‘ดาต้า-มาร์เทค’ ปิดจุดเสี่ยงธุรกิจ ทางรอด กู้ยอดขาย หนุนโตแกร่ง

แต่อีกด้าน “เทคโนโลยี” เข้ามาปฏิวัติการขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างโอกาสและแต้มต่อให้ผู้ประกอบการให้สามารถอยู่รอดและก้าวสู่มหาอำนาจ ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ด้านการตลาด หรือ  มาร์เทค (MarTech) มาเสริมจุดแข็งให้ธุรกิจ เป็นเป็นบทสรุปจากหัวข้อ Martech and Business Crisis Management ระดมพลัง Martech แก้ปัญหาธุรกิจ จากเวที CTC 2024

ไชยพงศ์ ลาภเลี้ยงตระกูล กรรมการบริหาร บริษัท แพม มาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชั่น  (PAM Marketing Automation) ในฐานะรองนายกสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด (MarTech Association) กล่าวว่า ผู้ประกอบการไทยต้องคิดเสมอว่า ไม่ว่าทำธุรกิจใด อาจถูกดิสรัปทั้งหมด ผู้ประกอบการไม่สามารถทำธุรกิจแบบเดิมได้อีก ทุกอย่างต้องมีการพัฒนาต่อเนื่อง พร้อมรับฟังฟีดแบคของลูกค้านำมาปรับปรุงใหม่ รวมถึงเตรียมแผนงานและกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อธุรกิจขับเคลื่อนไปต่อ

“นอกจากเสี่ยงถูกดิสรัปแล้ว ผู้ประกอบการอาจประสบกับภาวะยอดขายลดลงได้เช่นกัน สะท้อนว่าลูกค้าเดิมไปซื้อสินค้าที่อื่นแน่นอน!”

ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับแนวคิดใหม่ มุ่งสร้างคุณภาพและบริการที่ดี แตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อเพิ่มความประทับใจให้แก่ลูกค้า โดยสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ทางด้านการตลาด หรือ มาร์เทค เข้ามาช่วยทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากที่สุด ทั้งการทำระบบเลือกซื้อสินค้าและระบบจ่ายเงินที่สะดวก

ทุกธุรกิจเสี่ยงถูกดิสรัปได้ทั้งหมด ดาต้า สำคัญ

ยกตัวอย่าง เมื่อมีคู่แข่งจากประเทศจีนเข้ามารุกตลาดในไทย ต้องดูว่า แบรนด์มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าอย่างไรบ้าง เพื่อเสริมศักยภาพสินค้า เห็นได้ชัดเจนจากรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน รุกทำตลาดในไทยอย่างมากเวลานี้

“เรามักได้ยินคนชอบพูดว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่มียุคไหนบ้าง ที่เราบอกเศรษฐกิจดีจังเลย เราต้องตัดคำแบบนี้ออกไป เพราะต้องมีคนยอดขายขึ้น ต้องวิเคราะห์ว่ายอดขายขึ้นเพราะอะไร”

ภาวะที่ธุรกิจมีการแข่งขันรุนแรงมาก แต่มีแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ จากการนำเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยทำให้สามารถออกสินค้าใหม่ได้ต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง แพลตฟอร์มเสื้อผ้าแฟชั่นใหญ่ในโลกอย่าง  ชีอิน (SHEIN) วางกลยุทธ์เปิดตัวสินค้าใหม่ในทุกวัน เนื่องจากมีระบบหลังบ้านในการเก็บข้อมูลของลูกค้าว่ามีความสนใจด้านใด และวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ในเชิงลึก พร้อมสั่งผลิตสินค้าและร่วมมืออินฟลูเอนเซอร์ทำตลาด ทำให้สินค้าที่ผลิตไม่เกิดปัญหาล้นสต็อกและยอดขายหดตัวตามมา

จะเห็นว่า ผู้ประกอบการ ควรติดตามสถานการณ์โดยรอบอย่างใกล้ชิด “วางแผน” เพื่อไม่เกิดปัญหาตามมา หรือ หากยอดขายไม่ได้การตอบรับที่ดีจะปรับตัวอย่างไรต่อไป
 

ไครซิสเกิดขึ้นกับทุกธุรกิจ

จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ นายกสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด กล่าวว่า การประสบภาวะวิกฤติของแต่ละธุรกิจ สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกธุรกิจและแสดงถึงฟีดแบคของลูกค้าที่มีแบรนด์ได้เช่นกัน โดยการเตรียมแผนรับมือผู้ประกอบการควรเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีการตลาดแบบใหม่ หรือ มาร์เทค เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน การนำเสนอสินค้า และวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ตรงใจกับกลุ่มลูกค้า

อีกสิ่งสำคัญของการมี “มาร์เทค” คือ เป็นผู้ช่วยในการเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างมหาศาล ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายลดลง พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และแนวทางหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาป้อนตลาด แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา การเก็บข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า ต้องใช้บริษัทวิจัยมาร่วมสำรวจ ในแต่ละครั้งสามารถเก็บข้อมูลได้ประมาณ 100 คนเท่านั้น เป็นการลงทุนสูง ใช้เวลานาน อีกทั้งในปัจจุบันหากไปสำรวจในบริษัทโฆษณา สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า พร้อมใช้ดาต้า และแพลตฟอร์มมาร่วมประเมินได้ เพื่อทำให้การออกโฆษณาในแต่ละครั้งประสบความผลสำเร็จมากที่สุด

“ผู้ประกอบการสามารถวางระบบ มาร์เทค โดยใช้ดาต้าที่มีอยู่มาประเมินสถานการณ์รอบด้านได้อย่างชัดเจน และหาแนวทางแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อนำมาร์เทคมาใช้ จึงติดตามพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า พร้อมปรับกลยุทธ์และวัดผลได้อย่างรวดเร็ว”

เร่งวิเคราะห์คู่แข่งทางตรง-ทางอ้อม

นารีรัตน์ แซ่เตียว กรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท อินไซท์เอรา จำกัด (Insight Era) กล่าวเสริมว่า เมื่อผู้ประกอบการไทยเผชิญสถานการณ์ยอดขายธุรกิจลดลง ต้องไปพิจารณาว่ายอดขายหายไปอยู่ที่ใด ทั้งคู่แข่งทางตรงและทางอ้อม ต้องมองหาจุดแข็งและจุดขายของแบรนด์ให้เจอ แต่อย่าคิดเพียงว่าแบรนด์อยู่มานานในตลาด เนื่องจากสินค้าและบริการอาจไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบันแล้ว

ขณะเดียวกัน ต้องประเมินคู่แข่งในตลาดว่ามีความพิเศษในด้านใด เสียงตอบรับต่างๆ จากแบรนด์คู่แข่งด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ของ มาร์เทค อย่าง Social listening เครื่องมือในการฟังเสียงผู้บริโภคผ่านโลกออนไลน์ ไปจนถึงปัญหาที่คู่แข่งไม่มีแต่บริษัทมีอยู่และต้องแก้ไขให้ได้ เพื่อหาทางปิดจุดอ่อนรอบด้าน หรือการเลือกใช้เครื่องมืออย่าง อย่าง Affiliate Marketing เป็นการตลาดผ่านออนไลน์ในกลุ่มที่มีอิทธิพลสูงและมีผู้ติดตามผ่านออนไลน์จำนวนมาก เพื่อทำให้เกิดการแนะนำสินค้า และเกิดการป้ายยาต่อไปได้

หากประเมินการใช้มาร์เทค จึงสามารถติดตามได้ตั้งแต่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในเว็บไซต์ว่า สนใจใช้บริการด้านใดมากสุด เกิดปัญหาด้านใด เพื่อทำให้ลูกค้าไม่เข้าไปเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป ทุกอย่างวิเคราะห์ได้ทั้งหมด หากแบรนด์ไม่สนใจในด้านนี้ก็จะเป็นอีกจุดเสี่ยงสำคัญในระยะยาว

“ปัจจุบันหลายธุรกิจอาจเจอสถานการณ์ไครซิสทางธุรกิจในหลายระดับ จึงควรนำเครื่องมือนำเทคโนโลยีทางการตลาดมาร่วมบริหารจัดการ เราต้องรู้ตั้งแต่ต้นทางก่อนยอดขายตกว่า ทำไมยอดขายตก เก็บข้อมูลลูกค้าให้มากที่สุด มุ่งตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนที่ลูกค้าจะหายไป”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...