ทำไม ‘Nvidia’ ไม่ติด 1 ใน 100 แบรนด์อันทรงพลัง ทั้งที่มูลค่าบริษัทท็อป 3 ของโลก

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังพลิกโฉมโลก “Nvidia” ผู้ผลิตชิป AI ชั้นนำ กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่หลายคนจับตามอง บริษัทนี้กุมบังเหียนเทคโนโลยีชิป AI ไว้เจ้าเดียว ส่งผลให้มูลค่าบริษัทพุ่งทะยาน “แซงหน้า” ยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีอย่าง Apple และ Microsoft ก่อนจะกลับมาอยู่อันดับ 3 ในปัจจุบัน

ทว่า ความสำเร็จด้านมูลค่ากลับ “สวนทาง” กับอันดับแบรนด์ทรงพลัง “Nvidia” ไม่ติดโผ 100 อันดับแบรนด์ชั้นนำของโลก โดยหากดู “อันดับแบรนด์ทรงพลังที่สุดในโลก” ตามข้อมูลจาก Interbrand บริษัทให้คำปรึกษาด้านแบรนด์ ปรากฏว่า Apple (อันดับ 1) Microsoft (อันดับ 2) Amazon (อันดับ 3) และ Google (อันดับ 4) ติดแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเมื่อปลายปี 2566 โดยทั้ง 4 บริษัทยังติด 1 ใน 5 บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอีกด้วย

ขณะที่ยักษ์ใหญ่ “Nvidia” กลับไม่ติด 1 ใน 100 อันดับแบรนด์ชั้นนำ สวนทางมูลค่าบริษัทแบบ 180 องศา ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

- อันดับแบรนด์ทรงพลังที่สุดในโลก โดย Nvidia ไม่ติดใน 100 แบรนด์แรก (เครดิต: interbrand) -

- อันดับมูลค่าบริษัทสูงที่สุดในโลก โดย Nvidia ติดอยู่ในอันดับ 3 (เครดิต: companiesmarketcap) -

ผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม ขวัญใจคนเล่นเกม

ก่อนที่ Nvidia จะขึ้นมายิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ บริษัทโด่งดังในเรื่อง “การ์ดจอเกม” มาก่อน สำหรับใครที่ต้องการเล่นเกมอย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด และรองรับภาพกราฟิกละเอียดได้ ก็จำเป็นต้องอัปเกรดการ์ดจอของ Nvidia หรือของคู่แข่งอีกค่ายอย่าง AMD

ต่อมารายได้ Nvidia ก็เติบโตสูงขึ้นจากกระแส “ขุดบิตคอยน์” จนการ์ดจอขาดตลาด โดยเราจะเห็นได้ว่า ผู้ที่จะรู้จักแบรนด์ Nvidia นี้ มักจะคลุกคลีกับวงการเกม คอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็ผู้ทำธุรกิจเหมืองบิตคอยน์ อีกทั้งต้องใช้ความรู้ทางศัพท์เทคนิคในการเลือกซื้อรุ่นการ์ดจอเหล่านี้ ทำให้แบรนด์ Nvidia กลายเป็นที่รู้จักเฉพาะกลุ่ม

ต่างจากแบรนด์อื่นที่ทรงพลังและเป็นที่รู้จักกว้างขวางกว่า เช่น “Apple” ตั้งแต่เปิดตัว iPhone สู่ตลาดในปี 2550 Apple สามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนนี้ไปได้มากกว่า 1,500 ล้านเครื่องทั่วโลก ตามข้อมูลจากหน่วยงานสถิติ Statista ยังไม่นับรวมเครื่อง MacBook หูฟัง iPad นาฬิกาอัจฉริยะ ที่เข้าถึงชีวิตประจำวันผู้คนได้ง่ายกว่า

Microsoft ก็เช่นกัน ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows ถูกติดตั้งในคอมพิวเตอร์เกือบทุกเครื่อง เมื่อเปิดจอขึ้นมา ก็จะเห็นแบรนด์นี้ ไปจนถึง Google เสิร์ชเอนจินที่ใคร ๆ ก็ใช้ และ Amazon เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิต ร้าน Starbuck พบเห็นได้ง่ายตามหัวมุมถนนและในห้างสรรพสินค้า ฯลฯ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมแบรนด์เหล่านี้ล้วนติดอันดับที่สูงกว่า Nvidia ทั้งสิ้น

กระแส AI พา Nvidia ขึ้นสู่มูลค่าท็อป 3 ของโลก

แม้ว่า Nvidia จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนทั่วไปมากนัก ถ้าไม่ได้อยู่ในแวดวงเทคโนโลยี แต่เนื่องด้วยบริษัทกุมความล้ำของเทคโนโลยีชิป AI ไว้เจ้าเดียว ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีใด ๆ ไม่ว่า MicrosoftMeta, Alphabet (Google), Amazon หรือแม้แต่ Tesla ก็จำเป็นต้องซื้อชิป AI จาก Nvidia นี้ นั่นจึงทำให้รายได้บริษัทโตกระฉูดและดันราคาหุ้นพุ่งจนมีมูลค่าติดท็อปของโลก หรือเรียกได้ว่ามูลค่าบริษัทเติบโตตามผลประกอบการนั่นเอง

สำหรับ Nvidia มีรายได้ 3 ไตรมาสล่าสุดที่ผ่านมาเติบโตเกินกว่า 200% ในแต่ละไตรมาส และ LSEG ผู้ให้บริการข้อมูลและเทคโนโลยีทางการเงินคาดการณ์ว่า รายได้บริษัทจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปีที่แล้วเป็นกว่า 120,000 ล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2568

นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าของ Nvidia ไม่ใช่ระดับจำนวนมากแบบ Mass Market ที่ต้องใช้กระแสหรือทำให้คนรู้จักกว้างขวาง แต่เน้นขายให้ฝ่ายเทคนิคของเหล่าบริษัทเทคฯ ที่ต้องใช้ประมวลผล AI ยิ่งมีผู้ใช้ AI มากขึ้น จำนวนชิปที่ต้องใช้ก็สูงขึ้นตามไปด้วย นั่นจึงทำให้รายได้ Nvidia ทะยานจนดันมูลค่าบริษัทขึ้นมา โดยที่ผู้ใช้ AI ไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อ Nvidia ก็ได้

- ชิป NVIDIA Blackwell สำหรับฝึก AI (เครดิต: Nvidia) -

จะเห็นได้ว่า แม้ “Nvidia” มีมูลค่าบริษัทสูงมาก แต่การที่บริษัทมุ่งเน้นการจำหน่ายชิป AI ให้กับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ แทนที่จะเจาะตลาดผู้บริโภคทั่วไป ทำให้คนทั่วไปไม่ค่อยคุ้นเคยกับแบรนด์นี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์อย่างชิป และการ์ดจอไม่ได้พบเห็นง่ายในชีวิตประจำวัน จนทำให้การรับรู้แบรนด์ Nvidia ไม่ได้เป็นไปอย่างกว้างขวาง

ดังนั้น โจทย์ท้าทายของ Nvidia ต่อจากนี้ นอกจากเรื่องความล้ำของเทคโนโลยีแล้ว การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเข้าถึงใจผู้บริโภค อาจเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยซื้อใจผู้บริโภค และช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จในระยะยาว ท่ามกลางบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่พยายามสร้างชิป AI ให้เทียบเท่ากับชิป Nvidia

อ้างอิง: statista, cnbc, pcg, techradar, Intra

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...