เปิด 6 เส้นทางเที่ยวหน้าฝน ‘รถไฟไทย’ สไตล์ญี่ปุ่น KIHA 183 และ Royal Blossom

ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยใช้ศักยภาพทางด้านระบบขนส่งสาธารณะ (Logistics) ของประเทศเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดำเนินการร่วมกับพันธมิตรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวหลักได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยรูปแบบใหม่ให้เกิดเป็น AMAZING EXPERIENCE ที่มีคุณค่า และมีความหมายในพื้นที่เมืองหลักเชื่อมโยงเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัดทั่วประเทศ ควบคู่กับการนำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านแนวคิด 5 Must Do in Thailand เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ของรัฐบาล

ในครั้งนี้ ททท.ได้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟ “สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม” นำร่องกิจกรรมในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 ด้วยการเดินทางเชื่อมโยงกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออก

โดยรถไฟขบวน KIHA 183 ทุกสัปดาห์ จำนวน 4 เส้นทาง พร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ราคา 3,999 บาทต่อท่าน ได้แก่

เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ - ราชบุรี วันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2567

เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ - ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2567

เส้นทางที่ 3 กรุงเทพฯ - สุพรรณบุรี วันที่ 20 – 21 กรกฎาคม 2567

เส้นทางที่ 4 กรุงเทพฯ - ปราจีนบุรี วันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2567

เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศให้คึกคักตลอดช่วงกรีนซีซัน (Green Season) ประกอบกับช่วงเดือนมหามงคล เดือนกรกฎาคมนี้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น

ททท. ยังได้เพิ่มแรงส่งอย่างต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม กับกิจกรรม “สิงหาแม่พาเที่ยว” นำเสนอ 2 เส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟ รูปแบบท่องเที่ยว One Day Trip ได้แก่

เส้นทางที่ 1 แม่พาลูกเที่ยว ชวนนั่งรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ - ฉะเชิงเทรา วันที่ 12 สิงหาคม 2567

เส้นทางที่ 2 แม่ชวนลูกเที่ยว Royal Blossom รถไฟสายแห่งความสุข กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี วันที่ 17 สิงหาคม 2567

นอกจากนี้ ทั้ง 6 เส้นทางดังกล่าว ททท. ยังมุ่งออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่สะท้อนแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเส้นทางท่องเที่ยวที่นำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทย 5 สิ่งต้องห้ามพลาด หรือ "5 Must Do in Thailand" ประกอบด้วย

Must Eat : อิ่มอร่อยกับอาหารถิ่น

Must See : ละลานตาวัฒนธรรม

Must Seek : แสวงหา unseen ถิ่นน่าเที่ยว 

Must buy : หัตถกรรมล้ำค่าน่าซื้อฝาก

Must beat : สุดยอดกีฬาท้าทายกายใจ

รวมทั้งเพิ่มอรรถรสระหว่างการเดินทางโดยมัคคุเทศก์มืออาชีพบรรยายความรู้ และข้อมูลต่าง ๆ และเพิ่มความพิเศษให้แก่ช่วงเวลาแห่งความสุข ระหว่างการเดินทางในเส้นทางขบวนรถไฟ KIHA 183 ตลอดเดือนกรกฎาคม 2567 ด้วย อาทิ เส้นทางราชบุรี พบกับกิจกรรม Fashion Show ผ้าขาวม้าบนรถไฟ, เส้นทางสุพรรณบุรี พบกับการแสดงเพลงฉ่อยบนขบวนรถไฟ, เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ พบกับการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ด้วย Saxophone และเส้นทางปราจีนบุรี พบกับเคล็ดลับการสักการะท้าวเวสสุวัณ จากซินแสเป็นหนึ่ง รวมทั้งยังพาแวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว Must See - Must Seek และทำกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อาทิ เส้นทางราชบุรี : ชมการแสดงหนังใหญ่ ณ วัดขนอนหนังใหญ่ และตักบาตรพระล่องแพ ตลาดโอ๊ะป่อย, เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ : ศึกษาเส้นทางธรรมชาติป่าโกงกาง ทุ่งโปรงทอง และร่วมปลูกต้นจิกที่วนอุทยานปราณบุรีเพื่อเพิ่มพื้นทีสีเขียวริมชายหาด, เส้นทางสุพรรณบุรี : สัมผัสอารยธรรมทวารวดี สักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง), เส้นทางปราจีนบุรี : กราบสักการะพระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ เนื่องในวันมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ในหลวงรัชกาลที่ 10, เส้นทางฉะเชิงเทรา: ย้อนกลิ่นอายวันวาน นั่งรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ล่องเรือชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำบางปะกง และเส้นทางกาญจนบุรี : สร้างประสบการณ์สุดคลาสสิค ตามรอยประวัติศาสตร์ชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถ้ำกระแซ สักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม อวโลกิเตศวรพันมือองค์ใหญ่แกะสลักไม้ ด้วยรถไฟขบวน Royal Blossom เป็นต้น

ทั้งนี้ ททท. มั่นใจว่าการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทบุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟดังกล่าว จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตั้งแต่ช่วง Green Season ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น ทั้งเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศอย่างทั่วถึง ช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวบรรลุเป้าหมาย ปี 2567 สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

ในเดือนมกราคม - เมษายน 2567 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในประเทศแล้วกว่า 120 ล้านคน-ครั้ง และเกิดเป็นรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวประมาณ 880,346 ล้านบาท ตลอดจนกิจกรรมนี้จะนำไปสู่การออกแบบสร้างสรรค์และนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟในภูมิภาคอื่นๆ ด้วย

ผู้ที่สนใจจองแพ็กเกจท่องเที่ยวเส้นทางโดยสารรถไฟ ทั้ง 6 เส้นทาง ได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือระบบ D-ticket ของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...