‘แอมเวย์’ ลุยลงทุนดิจิทัลเสริมแกร่ง ดันเรือธงสินค้าสุขภาพเร่งคนรุ่นใหม่

ทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวรุกขยายธุรกิจของแอมเวย์ในปี 2567 มุ่ง “สร้างคอมมูนิตี้ด้านสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ผู้คน” เพื่อร่วมสร้างสุขภาพและสุขภาวะที่ดีให้แก่คนไทย จึงพร้อมต่อยอดขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดจำนวน 20 กลุ่มหลัก รวมถึงมุ่งขยายฐานกลุ่มลูกค้าสมาชิกและกลุ่มนักธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันแอมเวย์ มีฐานนักธุรกิจแอมเวย์กว่า 3.3 แสนคน ซึ่งได้มีการยกระดับนักธุรกิจแอมเวย์สู่ “ครีเอเตอร์” ไปแล้ว 50,000 คน เพื่อร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของผู้คน ในการเปลี่ยนแปลงตัวเองและการดูแลสุขภาพ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในรูปแบบ โซลูชั่น เน้นการดูแลแบบองค์รวม

 

แรงหนุนสำคัญของนักธุรกิจแอมเวย์คือ ฐานลูกค้าสมาชิกที่ในปัจจุบันแอคทีฟ 7.2 แสนราย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แอมเวย์ มีฐานลูกค้าคนไทยที่ใช้ผลิตภัณฑ์สะสมมากว่า 10 ล้านคน ซึ่งต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีสัดส่วนประมาณ 40% ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายและตอบโจทย์ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเช้าสำหรับกลุ่มโปรตีนคนรุ่นใหม่ ล่าสุดกับผลิตภัณฑ์เยลลี่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย)

 

อีกแนวรุกเพิ่มกลุ่มคอมมูนิตี้ผ่านสาขาที่มีอยู่ จากปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการรวม 82 สาขา ได้ทยอยปรับสาขาสู่รูปแบบ “คาเฟ่” รวม 20 สาขา เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของผู้คนที่รักการดูแลสุขภาพ ทั้งกลุ่มนักธุรกิจ ลูกค้าสมาชิก และลูกค้าทั่วไป ประเมินว่าจากแผนทั้งหมดจะทำให้กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่เพิ่มถึงระดับ 50% ในอนาคต

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าแผนลงทุนระยะยาว 1,000 ล้านบาท สร้าง ดิจิทัล อีโคซิสเต็ม ครบวงจร ปรับระบบหน้าเพจการซื้อขาย ระบบหลังบ้าน ให้ความสะดวก รวดเร็ว ผสานเทคโนโลยีเอไอ รวมถึงพัฒนานักธุรกิจแอมเวย์ในด้านดิจิทัล ซึ่งได้เริ่มลงทุนต่อเนื่องมาแล้ว

“สร้างนวัตกรรม-สิทธิบัตร” เสริมแบรนด์แกร่ง

หากประเมินตลาดแอมเวย์ทั่วโลก พบว่า ยอดขายสูงสุด คือ ประเทศจีน ตามมาด้วย สหรัฐ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศไทย ซึ่งติดอันดับที่ 5 ทั้งที่ไทยมีขนาดเล็กกว่าประเทศอื่นๆ 10 เท่า โดยมีผลิตภัณฑ์สร้างยอดขายสูงสุดมาตลอดกับ “บอดี้คีย์” ที่เปิดแบรนด์ทำตลาดมากว่า 10 ปี สร้างยอดขายในประเทศไทยสูงสุดในโลก

“แอมเวย์ เติบโตท่ามกลางการแข่งขันในตลาดโลกที่มีความรุนแรง เพราะให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีการลงทุนด้านนวัตกรรมมาตลอด ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเข้ามาร่วมมือกว่า 800 คน ภาพรวมแอมเวย์ทั่วโลกมีโปรดักต์ที่สร้างยอดขายดีทั่วโลกอันดับหนึ่งมายาวนานได้แก่ คือนิวทริไลท์ แบรนด์วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งมีการจดสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้วกว่า 150 รายการ”

 

 

สำหรับนิวทริไลท์ เป็นแชมป์เปี้ยน โปรดักส์ ซึ่งแอมเวย์ได้ลงทุนในแบรนด์นี้ เป็นผลิตภัณฑ์มีแหล่งปลูกจากฟาร์มระบบ “ออร์แกนิก” (Organic Farming) ใน 4 แห่ง 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐ เม็กซิโก และบราซิล สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เน้นองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม

อีกทั้งมีแหล่งวิจัยสำคัญอยู่ที่ “ศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์แห่งเอเชีย” (Amway Botanical Research Center) หรือ ABRC ที่เมือง อู๋ซี ประเทศจีน เป็นศูนย์วิจัยศึกษาและพัฒนาพฤกษศาสตร์สมุนไพรจีนออร์แกนิกแห่งแรกในโลก มีขนาด 298 ไร่ ใหญ่สุดในเอเชีย นับเป็นศูนย์ที่ถ่ายทอดจากปรัชญาจาก “คาร์ก เรห์นบอร์ก” ผู้ก่อตั้งนิวทริไลท์ 

 

ศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์แห่งเอเชีย เป็นแหล่งศึกษาพันธุ์พืชแถบเอเชียและสมุนไพรจีนครบวงจร ตั้งแต่การปลูกตามระบบมาตรฐาน ผสมผสานด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมระบบสมาร์ตเฮิร์บ (Smart Herb System) ฐานข้อมูลอัจฉริยะสมุนไพรใหญ่สุด โดยแอมเวย์ในประเทศไทย จึงมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ นิวทริไลท์ ที่มีสมุนไพรจีนเป็นส่วนประกอบทั้ง นิวทริไลท์ คอลลาเจน, นิวทริไลท์ เฮอร์บัล มิกซ์, นิวทริไลท์ จูจูบี ไนท์, นิวทริไลท์ หลินจือ เฮอร์บัล พลัส, นิวทริไลท์ ซิสแทนเซ และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เตรียมเปิดตัวปลายเดือน มิ.ย.นี้ กับ “นิวทริไลท์ ลิวิท็อกซ์” (Livitox)

ทั้งหมดจะร่วมผลักดันแผนของแอมเวย์มุ่งสู่แบรนด์สุขภาพอันดับหนึ่ง (Health & Wellbeing) ตอบโจทย์การดูสุขภาพแบบครบวงจร 360 องศา ทำให้คนไทย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตที่มีคุณภาพดี (Health span) แข็งแรงยืนยาว

 

 

อีกทั้งผลักดันให้ปี 2567 ภาพรวมยอดขายของแอมเวย์ กลับมาบวกได้อีกครั้ง จากการเร่งขยายตลาด มีแชมป์เปี้ยนโปรดักส์ กับ เครื่องกรองน้ำ อีสปริง กลุ่มผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์ ที่เน้นดูแลสุขภาพ ช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดขายตรงกลับมาคึกคัก

ในปีที่ผ่านมา แอมย์เวย์มียอดขาย 18,000 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าเป็นไปตามสถานการณ์ของตลาด โดยประเมินว่า 5 ปีข้างหน้า จะสร้างยอดขายรวมแตะระดับ 30,000 ล้านบาทตามแผน

“ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อปีนี้หลายคนอาจมองว่ายังไม่ดีนัก แต่แอมเวย์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเติบโตสวนกระแส ซึ่งหลังโควิด ผู้คนต่างให้ความสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น เป็นเทรนด์ที่มาแรงทั่วโลก ทำให้สนใจผลิตภัณฑ์วิตามินและเสริมอาหารสูง ทั้งยังเห็นเทรนด์คนรุ่นใหม่สนใจเป็นนักธุรกิจแอมเวย์มากขึ้น เพราะต้องการมีอิสระในการใช้ชีวิต”

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

UN โหวตไทย เป็นคณะมนตรี UNHRC 1 ใน 18 ประเทศด้วยคะแนนสูงสุด

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รั...

ชาวอเมริกันในไทยหย่อนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าคึกคัก

วันนี้ (10 ต.ค.2567) ชาวอเมริกันประมาณ 20 -30 คน ออกมาหย่อนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่หน้าสถานทูตสหรัฐใ...

‘อาร์โนลต์’ ขยายอาณาจักรสู่ ‘วงการฟุตบอล’ รุกซื้อหุ้นสโมสรปารีส เอฟซี

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า “ตระกูลอาร์โนลต์” เจ้าของอาณาจักรแบรนด์หรู LVMH ระดับโลก ใกล้บรรลุข้อต...

COP29 เปิดตัวพอร์ทสั่งอาหารออนไลน์ เมนูยั่งยืน เชื่อมโยงวัฒนธรรมทั่วโลก

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2024 The COP29 Azerbaijan Operating Company บริษัทดำเนินงาน COP29 ในประเทศอาเซอ...