“อนุทิน” ขอบคุณ สส. โชว์ศักยภาพส่งพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาลสำเร็จ “ภราดร” โต้ “ปกรณ์วุฒิ” แฉพรรคร่วมบีบก้าวไกลรับ ปธ.กมธ. 6-7 คณะที่ถูกเมิน แจง หลายพรรคก็ซ้ำแต่ตกลงกันได้ มีแค่พรรคเดียวไม่ยอมถอย
วันที่ 5 กันยายน 2566 ในช่วงเย็น พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ ก่อนเข้าวาระการประชุม นายอนุทิน ได้แจ้งให้ สส.ของพรรค รับทราบถึงการที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะทำให้ ครม.ชุดนี้ เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศแทนรัฐบาลชุดที่แล้ว พร้อมทั้งขอบคุณสมาชิกที่ร่วมมือกันทำให้พรรคภูมิใจไทยมีเหตุผลและมีศักยภาพในการที่จะเข้าไปเป็นพรรคหนึ่งในการร่วมรัฐบาล
ในเวลาต่อมา นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดสรรตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร 35 คณะ ซึ่งมีการสอบถามกันว่าแต่ละพรรคมีความถนัดในงานด้านไหน และมีความต้องการที่จะเป็นประธาน กมธ.ชุดใด ปรากฏว่ามีความต้องการซ้ำกันอยู่ 6-7 คณะ ของหลายพรรคการเมือง เช่น พรรคประชาธิปัตย์ซ้ำกับพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ซ้ำกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็มีการเจรจาแลกเปลี่ยนกันว่าสามารถสลับกันได้หรือไม่ โดยแต่ละพรรคก็พูดคุยได้กันพอสมควร
...
แต่ติดที่พรรคก้าวไกล ซึ่ง นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พรรคก้าวไกลถูกฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลรุมกินโต๊ะนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะการซ้ำซ้อนกันของ กมธ. ไม่ได้มีเฉพาะพรรคก้าวไกล แต่เขาเจรจากันได้ มีเพียงพรรคก้าวไกลที่ยังเจรจาไม่ลงตัวเท่านั้น เช่น กมธ. ติดตามงบประมาณ และ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ซึ่งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลมีความประสงค์เดียวกัน จึงมีการเจรจากันแล้วให้พรรคก้าวไกลได้ประธาน กมธ.ติดตามงบประมาณ ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ประธาน กมธ.ป.ป.ช. แต่พรรคก้าวไกลต้องการทั้ง 2 คณะ ซึ่งการเจรจากับพรรคอื่นก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน คือไม่ยอมถอยให้พรรคการเมืองอื่น ถ้าเป็นแบบนี้ในระยะยาวดูแล้วคงไม่สามารถตกลงกันได้ แต่ก็ยังต้องเจรจากัน
ส่วนกรณี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในฐานะประธานการประชุมตัวแทนพรรคการเมือง ระบุว่า หากตกลงกันไม่ได้อาจต้องใช้วิธีจับสลากนั้น นายภราดร ระบุว่า จริงๆ ไม่ใช่วิธีการจับสลาก แต่เป็นวิธีการผลัดกันหยิบของแต่ละพรรค ซึ่งที่ประชุมยังไม่เห็นด้วยกับวิธีดังกล่าว และในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่มีการจำกัดวิธี แต่ช่วงที่ผ่านมาใช้วิธีการเจรจา โดยเชื่อว่าจะไม่ไปถึงการจับสลาก
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่ากรณีที่ นายปกรณ์วุฒิ ระบุ มีความพยายามให้พรรคก้าวไกลไปนั่งประธาน กมธ. 6-7 คณะ ที่ไม่มีคนต้องการนั้น นายภราดร ชี้แจงว่า “ขึ้นอยู่กับการเจรจาพูดคุยกันว่า 6-7 คณะ ที่เขาชนหมดเลย ก็ต้องคุยกันว่าจะยอมถอยได้สักกี่คณะ ผมคิดว่ายังอยู่ในระยะเวลาที่พอพูดคุยกันได้”
เมื่อถามย้ำว่าสุดท้ายแล้วจะสามารถเจรจากันได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการจับสลากใช่หรือไม่ นายภราดร เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองอยากที่จะให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการให้เร็วที่สุด เพราะถือเป็นอีกกลไกหนึ่งในการตรวจสอบรัฐบาลตามที่พรรคก้าวไกลได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังเป็นกลไกในการช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้.