ทายาทเจ้าสัวเจริญ ลุย ‘มูเก็ตติ้ง’ ดึงต่างชาติ-คนไทย ขอพรที่ ‘Phenix’ ฉ่ำๆ

จากตำนานห้างพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำกว่า 40 ปี เปลี่ยนมือผู้บริหารมาแล้ว 2 ครั้ง จากธุรกิจในมือตระกูลบุนนาค สู่ภารกิจใหม่ของกลุ่มสิริวัฒนภักดี โดยหลังจากนั้นก็มีการปรับโฉมธุรกิจอีกหลายต่อหลายครั้ง “ขาขึ้น” สุดๆ ในยุคที่ทุกคนมุ่งหน้าสู่ “ห้างพันธุ์ทิพย์” เมื่อนึกถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอที

แต่หลังทศวรรษ 2550 เป็นต้นมา ความเฟื่องฟูเหล่านั้นก็ค่อยๆ ร่วงโรยไปตามยุคสมัย กระทั่งได้ฤกษ์ปรับโฉมครั้งที่ 4 ในชื่อ “ฟีนิกซ์” (Phenix) ที่ “วัลลภา ไตรโสรัส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ความหมายของ “ฟีนิกซ์” สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง ยั่งยืน ไม่มีวันดับสูญ มีนัยเป็นสิริมงคล เมื่อตกลงว่าจะใช้ชื่อนี้ จึงเล่าให้ “เจริญ สิริวัฒนภักดี” ผู้เป็นพ่อฟัง “พอคุยเสร็จคุณพ่อก็โทรหาผู้บริหารว่า ตกลงเราใช้ชื่อฟีนิกซ์แล้วนะ”

“ฟีนิกซ์” ต้องการเป็นศูนย์กลางด้านอาหารแบบครบวงจร มีทั้งค้าส่ง ค้าปลีก รวมถึงร้านสตรีทฟู้ดระดับตำนานและมิชลินสตาร์กว่า 200 ร้านค้า รองรับได้เต็มที่ 265 ร้านค้า ขณะนี้มีร้านค้าเข้าร่วมแล้ว 80% คาดว่า ภายในปีนี้จะเต็มอัตราตามที่ตั้งเป้าไว้ ตัวอย่างร้านสตรีทฟู้ดที่น่าสนใจ ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ อาหลิวราดหน้า อิ๋วหมี่กระเฉดตลาดพลู ขาหมูกระทู้ภูเก็ต ครัวปลาเถื่อน หยกสด เป็นต้น

ส่วนโลเกชันที่ไม่ได้ติดกับถนนใหญ่ “วัลลภา” ระบุว่า แผนระยะยาวของทางห้างมีการจัดเตรียมรถรับส่ง “Shuttle Bus” จำนวน 20 คัน เพื่อรับส่งฟรีตามจุดบริการโดยรอบ ลูกค้าที่นำรถส่วนตัวมาเองทางห้างเตรียมพื้นที่รองรับทั้งหมด 700 คัน และยังเตรียมเช่าพื้นที่จอดรถย่านตลาดนีออนเสริมทัพด้วย ส่วนในอนาคตด้านหน้าห้างจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่าน จึงไม่ได้มองเรื่องการคมนาคมเป็นจุดอ่อน อย่างไรกำลังซื้อย่านนี้ก็เป็นไฮไลต์อยู่แล้ว ถัดจาก “ฟีนิกซ์” มีคอนโดมิเนียมที่เป็นกลุ่มกำลังซื้อแต่ยังไม่มีไลฟ์สไตล์มอลล์ที่เข้ามาตอบโจทย์ ต้องข้ามคลองไปอีกฝั่งจึงเจอกับย่านสยามสแควร์

นอกจากการเป็นฮับความอร่อย “วัลลภา” ยังเปิดเผยด้วยว่า บริเวณชั้น 6 ได้อันเชิญองค์ “พระพิฆเนศวร” ปางเหรัมภะคณปติ หรือ ปาง 5 เศียร 10 กร ประทับนั่งบนพญาราชสีห์ ซึ่งถือเป็นปางแห่งราชาของปางพระพิฆเนศวรทั้งปวง มีบารมีสูงสุด และเป็นเทพแห่งความสำเร็จ มาประดิษฐานดาดฟ้าชั้น 6 ของโครงการ

“วัลลภา” เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า อาจารย์ที่เคารพนับถือเข้ามาดูฮวงจุ้ยในโครงการและบอกว่า เราโชคดีมาก ท่านมาประทานพรแล้วมาอยู่ใกล้ด้วย จากเดิมที่ตั้งใจแกะสลักองค์พระพุทธรูป ปรากฏว่า ทางทีมงานเกิดนิมิตว่า ให้แกะสลักองค์พระพิฆเนศวร รวมระยะเวลากว่าจะออกมาเป็นองค์พระพิฆเนศวร ปาง 5 เศียร 10 กร ใช้เวลาร่วม 2 ปี ใครมาขอพรก็จะสำเร็จรวดเร็วทันใจ โดยเฉพาะเรื่องการเงิน พร้อมเล่าเสริมว่า ก่อนวันเปิดทำการมีผู้เช่าหลายรายเข้ามาไหว้ขอพรสำเร็จไปหลายรายแล้ว

“วันที่เราอันเชิญพระพิฆเนศวร มีผู้เช่าร้านไอทีมากราบบอกว่า ขอยอดขายเยอะๆ ซึ่งทางทีมเล่าว่า แฮปปี้มาก พอตอนเช้าเปิดร้านมีลูกค้ามาจากไหนไม่รู้เปิดบิลกันเยอะแยะเลย เขาก็เข้ามาถวายของเพื่อความสิริมงคล ท่านมาให้พรได้รวดเร็วทันใจ จะได้ชวนกันเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน วันนั้นอาจารย์ก็บอกว่า พระพิฆเนศวรท่านจะมาอยู่ตรงโซนนี้ เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างองค์พระพรหม พระแม่รัศมี พระแม่อุมาเทวี พระศิวะ ท่านจะมาประทานพรที่ตึกนี้ เลยได้มีโอกาสไปกราบท่าน”

ทายาทเจ้าสัวเจริญระบุว่า ตั้งใจให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณดาดฟ้าชั้น 6 เป็นเดสทิเนชันแห่งใหม่ของการมูเตลูโดยกลุ่มเป้าหมายมีทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยสายมู มองว่า ต่อไปนักท่องเที่ยวไม่ได้อยากมากินดื่มอย่างเดียวแล้ว แต่ต้องการเสริมสิริมงคลด้วย 

เมื่อเราถามว่า ตั้งใจให้เป็น “มูเกตติ้ง” ด้วยหรือไม่ ผู้บริหารอาณาจักร “AWC” ยิ้มตอบรับพร้อมบอกว่า “เดี๋ยวขอยืมคำนี้ไปใช้หน่อยนะ”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ