‘เบลล์’ แตกพอร์ตลุยเครื่องดื่มสุขภาพครบวงจร

ตลาดเครื่องดื่มรังนกในประเทศไทยมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ท่ามกลางแบรนด์ใหญ่จากต่างประเทศครองส่วนแบ่งการตลาดสูง แต่แบรนด์สัญชาติไทย “เบลล์” (Bell) เปิดตลาดมากว่า 18 ปีแล้ว ผลักดันแบรนด์ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งรับเทรนด์สินค้าเพื่อสุขภาพที่มีความร้อนแรงในตลาดไทย

นายสุรชัย พิมพ์ประไพภรณ์ กรรมการบริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม แอนด์อาร์ ดิสทริบิวเตอร์ กล่าวว่า เครื่องดื่มรังนกแบรนด์ “เบลล์” เดินหน้ารุกตลาดอย่างเต็มสูบ โดยใช้งบ 50 ล้านบาท เพิ่มยอดขายผ่านพรีเซ็นเตอร์ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ต่อเนื่องปีที่ 2 พร้อมรุกตลาดต่างประเทศมุ่งสู่แบรนด์ระดับภูมิภาค

สำหรับสินค้ารังนกเตรียมเปิดตัวสินค้ากลุ่มใหม่รังนกแห้ง ในบรรจุภัณฑ์แบบกล่องเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า สามารถนำรังนกไปแปรรูปสู่เมนูอาหารต่างๆ พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายสู่ห้างค้าปลีก อาทิ แม็คโคร และโลตัส รวมถึงวางแผนขยายตลาดส่งออกไปจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และไต้หวัน

ทั้งเพิ่มยอดขายในประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ที่เข้าไปทำตลาดแล้วใน ลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม อีกทั้งจะเร่งเครื่องทำตลาดผ่านออนไลน์ ร่วมขยายฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มคนทำงาน เป็นต้น

นอกจากนี้ได้ลงทุน 200 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตรังนก ในโรงงานที่จังหวัดนครปฐม เน้นใช้ระบบออโตเมชั่นทำให้สามารถผลิตรังนกเพิ่มขึ้นได้ 8 เท่า รองรับการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ คาดโรงงานใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 2568 นับเป็นการลงทุนมากสุดตั้งแต่สร้างธุรกิจมากว่า 18 ปีแล้ว

อย่างไรก็ดี จากฐานกลุ่มเครื่องดื่มรังนก ที่เจาะตลาดกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มคนทำงานได้แล้ว ทำให้บริษัทสนใจขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ไปยังวัยรุ่นและคนที่สนใจดูแลสุขภาพ จึงเพิ่มพอร์ตโฟลิโอกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมเวย์โปรตีนเพื่อเจาะเซ็กเมนต์ใหม่ เริ่มทำตลาดช่วงครึ่งปีหลังนี้เจาะช่องทางร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต

“น้ำผลไม้ที่มีเวย์โปรตีนยังไม่มีมาก่อนในตลาด ทำให้แบรนด์ต้องการขยายเซ็กเมนต์ใหม่นี้ พร้อมเข้ามาแก้ปัญหาในตลาดเวย์โปรตีน ที่ทุกคนบอกว่ารสชาติไม่อร่อยและมีกลิ่น แต่เราออกแบบให้ดื่มง่าย”

ทั้งหมดเป็นไปตามยุทธศาสตร์ 5 ปีข้างหน้า มุ่งขยายพอร์ตโฟลิโอกลุ่มเครื่องดื่มสุขภาพครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ เดินหน้าสู่การเป็นบริษัทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน

ในปี 2567 คาดสร้างยอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนมียอดขายกว่า 600 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมา เติบโตกว่า 20% โดยท่ามกลางตลาดเครื่องดื่มรังนกที่มีการแข่งขันสูง บริษัทมีความได้เปรียบของฐานผลิตรังนกในประเทศไทย ที่ผ่านมาได้พื้นที่สัมปทานรังนกเพิ่มในจังหวัดชุมพรรองรับการขยายตลาดในอนาคต

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ