วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก มาตรการปลุกตลาดทุน

นำโดย GULF จากราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวลง ทำให้ต้นทุนโรงไฟฟ้าลดลง มีแรงขายใน หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ DELTA ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,306.41 จุด +8.12 จุด +0.63% มูลค่าการซื้อขาย 56,463 ลบ. Program Trading -2,986 ลบ. ต่างชาติ -1,580 ลบ. TFEX +22,254 สัญญา ตราสารหนี้ -1,558 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ +0.04% แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลง โดยถูกกดดันจากการร่วงลง ของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) 2 วันติดต่อกันถ่วงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง
+ สหรัฐและจีนหวนกลับมาเจรจาด้านอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง แบบกึ่งทางการในเดือนมี.ค. เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ตัวแทนจีนและสหรัฐกล่าวว่าจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ข่มขู่ไต้หวัน
+ ฝ่ายบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งของเจพีมอร์แกน เชสเปิดเผยว่ามองเห็นสัญญาณของเศรษฐกิจที่กำลังปรับตัวดีขึ้น ในประเทศจีน ซึ่งจะช่วยหนุนธุรกิจของเจพีมอร์แกน เชสในจีน ที่ซบเซาในช่วงที่ผ่านมา
+ นายกฯเดินหน้าแก้กฎหมายให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี ซื้อคอนโดได้ 75% ของสัดส่วนทั้งหมด
+ นายกฯตรวจแหลมฉบังเฟส 3 มั่นใจเปิดท่าเรือ F1 ตามแผน พร้อมรับนักลงทุนต่างชาติ
+ เร็ว ๆ นี้กบง.จะประชุมพิจารณาราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่จะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาจำหน่ายที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 ก.ก. ในวันที่ 30 มิ.ย. 67 โดยจะเสนอตรึงราคาต่อไปอีก 3 เดือนถึง ก.ย. 67

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 56 เซนต์ หรือ -0.69% ปิดที่ 80.73 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความวิตกว่าการขยายตัวของ อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกอาจได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
- สื่อท้องถิ่นของรัสเซียรายงานว่า เรือ Admiral Nakhimov ซึ่งเป็นเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซียจะเริ่มการทดสอบในทะเลในเดือนส.ค.นี้
 

- ญี่ปุ่นประกาศคว่ำบาตรบริษัท 11 แห่งใน 5 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อุซเบกิสถาน และคาซัคสถาน ในข้อหาช่วยเหลือรัสเซียหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษจาก การรุกรานยูเครน โดยมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวประกอบด้วยการอายัดทรัพย์สิน และห้ามส่งออกสินค้าไปยังบริษัทเหล่านี้

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง หลัง Rebound ขึ้นกลับมายืน 1300 จุด ในสัปดาห์ก่อน โดยนักลงทุนยังติดตาม คลัง-ก.ล.ต.-ตลท. แถลงมาตรการปลุกตลาดทุนในวันนี้ คาดดัชนีในวันนี้ที่ 1,300 -1,310 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นที่เข้าคำนวณ SET50 เข้า มีผล 1 ก.ค. : BCP BJC ITC TIDLOR ออก : BANPU COM7 KCE SAWAD SET100 เข้า : BA BJC CKP JAS MBK PRM QH SKY TIPH ออก : AURA BYD FORTH MOSHI NEX ORI SNNP THG TKN
• สินค้าส่งออกเดือน พ.ค. เติบโตดี : HANA KCE CCET AAI ITC STA NER
• หุ้น ESG Rating เด่น : ADVANC BANPU CFP PTTGC SCC

หุ้นรายงานพิเศษ

PRM "ซื้อ"  Bloomberg Consensus 9.25 บาท Upside 13%
คาด 2Q67 โต YoY QoQ และมี 2 ปัจจัยหนุนด้านราคาในระยะสั้น

•งวด 1Q67 มีกำไร 589 ลบ. -4%YoY -24%QoQ โดยหดตัวแรง QoQ เนื่องจาก ไตรมาสก่อนมีกำไรพิเศษจากการขายเรือราว 312 ลบ. หากพิจารณาเฉพาะกำไรปกติ -4%YoY +89%QoQ ขณะที่มีรายได้จากการบริการ 2,132 ลบ. +1.5%YoY +4%QoQ โดยแม้ธุรกิจเรือกักเก็บน้ำมัน FSU (สัดส่วน 27%) -20%YoY จากราคาน้ำมันที่ อยู่ในสภาวะ Backwardation และการขายเรือ FSU 1 ลำ ในช่วง 4Q66 แต่ถูกชดเชยจากกลุ่มเรือขนส่งน้ำมันและปิโตรเคมี (สัดส่วน 42%) +10%YoY จากปริมาณขนส่ง น้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้นตามภาคการท่องเที่ยว ประกอบกับกลุ่มเรือสนับสนุน งานสำรวจ (สัดส่วน 10%) +91%YoY จากการเริ่มให้บริการเรือ 2 ลำใหม่ ส่วน %GPM อยู่ที่ 36.1% (1Q66 = 38.3%, 4Q66 = 32.8%) หดตัว YoY จากสัดส่วนกลุ่มเรือ FSU ที่ลดลง แต่สูงขึ้น QoQ จาก U.Rate โดยรวมปรับดีขึ้น

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 คาดจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ 1) เรือขนส่งน้ำมัน 2 ลำกลับมาให้บริการ หลังจากซ่อมบำรุงช่วง 1Q67 ประกอบกับมีรับเรือลำใหม่เพิ่ม 1 ลำช่วง พ.ค. 67 2) เรือสำรวจ 2 ลำใหม่ให้บริการเต็มไตรมาส และมีอีก 1 ลำใหม่ที่รับเข้ามาช่วงเดือน เม.ย.67 3) กลุ่มเรือ FSU ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว จากแนวโน้มความต้องการกักเก็บน้ำมัน

ประเภทอื่นๆที่เพิ่มขึ้น อาทิ Used Cooking Oil ส่วน 2H67 มีแผนลงทุนต่อเรือและซื้อเรือใหม่ 6-7 ลา ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปกติปี 67 ราว 2,099 ลบ. +16%YoY และราคาเหมาะสม 9.25 บาท Upside 13% นอกจากนี้ ปัจจัยหนุนด้านราคาระยะสั้น 1) แผนซื้อหุ้นคืน 175 ล้านหุ้น (ซื้อไปแล้ว 173 ล้านหุ้น) และ 2) ถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET100 มีผลวันที่ 1 ก.ค. 67

หุ้นมีข่าว

(+) STEC (Bloomberg consensus 10.00 บาท) พร้อมชิงงานรัฐเติมแบ็กล็อกเพิ่ม แย้มอยู่ระหว่างปิดดีล M&A โรงไฟฟ้าต่อยอด เล็งดัน STECON GROUP เข้าเทรดแทน STEC ได้ภายในไตรมาส 3/2567 นี้ มั่นใจปีหน้ามีรายได้จากค่าเช่า Data Center และผลตอบแทนจาก BGSR เข้ามาหนุน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) LEO (Bloomberg consensus - บาท) บิ๊กบอส LEO "เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์" โดดรับอานิสงส์ค่าระวางเรือพุ่ง 10 เท่า หนุนดีมานด์พื้นที่เรือแน่น เชื่อพีค 3 เดือนสุดท้ายของปี ส่องแนวโน้มครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก จับตามาร์จิ้นพุ่งขึ้น 10-15% พร้อมรับทรัพย์บริษัทย่อยปีละ 100 ล้านบาท แย้มซุ่มเจรจายักษ์ใหญ่ต่างแดน ขนส่งอีคอมเมิร์ซ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) APCO (Bloomberg consensus - บาท) เตรียมส่ง ByeByeHIV ข้ามทวีป บุกตลาดแอฟริกา ไนจีเรีย 5 ล้านขวด มูลค่า 5.35 พันล้านบาท ใน 5 ปี เริ่มส่งล็อตแรก 3 แสนขวด ในครึ่งปีหลัง พร้อมทุ่มงบลงทุน 100 ล้านบาท เตรียมซื้อเครื่องจักรเพิ่มกำลังผลิต หนุนรายได้ปีนี้โต 2 เท่าจากปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) FTE (Bloomberg Consensus - บาท) มั่นใจปี 2567 รายได้แตะ 1.3 พันล้านบาท ลุยขายสินค้าบุกตลาด B2C มากขึ้น หวังรัฐเดินหน้าเบิกจ่ายงบครึ่งปีหลังหนุนงานก่อสร้างบูม ตุนงานในมือกว่า 550 ล้านบาท รับรู้เป็นรายได้กว่า 80% สำหรับผลงานไตรมาส 2/2567 ยังเดินหน้าตามเป้าหมายที่วางไว้ (ที่มา ทันหุ้น)

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ