2) US (S&P GLobal) คาดปรับสูงขึ้นเป็น 55.1/54.6 (Vs เดือน พ.ค. 54.8/54.5) แต่ US (ISM) คาดภาคบริการลดลงเป็น 52.5 (Vs เดือน พ.ค. 53.8) ทั้งนี้ หากออกมาดีกว่าคาด จะเป็นปัจจัยบวกต่อการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และต่อการค้าระหว่างประเทศ (ภาคส่งออก และภาคท่องเที่ยว)

US: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ Trade Balance เดือน พ.ค. คาดขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น –USD76bn (Vs เดือน เม.ย. -USD74.6bn) ADP Employment Change เดือน มิ.ย. คาดจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็น +170k (Vs เดือน พ.ค. +152k) Factory Orders เดือน พ.ค. คาด +0.3% MoM (Vs เดือน เม.ย. +0.7% MoM)

EU: PPI เดือน พ.ค. Consensus คาด 0% MoM, -3.9% YoY (Vs เดือน เม.ย. -1% MoM, -5.7% YoY) สะท้อนแรงกดดันต่อเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้อีซีบีมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือปีนี้

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ BH PSL TFG

Strategic daily picks

BH    ปิด 246.00 บาท/แนวรับ 238.00 บาท แนวต้าน 254.00 บาท
บริษัทคาดผลการดำเนินงาน 2Q24 จะดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากในปี 2024 วันหยุดเดือนรอมฏอนสิ้นสุดใน 1Q จากปกติจะอยู่ในช่วง 2Q และหมดวันหยุดสงกรานต์ ทำให้คาดการณ์ผู้ป่วยจะกลับมารักษาตัวตามปกติ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มผู้ป่วย (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) ยังหนาแน่นทั้งชาวไทยและต่างชาติ ส่วนผลการดำเนินงานทั้งปี 2024 คาดว่าจะสามารถผลักดันธุรกิจให้เติบโตกว่าปี 2023 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิ 2Q24 ที่ 7.64 พันล้านบาท (+9.02% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 290.55 บาท

PSL    ปิด 9.75 บาท/แนวรับ 9.40 บาท แนวต้าน 10.40 บาท

KTX คาดกำไรจะเพิ่มขึ้น 104% ในปี 2024E ก่อนที่ผลการดำเนินงานทรงตัวในปี 2025-26E การเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของอัตราค่าระวางสำหรับการเช่าเหมาลำแบบกำหนดระยะเวลา (time charter rate) เป็นเฉลี่ยที่ 12,932 ดอลลาร์สหรัฐฯ/วัน ในปี 2024E จาก 10,907 ดอลลาร์สหรัฐฯ/วัน ในปี 2024E หรือเพิ่มขึ้น 19% YoY โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์และอุปทานเรือ minor bulk ที่สมดุลมากขึ้น โดย KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 11.40 บาท

TFG   ปิด 4.08 บาท/แนวรับ 3.98 บาท แนวต้าน 4.24 บาท

KTX เผยแนวโน้ม 2Q24E คาดต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงต่อเนื่อง 4-5% QoQ ราคาไก่และหมูไทยเพิ่ม ราคาหมูเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 65,000 VND/kg จึงคาดหนุนอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัวเป็น 10.5% จาก 9.5% ใน 2Q23 และ 8.6% ใน 1Q24 และคาดยอดขายโต 13% YoY, 3% QoQ เป็น 15.4 พันล้านบาท เบื้องต้นคาด 2Q24E มีกำไรปกติ 351 ล้านบาท โต 53% YoY, 283% QoQ ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประเมินมูลค่าเหมาะสม 4.37 บาท

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ